Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ขอสนองตามคำเรียกร้องของคุณทองรำไร ว่าด้วยเรื่อง ปรส.{แตกประเด็นจาก P11786188} ติดต่อทีมงาน

ก่อนที่จะจะพูดถึงความคืบหน้าขอเท้าความที่มาของเรื่อง ปรส.ก่อนดังนี้

ปรส. ประชาธิปัตย์ขายชาติ
มิถุนายน 22nd, 2009 by admin
ดีเอสไอฟันธง คดี ปรส.ผิดจริง คนขายชาติตัวจริง ประชาธิปัตย์

นาย ไกรสร บารมีอวยชัย รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นประธานประชุมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับอัยการสำนักคดีพิเศษ และที่ปรึกษาจากกระทรวงการคลัง

สรุปสำนวนคดีการขายทรัพย์สินขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ใช้เวลาประชุมนานประมาณ 2 ชั่วโมง ร่วมกันแถลงว่า

ในการสอบสวนมุ่งถึงการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

จาก การนำทรัพย์สินของ 56 สถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการ มูลค่า 851,000 ล้านบาท ไปประมูลขายเพียง 190,000 ล้านบาท และการดำเนินการของ ปรส. ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่มุ่งแก้ไข ระบบสถาบันการเงินด้วยการฟื้นฟูฐานะของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินการ

แต่ ขั้นตอนดำเนินการของ ปรส. กลับไม่แยกหนี้ดี หนี้เสีย เพื่อแยกหนี้ดีไปให้กับธนาคารรัตนสิน จำกัด (มหาชน) นำไปบริหาร ทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ต่างชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ
รายงานระบุว่า คดี ปรส. มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 5 คดี

ประกอบด้วย

คดี ที่ 1 กรณี บริษัท เลห์แมนบราเดอร์ โฮลดิ้ง อิงค์ ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยจาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมโกลบอลไทยพร็อพเพอร์ตี้ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2541 ยอดคงค้างทางบัญชี 24,616.95 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 11,520 ล้านบาท

คดีที่ 2 กรณีบริษัท โกลด์แมน แซคส์ เอเชีย ไฟแนนซ์ จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมบางกอกแคปปิตอล ยอดคงค้างทางบัญชี 115,890.96 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 22,454.87 ล้านบาท

คดีที่ 3 – 4 กรณี บริษัท เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับ กองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 1 – 3 ยอดคงค้างทางบัญชี 64,303.34 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 23,176.38 ล้านบาท

คดีที่ 5 กรณี บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมวีแคปปิตอล ยอดคงค้างทาง บัญชี 12,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท

ในคดีที่ 1 มีการสอบปากคำพยานบุคคล ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รวม 106 ปาก แยกประเด็นการสอบสวนออกเป็นประเด็นข้อกฎหมายและประเด็นข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้หลักฐานถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิรูปสถาบันการเงิน และกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงการจงใจหลีกเลี่ยงภาษี

หลายกรณี ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น 10 ประเด็น

ประกอบด้วย
1. ปรส. ยินยอมให้นิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ปรส. เข้าประมูลซื้อทรัพย์สินจาก ปรส. โดยมิชอบ
2. คณะกรรมการ ปรส.บางคนมีส่วนเกี่ยวข้อง ปกปิดข้อเท็จจริง กระทำการโดยไม่โปร่งใส
3. ข้อกำหนดของ ปรส. ที่ให้ผู้ชนะการประมูลโอนสิทธิได้ขัดต่อกฎหมาย
4. การโอนสิทธิ ของผู้ชนะการประมูลไม่ชอบ ขัดต่อ พ.ร.ก.ปรส.
5. ข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของคณะกรรมการ ปรส. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
6. คณะกรรมการ ปรส. และกลุ่มนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ปรส. ฝ่าฝืนข้อสนเทศการขายทรัพย์สิน
7. กองทุนรวมที่รับโอนสิทธิจากผู้ชนะการประมูลซื้อทรัพย์สินจาก ปรส. ยังไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
8. มีการทำสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
9. สิทธิของนิติบุคคลที่ชนะการประมูลไม่สมบูรณ์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของปรส. และ
10. ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ปรส.บางคนขาดคุณสมบัติ เนื่องจากดำรงตำแหน่งทับซ้อนกับสถาบันการเงินอีกแห่ง

การ ขายทรัพย์สินของสถาบันการเงินทั้ง 56 แห่ง ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นความผิดทางอาญา

หลังจากนี้ กรรมการ ปรส. ที่รู้เห็นเกี่ยวข้องโดยตรงในการขายและนิติบุคคลที่มีส่วนร่วมและสนับสนุน ให้เจ้าหน้าที่กระทำผิดอาญาจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 ราย จะถูกดำเนินคดี ฐาน เป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และร่วมกันกระทำโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบายเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ในคดีภาษีอากรต้องระวางโทษจำคุก 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 -200,000 บาท

ถ้าคดีนี้ฟ้องได้ ก็มีโอกาสที่ประเทศจะได้เงินกลับคืนมา สำหรับคดีนี้เกี่ยวพันกับบริษัทใหญ่หลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ
ความ เสียหายที่เกิดขึ้นจากการขายสินทรัพย์ของ ปรส. ที่ผ่านมา เคยตั้งนายยุวรัตน์ กมลเวชช เป็นกรรมการตรวจสอบ และได้ตั้งประเด็นในการตรวจสอบตรงกับการสอบสวนของดีเอสไอ การสอบสวนพบพยานหลักฐานว่ามีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหาก ดีเอสไอ สั่งฟ้องคดีที่ 1 เรียบร้อย ก็จะเป็นบรรทัดฐานข้อกฎหมายที่จะมาใช้ฟ้องกรณีบริษัทอื่น ๆ ต่อไป

blog.wordthai.com/ปรส-ประชาธิปัตย์ขายชาติ

อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันความสับสน ต้องแยกเป็น 2 เรื่องดังนี้น่ะครับ

1 ) เรื่องที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรีคิดตั้งคณะกรรมการสอบ เรื่อง ปรส. โดยมอบหมายให้นายกสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่งตั้งคณะกรรมสอบ ปรส.

และศึกษาต่อเนื่องจาก ศปร.ศศปร.โดยมีนายยุวรัตน์ กมลเวช เป็นประธาน และกรรมการจากภาครัฐและเอกชน จำนวน 10 ท่าน เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2544 หลังจากนั้นอัยการส่งฟ้อง'อมเรศ'กับพวกทุจริต ปรส.

ซึ่งศาลรับฟ้องตามอัยการคดีพิเศษยื่นฟ้องอดีตประธานปรส.-เลขาปรส. -บริษัทเลแมนฯ รวม 6ราย ฐานผิดพ.ร.บ.พนักงานองค์กรรัฐ ทุจริตขายสินทรัพย์สถาบันการเงิน56แห่ง นัดตรวจหลักฐาน20ต.ค.

ตอนนี้เป็นคดีอยู่ในชั้นศาลคดีหมายเลขดำที่ อ.3344 / 2551 ขออนุญาตไม่ลงน่ะครับ เพราะยาวมากๆ..

สนใจดูที่ลิงค์http://www.oknation.net/blog/50000up/2011/01/04/entry-2
และ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20090730/64474/ศาลนัดสืบพยานโจทย์ครั้งแรกคดีปรส.ปี53

ถ้าลิงค์ไม่ขึ้น กรุณาคัดลอกคำว่า ศาลนัดสืบพยานโจทย์ครั้งแรกคดีปรส.ปี53 แล้วเอาไปวางที่google..แล้วเลือกอ่านเองครับ


2 ) เรื่องกล่าวหาเกี่ยวกับองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันทางการเงิน ( ปรส. ) ที่อญุ๋ในระหว่างการดำเนินการของ ..ปปช..

ถ้าท่านคลิกไปที่http://www.nacc.go.th/more_news.php?cid=88&filename=index

ท่านจะได้รับคำตอบเช่นนี้ครับ

เรื่องกล่าวหา นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับพวก กรณีการขายทรัพย์สินของสถาบันการเงิน ที่ถูกปิดกิจการตามสัญญาขายสินเชื่อพาณิชย์ และสินเชื่ออื่น (FRA 06 – CO) ให้ ASO I (Delaware) L.LC และกองทุนรวมแกมม่าแคปปิตอลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐและสถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการ

คณะอนุกรรมการไต่สวนดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว

ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง

ลงวันที่ 21 ก.ค.2553..สรุปแล้วจะเห็นว่าไม่มีอะไรคืบหน้าเลย..

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ร้อนใจ ได้อย่างไรครับ..ท่าน..ก็นี่มันผ่านมากี่ปีแล้ว..ปีหน้าก็หมดอายุความแหล่ว..?

แต่คดีคู่ความอย่างคุณทักษิณ กับพวกทำไมมันเร็วแท้ครับ..

ขอเรียนว่าไม่เคยคิดว่าท่านเลือกปฏิบัติ..แต่ก็อยากให้ปฏิบัติให้เหมือนๆกัน..

เห็นท่านกล้าณรงค์ว่า เริ่มที่ 30000 คดี มารับเพิ่มอีก 10000 คดี ตอนนี้เหลือราว 8000 คดี..

แล้วทำไมคดีนี้มันถึงอืดเหมือนเรือเกลือล่ะครับ..ช่างต่างกับเรื่องแรกแท้ๆเขาไปถึงศาลแล้ว ส่วนสำนวนของท่านส่งถึงอัยการหรือยังครับ..?

ผมเปลี่ยนจากวัยรุ่น มาเป็นวัยร่วงแล้วน่ะครับ..ผมอยากเห็นตอนจบเสียที..เพราะผมก็เป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของคนพวกนั้น ในเวลานั้นเช่นกัน..



และหากสมาชิกท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมก็เชิญเสริมหรือแก้ไขได้น่ะครับ



หมายเหตุ : คดี ปรส. ที่อยู่ใน ปปช. ไปถึงไหนแล้ว จะหมดอายุความปี 2556 แล้วน่ะครับ..
ส่วนคดี หญิงเป็ด กรณีกฐินหลวง ไปถึงไหนแล้วครับ
แก้ไข..ลิงค์ไม่ขึ้น
แก้ไข ( 2 ) ตัวเลขผิด

แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 07:01:06

แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 05:35:17

จากคุณ : แมวน้ำสีคราม
เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 05:22:19 A:180.180.88.254 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com