(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 3 มีนาคม 2555)

ข้อเสนอเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ "วัฒนา เมืองสุข" นั้นอาจดู
เหมือนว่าจะมาผิดที่ผิดเวลาไปบ้าง

เพราะกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เริ่มไปแล้ว

ตามแนวทางของรัฐบาล เขาเสนอแก้ไขมาตรา 291 เพื่อเปิดช่อง
ให้มี ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ

ดังนั้น รัฐธรรมนูญใหม่จะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับ ส.ส.ร.

ใครจะให้สัมภาษณ์อย่างไร จะดุดันหรือเข้มข้นแค่ไหนก็ได้

แต่ก็มีน้ำหนักเพียงแค่ "ความเห็น" หรือ "ข้อเสนอ" เท่านั้น

เพราะคนที่จะตัดสินใจคือ ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง
ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้นับ 1 เลย

บทสัมภาษณ์ของ "วัฒนา" จึงเป็นเพียงแค่ "ข้อเสนอ"
ของคนคนหนึ่งเท่านั้นเอง

เพียงแต่บังเอิญว่า "ทักษิณ ชินวัตร" เอ่ยปากชมการอภิปรายใน
สภาของ "วัฒนา" บนเวทีเสื้อแดงที่โบนันซ่า เขาใหญ่ เท่านั้นเอง

ความเห็นของ "วัฒนา" จึงมีพลังมากขึ้น

แต่หากถามว่าข้อเสนอเรื่องการปรับปรุงองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ
และศาลปกครอง เป็นเรื่องใหม่หรือไม่

คำตอบคือ "ไม่"

อย่าลืมว่าการเคลื่อนไหวของ "คนเสื้อแดง" ในช่วงปี 2553 นั้น
วาทกรรมหนึ่งที่ "แกนนำ" สร้างขึ้นมาและสามารถเรียกคนเข้า
ร่วมการชุมนุมได้มากที่สุดคือ คำว่า "สองมาตรฐาน"

วาทกรรมที่ไพเราะนั้น ใครๆ ก็สร้างได้

แต่วาทกรรมที่ปลุกเร้าคนให้เข้าร่วมการชุมนุมนั้นต้องมี
"ข้อมูล" บางประการเป็น "เชื้อเพลิง"

มิเช่นนั้น "ไฟ" แห่งความคิดจะจุดไม่ติด

ต้องยอมรับว่าคำวินิจฉัยในหลายเรื่องไม่สอดคล้องกับ
"ตรรกะ" พื้นฐานในใจคน

ไม่ว่ากรณีที่ดินรัชดาฯ

เรื่อง "สมัคร สุนทรเวช" ต้องพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี

กรณีเขาพระวิหาร

การยุบพรรคที่ฟังคำชี้แจงเช้า ตัดสินบ่าย ฯลฯ

ทุกเรื่องราวกลายเป็น "จิ๊กซอว์" ที่ต่อเชื่อมเป็นรูปภาพชัดเจน
ในวันที่จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร

นั่นคือ เรื่องราวในอดีตที่เปรียบเสมือน "กองไฟ" ที่ลุกโชนในแผ่นดินไทย

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

คำสัมภาษณ์ของ "วัฒนา" จึงเป็นเพียง "ควัน" จากกองไฟในอดีต

ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างไร

แต่สถานการณ์ในวันนี้ข้อเสนอของ "วัฒนา" เหมาะสมหรือไม่นั้น
เป็นเรื่องที่ ส.ส.ร.ในอนาคตต้องพิจารณา

ในขณะที่เราต้องล้างหูรับฟังความเห็นขององค์กรอิสระทั้งหลาย
ที่ออกมาตอบโต้ "วัฒนา"

เราก็ต้องไม่ลืมเรื่องราวในอดีต

ทุกเรื่องราวในโลกนี้ล้วนมี "เหตุ" มี "ผล"

ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก

เพราะมี "เหตุ" จึงมี "ผล"

เพราะมี "ไฟ" จึงมี "ควัน"

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1330771005&grpid=&catid=02&subcatid=0207

ทุกอย่าง ดูเหมือนชัดเจน  ถึงที่มาของคำว่า "สองมาตรฐาน"

ที่ดูเหมือน  มีการเลือกปฏิบัติ