รู้มั๊ย อินู๋ ต้องแจ้นไปญี่ปุ่นทำไม .... เพราะ 1ใน10 บริษัทญี่ปุ่น ไม่มั่นใจในแผนป้องกันน้ำท่วมของอินู๋ อิอิ{แตกประเด็นจาก P11794154}

“ลองหาข่าวอ่านเอาเองเถอะครับ  ถ้าตาไม่มืดบอด  ^_^
เขาจะย้ายฐานหนีกันหมดแล้ว  เพราะความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำของ อินู๋
และ  น่าจะรวมไปถึง  มันสมองที่ใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆของบ้านเมืองด้วย
บอกไว้ตรงนี้  ที่ไปญี่ปุ่น  เพราะต้องไปคุกเข่าอ้อนวอน  อย่าให้พวกเขาย้ายหนีน้องน้ำจากประเทศไทยจร้าาา  อิอิ..”

ผมว่าคุณนั่นแหละ สิวขึ้นสมองจนลามไปลูกกะตา ไปถึงจิตใจ..นี่ถ้าไม่เป็นเดช ไอ้บอด..ก็คงเป็นแมงสาบไร้หนวดนำทางซะแล้ว..

โปรดอ่าน..

โพสต์ทูเดย์ รายงานอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย โดยองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) พบว่า ไตรมาส 1 ปี 2555 ความเชื่อมั่นของนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยสูงขึ้น แต่ยังคงมีปัจจัยทางด้านการเมืองที่เป็นข้อกังวลของนักลงทุนอยู่ ขณะที่แนวโน้มการลงทุนของญี่ปุ่น นักลงทุนเกือบ 100% ยังยืนยันที่จะลงทุนในประเทศไทยต่อไป มีเพียง 2-5% ที่จะทบทวนว่าจะย้ายการลงทุนหรือไม่
ด้าน ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังการเข้าพบนายเซ็ทซึโอะ อิอูจิ ประธานเจโทร ว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนญี่ปุ่นต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวมปรับตัวดีขึ้น โดยระดับความเชื่อมั่นกลับมาดีเกือบเท่ากับในช่วงก่อนน้ำท่วม

ขณะเดียวกันทางเจโทรได้มาหารือเพื่อเตรียมการรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อชักจูง และตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่น โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะมีการจัดสัมมนาใหญ่กับนักลงทุนญี่ปุ่นในวันที่ 7 มี.ค. 2555 ที่โตเกียว และวันที่ 8 มี.ค. ที่เมืองนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ บีโอไอ จะชี้แจงมาตรการการรองรับการลงทุนของประเทศไทย รวมถึงมาตรการฟื้นฟูธุรกิจและสิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับนักลงทุนที่ตัดสินใจลงทุนในพื้นที่เดิม โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ เป็นระยะเวลา 8 ปี เป็นต้น เพื่อยอกย้ำและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน เนื่องจากขณะนี้นักลงทุนบางส่วนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะในเขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ อยู่ระหว่างการรอการตัดสินใจว่าจะขยายการลงทุนต่อไปในพื้นที่เดิมหรือไม่

“การเดินทางไปญี่ปุ่นในครั้งนี้ เพื่อไปตอกย้ำ ความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ว่าไทยยังพร้อมที่จะเป็นแหล่งรองรับการลงทุนจากญี่ปุ่นอยู่ รวมทั้งจะใช้เวทีนี้ในการชี้แจงแผนการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของรัฐบาลให้นักลงทุนทราบ” ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้หารือกับนายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ว่า โตโยต้าฝากให้ช่วยดูการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการปรับโครงสร้างทางภาษีตามความสามารถในการประหยัดพลังงาน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากเดิมที่เก็บภาษีตามขนาดของเครื่องยนต์

http://www.logistics2day.com/app_website/Community/newsevent.aspx?id=1927

และถ้ายังข้องใจ ดูที่ข่าวนี้อีกข่าว

"โตโยต้าจะไม่หยุดการขยายธุรกิจในอาเซียน และเมื่ออาเซียนก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ก็จะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ละประเทศต้องพัฒนาตัวเองด้วยการเรียนรู้จากประเทศอื่นและนำจุดแข็งของตัวเองมาใช้ให้เกิดประโยชน์ พร้อมกันนี้หวังว่ารัฐบาลจะเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เปิดเสรีการลงทุน และปรับเปลี่ยนกฎข้อบังคับให้มีความสอดคล้องกันภายในอาเซียน"  ผู้บริหารของโตโยต้า กล่าว

ทรรศนะดังกล่าวสอดคล้องกับผลการสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งจัดทำโดยคณะสำรวจเศรษฐกิจ หอการค้าญี่ปุ่นฯ ที่ระบุว่า บริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ หรือ 85% ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์อุทกภัยในไทยเมื่อปีที่ผ่านมาจนต้องระงับดำเนินการชั่วคราวนั้น ตอบว่า เมื่อเปิดดำเนินกิจการได้อีกครั้งก็จะเปิดดำเนินการในสถานที่เดิมในไทย ไม่ได้คิดโยกย้ายฐานการผลิตไปไหน  

มีเพียง 8% ที่ตอบว่า จะย้ายฐานการผลิตไปยังสถานที่อื่นภายนอกประเทศไทย ทั้งนี้พบในสัดส่วนสูงที่สุดในประเภทอุตสาหกรรมเครื่องจักรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรือคิดเป็น 16%  

ส่วนข้อเรียกร้องที่มีต่อรัฐบาลไทยเกี่ยวกับเหตุอุทกภัยซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตและระบบซัพพลายเชนของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นนั้น บริษัทส่วนใหญ่ตอบว่า ต้องการให้รัฐบาลไทยกำหนดแผนป้องกันเพื่อรับมือกับน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว (83%) รองลงมาคือ ต้องการให้มีการนำเสนอข้อมูลอย่างรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำ (68%) และต้องการให้มีการจัดตั้งกองทุนระบบประกันภัย (32%)  

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=110521:2012-03-02-12-07-06&catid=90:2009-02-08-11-24

ผมสงสัยว่าคนชายคัดข้อความว่า 1ใน10 บริษัทญี่ปุ่น ไม่มั่นใจในแผนป้องกันน้ำท่วม นั้น ..มาจากประชาทอร์คหรือไม่..?

ถ้าใช่ ฝีมือมีแค่นี้หรือ..เห็นเคยชอบทวงถามว่ามีหลักฐาน มีที่มาอ้างอิงหรือไม่..ตัวคุณเองเคยทำกี่ครั้ง ..ขอถาม..เห็นมีแต่พูดลอยๆทั้งนั้น..อุปทานทั้งเพ..?






หมายเหตุ : คดี ปรส. ที่อยู่ใน ปปช. ไปถึงไหนแล้ว จะหมดอายุความปี 2556 แล้วน่ะครับ..

ส่วนคดีที่อนุฯ ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหา “ไร่ส้ม-สรยุทธ์” และ จนท.อสมท. คดีเงินค่าโฆษณา อสมท.138 ล้านบาท..ไปถึงไหนแล้วครับ พี่กล้าณรงค์

จากคุณ	: แมวน้ำสีคราม
เขียนเมื่อ	: 6 มี.ค. 55 01:38:44 A:180.180.95.24 X: