ยุทธศาสตร์ของอำมาตย์เผด็จการ ที่จะต้องดำเนินไปอย่างไม่เปลี่ยนแปลง
1.ทำให้ ปรส. หมดอายุความ โดยที่ไม่ต้องมีใครรับผิดชอบ เหมือนที่ กกต.
ทำให้คดียุบพรรค ปชป.ขาดอายุความ...ก็ไม่เห็น กกต.แสดงความรับผิดชอบอะไร
ใครก็ไม่เอาผิด ..ซึ่งมันก็น่าแปลกว่าทำไม?ไม่มีใคร้องให้ ผู้ตรวจการแผ่นดิน
สอบสวนจริยธรรม กกต. นี่ก็จะเกิดขึ้น กับ ปรส.ในความรับผิดชอบ ของ ปปช.อีกแล้ว
แล้วพวกคุณ พลังประชาธิปไตยจะทำอย่างไร. ต้องคิด
2. ยุทธศาสตร์เด่นชัดที่อุ๊บอิ๊บ กันอยู่ คือ การทำให้รัฐบาลบริหารประเทศไม่ได้
จะมีสารพักม๊อบมาเดินขบวนต่อต้าน รัฐบาลทำอะไรจะติดขัดไปหมด
พวกนักวิชาการจะออกมาโจมตี คนในรัฐบาลจะลาออก เพื่อทำลายภาพพจน์ของรัฐบาล
ผู้ผลิตสินค้าบริโภค จะแห่ขึ้นราคาสินค้า ให้ประชาชนเดือดร้อน แล้วโยนความผิดให้รัฐบาล
นักสิทธิมนุษยชนทั้งหัวขาวหัวดำ จะแห่ออกมาเรียกร้องห้ามรัฐาลทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ในการสร้างสิ่งสาธารณประโยชน์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งการบริหารงานที่สวนจตุจักร
ทั้งนี้เป้าหมายคือ การดิสเครดิตของรัฐบาล ประชาชนจะเดือดร้อนอย่างไรชั่งมัน
ขอให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้เป็นพอ เมื่อสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นทุกหย่อมทุกกลุ่มแล้ว
ก็จะเอาทหารออกมาปฏิวัติเช่นที่เคยปฏิบัติ..แล้วก็เข้าสู่วังวนอำนาจเก่า
..แล้วพวกคุณคิดหรือยังว่าจะทำกันอย่างไร
3. ให้จำไว้เถิดว่า การแสดงอะไรไปทำนองก้าวร้าว รุนแรง พวกเขาไม่กลัวยิ่งชอบ เพราะสิ่ง
ที่เขากลัวอย่างเดียว คือ ชี้แจง สันติ อหิงสา การทำความจริงให้ปรากฎ..พวกเขากลัวมาก
เมื่อไหร่ก็ตามพวกเราใช้ตาต่อตา ฟันต่อฟัน นั่นคือการเข้าทางเขาอย่างสิ้นเชิง
4.เครื่องมือเดียวขณะนี้ ที่ใช้ต่อสู้ของพวกเขา คือการป้ายสี ให้ขบวนการประชาธิปไตย
เป็นพวกล้มเจ้า เพื่อหวังดึงมวลชน พลังเงียบ ไปเป็นพวกเขา หากพลังประชาธิปไตย
ทำลายเงื่อนไขนี้เสีย พวกเขาก็หมดทางสู้ พวกเขามีเครื่องมืออย่างเดียวเท่านั้นจริงๆ
โดย เฉพาะ ปชป.ออกทะเล ออกอ่าวไปแล้ว ถึงขนาด คุ้ยขยะหาขวดเหล้า แล้ว คุณไปกลัว
อะไรกับเรื่องการค้านในสภา
5.ลดเงื่อนไข ทำลายการผลักมิตรให้เป็นศัตรู รู้จักการเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ นำมวลชน
ออกมาปกป้องรัฐบาลเมื่อจำเป็น..ด้วยวิธีการนุ่มนวล สันติ อหิงสา แต่เต็มไปด้วยกลยุทธ
เท่านี้ เหล่าอำมาตย์ฆาตกรกลางเมืองก็ สิ้นท่าแล้ว
ลองคิดดูเถอะว่า..หากมันเป็นจริงตามนั้นพวกเราจะทำอะไรได้บ้าง
