+++++ ถกคุณทองรำไรที่ถามเรื่อง การเป็นปฏิปักษ์ของคตส เรื่องการขอเปลี่ยนตัวคตส ฯลฯ P11797331 +++++

จากกระทู้ P11797331

เนื่องจากในกระทู้ P11797331 มีทั้งคำบรรยายและมีประโยคที่ลงด้วยเครื่องหมายคำถาม คือไม่ได้แยกแยะไว้ให้ชัดๆว่าคำถามจริงคืออะไร ผมจึงเดาเอาว่าถามในเรื่องต่างๆดังนี้ ผิดถูกอย่างไรแจ้งกลับอีกที

คำถาม ที่ผมให้ความเห็นไว้ว่า “หากแม้ต้นธารจะไม่ใส จำเลยก็สามารถจะต่อสู้ให้ตนพ้นผิด ต่อหน้าศาลยุติธรรม เพราะต่อหน้าศาลแล้ว คู่ความล้วนเสมอภาคกัน ใครมีหลักฐานที่ดีกว่า ฝ่ายนั้นย่อมชนะ” คุณถามว่า นี่คือเหตุผล ? นี่คือหลักกฎหมายข้อไหนคะ ? หรือนี่คือสิ่งที่คนรู้กฎหมายถือว่าควรเป็นและเป็นไปได้ใช่ไหมคะ ? หรือแค่คุณแค่ข้อโต้แย้งเพื่อเถียงเอาชนะอย่างข้าง ๆ คู ๆ เท่านั้น ?

คำตอบคือ มันเป็นความเชื่อของผมครับ ต่อหน้าศาลยุติธรรมคู่ความล้วนเสมอภาคกันใครมีหลักฐานที่ดีกว่า ฝ่ายนั้นย่อมชนะ ไม่เกี่ยวกับหลักกฎหมายหรือเหตุผลอะไร เป็นไปได้ แต่ไม่ควรเป็นแบบนั้น และผมโต้แย้งไม่ใช่เพื่อจะเอาชนะ แต่เป็นการตอบ เพราะคุณถามในเรื่องนี้ ถามมาผมก็ตอบไปตามที่ผมเห็นผมเชื่อ การตอบคำถามที่คุณถามไปตามที่ผมเชื่อ จะเป็นการโต้แย้งได้อย่างไร เพราะคุณคงจะมาบังคับให้ผมเชื่ออย่างคุณและตอบให้ตามที่คุณชอบก็คงไม่ได้

คำถาม - งั้น... แล้วสิทธิในการขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนนั้นไปอยู่ที่ไหนคะ ? มีบทบัญญัติในการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนไว้ทำไมละคะ ?
คำตอบ -ต้องถามกลับว่าคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดีอื่นๆนี้นะ เขาสามารถร้องให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนได้หรือไม่ ร้องให้เปลี่ยนตัวกรรมการปปช. ได้ด้วยหรือครับ
เท่าที่ผมทราบมา ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีสิทธิขอเปลี่ยนตัวกรรมการปปช (ซึ่งตามกฎหมายกรรมการปปช.ก็เป็นพนักงานสอบสวนในคดีเช่นกัน)  เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ ในปี 2540 แล้วละครับ

ในเมื่อ คตส เข้ามาทำหน้าที่สอบสวนคดีตามประกาศคปค โดยใช้อำนาจตาม พรบ.ปปช. พรบ.ปปง ฯลฯ ผมเข้าใจว่า ก็เลยไม่มีกฎหมายที่จะให้มีการขอเปลี่ยนตัวคตส.ได้ แต่ข้อกฎหมายตรงนี้ผมไม่แน่ใจเช่นกัน อาจจะมีช่องกฎหมายอย่างคุณว่าให้เปลี่ยนตัวกรรมการปปช.ได้ ก็เป็นได้ แต่ผมยังไม่มีเวลาไปสืบค้น หากผิดถูกอยางไรท้วงติงได้ แจ้งมาได้เลยครับว่า ข้อกำหมายที่ให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน(คตส)ได้ ในคดีศาลอาญาแผนกคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีกันมาตั้งแต่ปี 2542 นั้นเขาเขียนไว้อย่างไรครับ

โดยสรุป ผมไม่แน่ใจว่าคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สิทธิการขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนนี้ จะมีหรือไม่ (ที่เคยทราบว่ามีคือ ในคดีอาญาทั่วไป)

คำถาม -ศาลเอง ขนาดหากพยานมีส่วนได้ส่วนเสียกับจำเลยหรือโจทก์ ศาลยังไม่รับฟัง เป็นพยานในศาลไม่ได้เลยค่ะ แต่การใช้ปฏิปักษ์เป็น คตส. ซึ่งเป็นทั้งพนักงานสอบสวน เป็นทั้งอัยการ ชนิดเรียกได้ว่า "ชงเองกินเอง" คุณไทโรจะมาอ้างว่าไม่เป็นไร เรื่องถึงศาลก็ต่อสู้ให้พ้นผิดได้ หลักกฎหมายประเทศไหนคะที่เป็นแบบนี้ ?

คำตอบ ประเด็นเรื่องมีส่วนได้เสียกันไม่ควรเป็นพยานและยิ่งไม่ควรเป็นพนักงานสอบสวน ผมขอถามก่อนว่า คตส มีส่วนได้เสียกับผู้ถูกกล่าวหาอย่างไรครับ? เป็นปฏิปักษ์กับผู้ถูกกล่าวหาในลักษณะอย่างไรครับ?

เท่าที่ผมทราบมา ลำพัง การมีความคิดเห็นทางการเมืองหรือสังคมที่แตกต่างกันนั้น ดูจะไม่เป็นข้อห้ามการเป็นพยานศาลนะ รวมทั้ง ไม่น่าจะเป็นข้อห้ามในการเป็นพนักงานสอบสวนด้วย หากมีกฎหมายว่าห้ามด้วยเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างกันทางเมือง ก็ช่วยยกมาให้ดูด้วย

เรื่องการใช้ปฏิปักษ์มาเป็นพนักงานสอบสวน ผมว่าต้องกลับไปดูพรบ.ปปช.และพรบ.ว่าด้วยวิธีการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ที่มีมาตั้งแต่ปี 2542 ว่าเขามีห้ามไว้ว่าอย่างไรหรือไม่ ถ้าเขาห้ามเรื่องไม่ให้คู่ความคือพนักงานสอบสวน(คือ คตส ในที่นี้)ไว้ ทำไมตอนที่มีคดีฟ้องกันฝ่ายคุณทักษิณไม่แย้งขึ้นมาเสีย หรือแม้จะไม่มีในกฎหมาย ก็น่าจะแย้งให้ศาลรับทราบว่า คนที่ฟ้องคดีเป็นคู่ปฏิปักษ์ ข้อมูลหลักฐานอาจมีปัญหา ไม่ทราบฝ่ายคุณทักษิณได้แย้งต่อศาลไว้หรือเปล่า



ผมคงตอบได้แค่นี้ ก็จะรอฟังคำตอบจากคุณก็แล้วกัน ตอบเมื่อไรก็ได้ครับ ผมไม่ใช้คนที่ชอบเร่งให้คนที่ถกด้วยรีบตอบ

จากคุณ	: thyrocyte
เขียนเมื่อ	: 7 มี.ค. 55 15:00:23 A:58.137.0.146 X: