สัมภาษณ์พิเศษ

 
ครอบครัว ตัวตน ของ "นลินี ทวีสิน" ไม่ใช่คนใหม่ในวงการเมืองเพียง
แต่ไม่เคยปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้า

ตั้งแต่ยุคหัวหน้าครอบครัว "ทวีสิน" รุ่นพ่อ ก็เคยอยู่ในแถวของผู้สนับสนุน
หลักอย่างเป็นทางการให้ตระกูลการเมืองค่ายประชาธิปัตย์มาแล้ว

ถามคนในตระกูล "เทียม ไชยนันทน์" ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ย่อม
ไม่มีใครไม่รู้จักนักธุรกิจในตระกูล "มิสรา" อันเป็นต้นตระกูลของ "นลินี"

ที่มาที่ไปในทางการเมืองของ "นลินี" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ถูกเปิดตัว (อีกครั้ง) ในอีเวนต์สำคัญ ในฐานะผู้ขับเคลื่อนกองทุนพัฒนา
บทบาทสตรี 1 ใน 16 นโยบายเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทย

"ประชาชาติธุรกิจ" สนทนากับ "นลินี" วาระ วันสตรีสากล และวาระที่
กองทุนฯจะกดปุ่มทั่วประเทศ พร้อมแกล้มโปรไฟล์การเมืองที่เธอไม่
เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

เธอบอกว่า "ความจริงแล้วดิฉันอยู่ในวงการการเมืองอยู่เรื่อย ๆ"

ผู้ชักนำเธอเข้าสู่ค่ายการเมืองเครือข่าย "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"
ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น "น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์" อดีตกรรมการ
บริหารพรรคไทยรักไทย ในฐานะเพื่อนร่วมห้อง-คอนเน็กชั่นแน่นใน
"หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร ภาครัฐร่วมเอกชน" (ปรอ.)
รุ่นที่ 18 ในวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.)

ก่อนหน้านั้น เธออยู่ในเวทีการเมืองภาคประชาชนในฐานะ
กรรมการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ
เคยดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบ

"หลังจากได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกในปี 2549 มีพรรคการเมือง 2-3
พรรคมาทาบทาม แต่พอใกล้เลือกตั้งก็ตัดสินใจร่วมงานกับ
พรรคพลังประชาชน ลงรับสมัครเขตหนองจอก คลองสามวา แต่ไม่ได้"

แม้เธอสอบไม่ผ่านในพื้นที่การเมืองภาคสนาม แต่เธอก็ไม่ตกจาก
โผฝ่ายบริหาร ชื่อ "นลินี" ได้ประจำการที่กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะ
ที่ปรึกษาของอดีตรัฐมนตรีว่าการ "มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์" ที่ควบ
ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอีกเก้าอี้

แม้ไม่ได้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาอย่างเต็มภาคภูมิเพราะเหตุ
รัฐประหาร กันยายน 2549 แต่หลังจากนั้น 6 ปี เธอได้เป็นเสนาบดี
ในยุค "ยิ่งลักษณ์ 1/2"

ถามเธอว่ามีรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี "ยิ่งลักษณ์" ล้วนใคร่อยากรู้ว่า
ตำแหน่งนี้มีที่มา โควตากลุ่มไหน คอนเน็กชั่นก๊วนใดในพรรคเพื่อไทย

นลินี-ยิ้มกว้างแล้วหัวเราะตาม ตอบสั้น ๆ ว่า "ได้จากนายกรัฐมนตรี
เพราะท่านเป็นคนเสนอชื่อ"

เธอว่าก้าวที่ย่างเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา
ในฐานะผู้แทนการค้าไทย

คำเล่า-คำอ้างที่พูดกันในเพื่อไทยว่า "นลินี" เป็นรัฐมนตรีสาย
ตรงของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" เธอขออธิบายว่า "ในพรรคเพื่อไทย
ก็รู้จักท่านนายกฯ รู้จักคนอื่นหลายคน"

ธรรมชาติของการเมือง ต้องสังกัดก๊ก-ก๊วน จึงมีพลังต่อรอง
ตำแหน่งการเมือง แต่ชื่อ "นลินี" อยู่โผรัฐมนตรีในโควตา
กลางของพรรค ตั้งแต่วันแรกที่เขียนใบสมัครเป็น ส.ส.
ระบบปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 125

เธอว่าอาจเป็นเพราะ "ดวงดีหรือเปล่า ดวงเกิดดี"

โปรไฟล์ชีวิตทางการเมือง "นลินี" จากนี้ไปจึงมีแต่เรื่องนโยบาย
เร่งด่วนของรัฐบาล ในนาม "กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี"

"ตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งก็ลงพื้นที่หลายจังหวัด เช่น สงขลา
เชื่อว่าผู้หญิงเป็นแรงงานสำคัญในสังคม ในครอบครัวที่จะ
มาเสริมสร้าง บูรณาการสิ่งเหล่านี้"

พื้นที่ทางการเมืองที่เธอจะรุกต่อไปคือ พื้นที่สีแดง จ.ยะลา
ชายแดนภาคใต้ เธอเห็นว่าพื้นที่นี้มีปัญหาซับซ้อน ลำพัง
กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีไม่อาจแก้ปัญหาทั้งหมดได้ แต่
เป็นส่วนเสริมในการพัฒนาด้านอื่น ๆ

งานมวลชนที่ต้องเข้าถึงผู้ลงคะแนนเสียง ไม่ง่ายสำหรับ
นักการเมืองสมัยแรกอย่างเธอ แต่เธอโชคดีที่มีตัวช่วยระดับ
นักทำงานมวลชนที่ชื่อ "ภูมิธรรม เวชยชัย"

เธอว่า การลงพื้นที่ถี่ระดับทุกภาคอาจมีผลต่อ "โหวตเตอร์"
บ้างไม่มากก็น้อย

คะแนนเสียงอาจเป็นเรื่องรอง เพราะเธอมองว่า "ในเรื่องนี้
ความจริงมองในมุมสตรีมากกว่า คิดว่าเป็นนโยบายรัฐที่เป็น
ประโยชน์ต่อสตรี และเป็นการพัฒนาไปสู่สังคมอาเซียนด้วย
อีกทั้งพื้นที่ภาคใต้ชายแดนมีความพร้อมที่จะพัฒนาควบคู่
ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง อินโดนีเซีย มาเลเซีย"

หากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามคิดจะระแวงว่าเพื่อไทยอาจ
ใช้นโยบายสตรีตีฐานเสียงภาคใต้ เธอบอกให้สบายใจได้ว่า
ไม่ได้นึกถึงประเด็นนี้

"ไม่ได้มาใช้เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง"

คำตอบสั้น ๆ ไม่พาดพิงใคร คือการกล่าวถึง "ปรัชญากองทุน
ต้องการให้สตรีเข้าถึงทุนอย่างเท่าเทียม ทั่วถึง"

ในการนี้ "สตรีสีอื่น" ก็มีสิทธิเท่าเทียมกับ "สตรีสีแดง"

"เราให้ทุกคนมีส่วนร่วมมากสุด ไม่ได้กีดกัน เราไม่พูดเรื่องสี"

แม้เธอไม่ใช่นักการเมืองตัวยง แต่หากเพื่อไทยประชุมพรรค
ประจำสัปดาห์เธอก็ไม่เคยขาด เธอมีคู่บัดดี้การเมืองหลาย
กลุ่ม ทั้ง ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา กลุ่ม กทม. และกลุ่มภาคเหนือ

เมื่อถูกถามเจาะว่าแท้จริงที่เธอมีคนมาห้อมล้อมจากหลายกลุ่ม
เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าเธอเป็นรัฐมนตรีสายตรงจาก "พ.ต.ท.ทักษิณ"
ธอได้แต่หัวเราะแทนคำตอบ

แล้วข่าวลือข่าวลวงที่หนาหูใน-นอกพรรค ที่กล่าวกันกลาง
สภาผู้แทนฯ ว่า เธอเป็นผู้ร่วมลงทุนด้านกิจการเพชรพลอยร่วมกับ
"พ.ต.ท.ทักษิณ" เธอตอบว่า "ไม่มีเล้ย ...ไม่มีเหมืองทอง
ไม่มีธุรกิจเพชรพลอย"

ถามกันอีกว่า ตามธรรมเนียม คนเป็นรัฐมนตรีต้องบินไปพบ
"พ.ต.ท.ทักษิณ" เพื่อขอบคุณ เธอมีวัตรปฏิบัติเช่นนั้นหรือไม่
เธอสวนกลับว่า "คราวหลังไปด้วยกันไหม"

เธอว่าเธอไม่มีแต้มต่อที่ได้ใกล้ชิด "น.ส.ยิ่งลักษณ์" และ
"พ.ต.ท.ทักษิณ" แต่เธอบอกว่า เธอน่าจะอยู่ได้ครบเทอม 4 ปี
ด้วยเหตุผลเรื่อง "ผลงาน" ที่คาดว่าอีกไม่นานเกิน 5 เดือน
จะเห็นเป็นรูปธรรม

เทอมการเมือง 4 ปี ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงครั้งแรกใน
ประวัติศาสตร์อาจไม่ง่าย เพราะพื้นที่ทางการเมือง ความ
เป็นผู้หญิงมักถูกหยิบยกมาโจมตี

แม้แต่เรื่องที่มีการประชุมที่โรงแรม ก็กลายเป็นประเด็นการเมือง

"ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเป็นผู้ชายไปประชุมโรงแรมก็ไม่เกิดประเด็น
พอเป็นหญิงโจมตีกันก็เอาเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ถ้าผู้ชาย...ไม่มี
ประเด็นเรื่องนี้มาเล่น"

คำถามช่วงท้ายเป็นโปรไฟล์ส่วนตัว "นลินี" ที่บันทึกใหม่

ประเด็นที่เธอมีชื่อพ้องรูป-พ้องเสียงกับพี่สาวของ
"เศรษฐา ทวีสิน" เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยักษ์
ใหญ่ค่าย "แสนสิริ"

เธอตอบว่า "เป็นเรื่องแปลก แต่รู้จักจากชื่อเหมือนกัน
และมีโปรกอล์ฟคนเดียวกัน ก็มีคนแนะนำให้รู้จักกันกับ
คุณนลินีที่เป็นญาติคุณเศรษฐา...รู้จักกันนานมากแล้ว"

ถามว่าเธออยู่ในตระกูลทวีสิน สายเดียวกับนายเศรษฐาหรือไม่

เธอตอบว่า ไม่ได้เกี่ยว คนละสายกัน เพราะทวีสินก็มีหลายสาย

เธอสรุปว่าชื่อ-นามสกุลของเธอกับญาติ "เศรษฐา" เป็นเพียงการ
"พ้องรูป-เสียงอย่างเดียว ไม่เกี่ยวสายเลือด"

ทั้งหมดนี้คือประวัติส่วนตัว-ธุรกิจ และชีวิตการเมืองของ
"นลินี ทวีสิน" รัฐมนตรีผู้สืบเชื้อสายจากนักธุรกิจ
ชาวอินเดียตระกูล "มิสรา"

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1331089535&grpid=03&catid=04

มีนายก ฯ  เป็นหญิงเก่ง  ทีมงานเป็นรมต.ประจำสำนักนายก ฯ
ก็เป็นอีก 1 หญิงเก่ง   แต่ทั้ง  2  คนนี้ยังไงก็คงสู้อีก  1 หญิง
ผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่กำลัง
ตั้งข้อสังเกตุว่า การแต่งตั้งนางนลินี อาจจะกระทบความไม่เชื่อ
ถือศรัทธาในสายประชาชน และเกียรติภูมิของชาติหรือไม่
 ...อุแม่เจ้า ...  เรื่องนี้แม้ไม่ถึงขั้นยื่นถอดถอนนายก ฯ แต่ก็
ต้องรายงานผลการตรวจสอบภายใน 30 วัน  ...นะ
ทำงานเก่งแค่ไหน ไม่สำคัญ  เพราะแค่มีชื่อติดบัญชีดำ
ที่ยังหาที่มาที่ไปไม่ได้  ก็กล่าวหากัน  แล้วหญิงเก่งคนนั้น
ก็รีบรับเรื่อง  คอยดูผลสุดท้ายกันดีกว่า  รัฐบาลนี้จะไปเพราะ
หญิงเก่งทั้ง 3 คนนี้ แล้วทำให้ต้องมาเลือกตั้งยืนยันกันอีก
ที่ไหม 

ดู link  ประกอบด้วยก็แล้วกันค่ะ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1331039482&grpid=&catid=01&subcatid=0100