และถ้านี้เรื่องจริง พวกเอ็งก็ไม่ใช่คนดี(จริง)
และถ้านี้เรื่องจริง ซึ่งดูจากคนที่ยืนยันแล้ว มีความน่าเชื่อถือว่า พวกเอ็งมันพวก"ลวงโลก หลอกลวงเหมือนไอ้พวกแป๊ะลิ้มที่ปลอมแปลงเอกสารกู้เงินแบงค์ งานนี้ บอกได้2คำเท่านั้นว่า"เจริญ---------------ลง" เถอะพวกเอ็ง ..
ปล..งานนี้พวกเอ็งกลับจาก"ฮาวาย" อาจมีลุ้นได้โชค2ชั้นได้ไปเที่ยวต่อที่"ห้องกรง" แน่....ฮ้าาาาาาาาาาาาาาา
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek1URXlNRGszTVE9PQ==&subcatid=
วันที่ 07 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18:48 น. ข่าวสดออนไลน์
แฉ! แฝดเกรียน "แอบอ้าง" เป็นทหารพราน
P { margin: 0px; }
จากกรณีนายสุพจน์ และนายสุพัฒน์ ศิลารัตน์ ฝาแฝดชาวปทุมธานี ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (มธ.) แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ เพราะไม่พอใจมุมมองทางการเมืองของนายวรเจตน์ เมื่อสืบค้นประวัติก็พบว่าทั้งคู่นิยมเล่นปืนเป็นงานอดิเรก
โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่าทั้งสองได้ใช้บัตรประจำตัวระบุชื่อ "อส.ทพ.สุพจน์ ศิลารัตน์" และ"อส.ทพ.สุพัฒน์ ศิลารัตน์" สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 จ.บุรีรัมย์ ออกให้โดย พ.อ.ศิริชัย สร้อยแสน นายทหารพระธรรมนูญ ไปยื่นขอใบครอบครองอาวุธปืน หรือใบ ป.4 กับอำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี ตามที่ "ข่าวสด" นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มี.ค. พ.อ.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ผบ.ฉก.กรม ทพ.26 ค่ายปักธงชัย เปิดเผยว่า บุคคลทั้งสองไม่เคยเป็นกำลังพลสังกัดกรม ทพ.26 อย่างแน่นอน ถ้าทั้งสองใช้บัตร อส.สังกัด ทพ.26 ไปยื่นข้อใบ ป.4 จริง แสดงว่าจงใจแอบอ้างและปลอมแปลงเอกสาร ที่สำคัญอส.ทพ. เมื่อจบภารกิจก็จะเป็นเพียงอาสาสมัครเท่านั้น ไม่ได้เป็นทหารพรานแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกรม ทพ.26 ซึ่งถูกแอบอ้างคงไม่ดำเนินการใดๆ เนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยของตน แต่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่อนุมัติออกใบอนุญาตให้ จะต้องดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะอันที่จริงแล้วการจะออกใบอนุญาตให้ใครจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดมากกว่านี้
วันเดียวกัน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น.เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหลักฐานเอกสารการขอใช้และมีอาวุธปืนของผู้ต้องหาทั้งสอง ซึ่งก่อนหน้านี้มีการยืนยันว่าทั้งคู่ไม่เคยเป็น อส.ทพ.แต่กลับใช้เอกสารระบุ อส.ทพ.นำหน้าชื่อไปยื่นขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืน หรือที่เรียกว่าใบ ป.3 และใบ ป.4 ต่อนายทะเบียนนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ต้องหาใช้เอกสารเท็จ จึงเตรียมทำหนังสือประสานไปยังนายทะเบียนอำเภอธัญบุรี ให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จ มีและใช้เอกสารปลอม เพื่อให้เจ้าหน้าที่เรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อไป
"ขั้นตอนต่อไปหลังจากดำเนินคดีแล้ว ทางนายทะเบียนต้องทำเรื่องถอนใบอนุญาตมีอาวุธปืน และใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนของผู้ต้องหา เพราะได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ยึดอาวุธปืนที่ขออนุญาตไว้เป็นของกลาง" พล.ต.ต.วิชัย กล่าว