Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
+++++ คณโบกกรัก อย่าตีความกฎมายด้วยอำเภอใจของตนเองครับ +++++ ติดต่อทีมงาน

 

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณที่ตอบคำถามข้อสุดท้ายแล้ว ในกระทู้นั้นคณพูดในเรื่องอื่นๆอีกมากมายนอกเหนือไปจากคำถามข้อสุดท้ายที่ถาม ผมอ่านแล้วขอสรุปว่าผมเห็นแย้งคุณเกือบทุกประเด็น แต่ผมว่าคงเป็นการไร้สาระที่จะต้องมานั่งเถียงกันมิรู้จบ คุณได้แสดงความห็นส่วนของคุณ ผมได้แสดงความเห็นส่วนของผม นันทำให้สมาชิกได้ข้อมูลจากการถกเถียงแล้ว ส่วนเรื่องคุณนพนครพิงค์นั้น ผมขอบอกเลย ไม่ใช่ว่าผมจะหากระทู้เธอไม่เจอหรอกครับ แต่ผมยังไม่ได้สนใจจะหกระทู้นั้น ลำพังฎีกา ประกาศในราชกิจจาฯบางเรื่องที่หายากมากกว่าการหากระทู้ในพันทิพ ผมยังสามารถหามาได้ เรื่องกระทู้คุณนพนครพิงค์ไม่ใช่เรื่องยากหรอกครับ แต่อาจจะยากสำหรับคุณกระมัง

เรื่องการตอบความเห็นสมาชิกนี้ก็เช่นกัน ผมสังเกตว่าคุณชอบเอามาสร้างเป็นเงื่อนไข ตั้งเป็นกระทู้เที่ยวเรียกหาสมาชิก สำหรับผมผมถือว่าเป็นสิทธิของคุณ แต่ผมถือเช่นกันว่าการเที่ยวมารบเร้าคนอื่นให้ตอบกระทู้พวกตนเองหรือของตนเองมากเกนไปนี้นะ มันเป็นการกระทำของคนที่จิตไม่ปกติ เพราะคนที่จิตเขาปกติ เขาจะรู้ว่าสมาชิกบางส่วนเช่นผมนั้น มีเวลาหรือเข้ามาอ่านได้บางกระทู้ สนใจจะอ่านก็บางกระทู้ สนใจจะตอบก็บางกระทู้ ไม่ได้มีข้อกำหนดว่า คนอื่นที่เข้ามาในราขดำเนินจะต้องตอบกระทู้ของพวกแดงทุกกระทู้ มิเช่นนั้นถือว่ามีความผิด

ผมแจ้งไว้แล้วและเซฟไว้เป็นหลักฐานแล้วว่า หากต้องการให้ผมตอบกระทู้ช่วยกรุณาหลังไมค์ไปแจ้งด้วย จะพยายามตอบให้ใน 72 ชม ทั้งนี้เพื่อยืนยันว่ามีความต้องการให้ตอบ ต้องการความเห็นจริงๆ ผมตั้งกระทู้มีคำถามที่สมาชิกอื่นไม่ได้ตอบก็มี แต่ผมละวางไม่เที่ยวตามจิกเขา เพราะผมถือว่าหากเขาอยากตอบก็ตอบ เว้นแต่กรณีของคุณที่พยายามตั้งกระทู้ก่อกวนเรียกหาว่าผมไม่ตอบกระทู้คุณ ผมก็ตั้งกระทู้เรียกหาว่าคุณไม่ตอบคำถามผมบางก็เท่านั้น ให้มันสมน้ำสมเนื้อกัน ขอเข้าเรื่องคำถามข้อสุดท้ายนะครับ

 

การตีความกฎหมายอย่าใช้อำเภอใจให้ใช้หลักที่เขาใช้กันครับ

ในคำถามข้อสุดท้ายที่ถามว่ามาตรา 37 มีถ้อยบัญญัติที่มาตรา 309 กำหนดไว้หรือไม่นั้น ผมสรุปว่า คุณตอบว่าไม่มี ดังนั้น ไม่มีก็คือไม่มีครับ

ปกติกฎหมายนั้น ต้องว่าไปตามถ้อยบัญญัติที่มีในกฎหมาย มิใช่คุณหรือผมหรือใคร หรือประชาชนคนใดจะนึกเอาเองได้ เพราะมิเช่นนั้น ต่างคนต่างนึกเอาเองไปคนละอย่างโดยไม่ยึดเอาถ้อยบัญญัติ แบบนี้ก็มิเป็นที่ยุติได้ คงทะเลาะกันตาย จึงต้องยึดในถ้อยบัญญัติของกฎหมายว่าเขียนไว้อย่างไร ก็ต้องว่าไปตามนั้น  มาตรา 37 นั้นไม่มีถ้อยคำบัญญัติรับรองว่า "การกระทำในมาตรานั้นชอบด้วยกฎหมาย ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ"      จึงไม่ต้องตามมาตรา 309 ของรธน 2550 ที่บัญญัติไว้ว่า บรรดาการใด ๆ ที่ได้รับรองไว้ในรธน 2549 ว่า"ชอบด้วยกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ"  จึงจะให้ถือว่า "การนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรธน 2550 "

เนื่องจากในถ้อยบัญัญํติมาตรา 37 ไม่มีข้อความที่มาตรา 309 กำหนดไว้ ดังนั้น การจะอ้างว่ามาตรา 309 ครอบคลุม มาตรา 37 นี้จึงขึ้นกับการที่จะตีความของแต่ละบุคคล และสุดท้ายจะเป็นศาลที่จะชี้ขาด ในกรณีของคุณคุณตีขลุมเหมารวมว่าครอบคลุม แต่ผมอาศัยหลักการตีความที่ศาลจะใช้คือ

1. การตีความที่ไม่ขัดแย้งกับประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา โดยประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา จะนิรโทษกรรมให้กับการรัฐประหารและการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการเข้ายึดอำนาจเท่านั้น และไม่ครอบคลุมให้ต่อเนื่องออกมาในเวลานาน

2. ไม่ขัดแย้งกับศีลธรรมอันดีและความสงบ โดยหากตีความให้มาตรา 37 มีผลต่อเนื่องออกมา ย่อมทำให้เกิดปัญหาคณะบุคคลอาจกระทำผิดอาญาได้โดยไม่รับผิด เช่นในขณะที่รธน 2550 มีผลบังคับใช้ ก่อนการเลือกตั้งจะสำเร็จ คปค สั่งยึดทรัพย์ทักษิณ ทั้งหมดได้โดยถูกกฎหมายโดยไม่ต้องเสียเวลารอคดีในศาล อาศัยแต่ข้อสงสัยว่าทักษิณทำทุจริต เท่านี้ย่อมสามารถกระทำได้แล้วอย่างสบายมากๆ หากกฎหมายถูกตีความแบบผิดๆอย่างนั้นจริง 

3. ตีความตามถ้อยบัญญัติ ในเมื่อมาตรา 309 ใช้คำว่าการใดที่รธน.2549 บัญญัติว่ารับรองว่า “ชอบด้วยกฎหมายชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” ย่อมหมายความเป็นนัยยะว่า มาตรา 309 ถือว่ามีการที่รธน.254 ไม่ได้บัญญัติรับรองโดยตรงอยู่ มาตราอื่นอีกกว่า 35 มาตรา ของรธน 2549 มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายได้ในขณะที่รธฯ 2549 มีผลอยู่ ก็โดยสภาพที่มันเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญเท่านั้น  แต่มิใช่เพราะรธน.2549 บัญญัติด้วยถ้อยคำว่ารับรองว่าชอบด้วยกฎหมายชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ซึ่งต่างจากมาตรา 36 ที่มีสภาพเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองและรธน 2549 ยังบัญญํติด้วยถ้อยคำไว้เป็นการพิเศษเฉพาะมาตราเดียวด้วยถ้อยบัญญัติว่า “ชอบด้วยกฎหมายชอบด้วยรัฐธรรมนูญ”

4. ไม่ก่อปัญหาใกดมีสองรัฐธรรมนูญใช้พร้อมกัน หากตีความว่ามาตรา 37 ที่ไม่มีถ้อยบัญญัติว่า “ชอบด้วยกฎหมายชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” นั้นเท่ากับว่า มาตราที่เหลือทั้งหมดของรธน 2549 ก็ได้รับการรับรองจากมาตรา 309 ว่ามีผลอยู่เช่นกัน นั้นย่อมทำให้รธน 2549 มีผลใช้บังคับคู่กับรธน 2550 นั้นคือประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดใช้พร้อมๆกันในเวลาเดียวกันอยู่ 2 ฉบับ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

ด้วยเหตุผลทั้ง 4 ประการนี้ จึงไม่มีหตุผลที่สาลหรือใครๆจะฝืนไปตีความ ในสิ่งที่ถ้อยบัยญัติของกฎหมายไม่ไดกำหนดไว้ โดยเป็นการฝืนประเพณีการปกครอง ก่อความไม่สงบในสังคม และมีผลให้เกิดปัญหาว่ามีรธน ใช้พร้อมๆกันสองฉบับซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

สรุป คือมาตรา 37 ไม่มีถ้อยบัญญัติตามกำหนดของมาตรา 309 และไม่ได้รับการรับรองโดยรธน.2550 ครับ

มาตรา 309 จึงไม่ได้รับรองมาตรา 37 อยู่ในเวลานี้ หากจะรับรองคงต้องไปฟ้องให้ศาลตีความออกมา ซึ่งแน่นอนกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ศาลจะตีความไปตามแนวที่ผมว่ามาด้วยเหตุผลทั้ง 4 ประการข้างต้นครับว่าไม่รับรอง

 

ก็ขอใช้สิทธิแสดงความเห็นไว่เพียงแค่นี้

 

 

 

 

.

 

แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 55 07:55:06

แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 55 07:49:52

จากคุณ : thyrocyte
เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 07:44:58 A:58.136.21.218 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com