ประเทศไทยยังประหลาดไม่พออีกหรือครับ
|
 |
มีรัฐบาลใหม่ มีรัฐสภาใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งอย่างโปร่งใสชอบธรรม แทนที่จะมีรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน ดันมีพรรคการเมืองพยายามจะยกย่องเชิดชูรัฐธรรมนูญจากการยึดอำนาจ
รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้แก้ไขได้ รัฐสภามีมติเห็นชอบด้วยในการแก้รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ ดันมีพรรคการเมืองออกมาปลุกระดมต่อต้านไม่ให้แก้ อย่างนี้กลับไม่มีใครสนเรื่องขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
มีองค์กรอิสระต่างๆมากมายไว้คอยถ่วงดุล ตรวจสอบ การทำงานของรัฐบาล ดันมีการเลือกข้าง เลือกปฏิบัติ จึงกลายเป็นการถ่วงความเจริญของพรรคการเมือง ถ่วงความก้าวหน้าของประเทศและถ่วงความเติบโตของประชาธิปไตย
เราจึงได้เห็นการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่ต้องเสียภาษี แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดจริยธรรม
เราจึงได้เห็นการทำกับข้าวออกทีวี แม้ไม่ผิดกฎหมายแรงงาน แต่ผิดตามคำแปลของพจนานุกรม
เราจึงได้เห็นคลิปที่มีความพยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แม้จะไม่ถูกในเนื้อหา แต่ผิดดันเป็นคนเผยแพร่
เราจึงได้เห็น คตส. ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร ที่แปลว่า คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายของรัฐ แต่กลายเป็นหน่วยงานเฉพาะกิจที่คอยตรวจสอบคุณทักษิณเพียงคนเดียว
เราจึงได้เห็นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่จะดำเนินคดีของอีกฝ่ายด้วยความรวดเร็วทันใจ แต่อีกฝ่ายเป็นไปอย่างล่าช้า จนใกล้จะหมดอายุความอย่าง ปรส. ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้
เราจึงได้เห็นความเป็นกลางของ กกต. ที่คนทุจริตการเลือกตั้ง ล้านกว่า โดนใบเหลือง ส่วนคนที่ทุจริตเลือกตั้ง หมื่นกว่า โดนใบแดง
เราจึงได้เห็นการยกฟ้องคดียุบพรรค คดีหมดอายุความไม่ต้องมีคนรับผิดชอบ นายทะเบียนพรรคการเมืองไม่แสดงความคิดเห็นไม่ต้องแสดงสปิริต
เราจึงได้เห็น ดีเอสไอ ที่ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ชุมนุม ตอนแรกเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ตอนหลังกลับกลายเป็นไม่รู้ตายเพราะใคร
เราจึงได้เห็นการกระทำของกรรมการสิทธิ์ฯ ที่เห็นด้วยกับการกระทำความรุนแรงกับผู้ชุมนุม แต่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำรุนแรงกับเหล่าพ่อค้ายาเสพติด
เราจึงได้เห็นเหล่า สว.ลากตั้งที่เป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญปี 50 ที่ไม่ต่อต้านกับการกระทำของรัฐบาลที่สนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ไม่เคยเห็นด้วยกับการการะทำของรัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่
เราจึงได้เห็นการชุมนุมทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย คนเสื้อเหลืองเป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญเป็นสิทธิพึงทำได้ คนเสื้อแดงเป็นการชุมนุมสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
เราจึงได้เห็นการกระทำของคนเสื้อสองสี สีเหลืองปิดสนามบินได้เป็นผู้ก่อการดี สีแดงปิดถนนได้เป็นผู้ก่อการร้าย
เราจึงได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่าดุลยพินิจ คนโกงเงินพันล้านได้ประกันตัว คนส่งเอสเอ็มเอสประกันตัวไม่ได้
เราจึงได้เห็นสังคมที่ผิดเพี้ยน คนเสนอความเห็นตามหลักวิชาการเป็นพวกไม่รักสถาบัน คนลอบทำร้ายคนกลับได้เป็นวีรบุรุษ
เราจึงได้เห็นแนวทางปรองดองของสถาบันพระปกเกล้า คนฆ่าคนได้รับการนิรโทษกรรม แต่คนเผาตึกกลับไม่ได้รับการยกเว้น
เราจึงได้เห็นการแต่งตั้ง 2 รัฐมนตรีของท่านนายกฯ ที่ไม่ผิดทั้งกฎหมาย ไม่ผิดทั้งจริยะธรรม แต่ผิดที่ไม่รอบคอบ
เราจึงได้เห็น ฝ่ายค้านที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ที่ไม่เคยคิดตรวจสอบในเรื่องความโปร่งใส ในเรื่องผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน แต่คอยตรวจสอบแต่เรื่องจริยธรรมและคุณธรรม
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องแปลกประหลาดของรัฐธรรมนูญไทย ที่รัฐบาลมาจากคน 15 ล้านเสียง แต่มีโอกาสที่จะตกเก้าอี้ในเงื้อมมือของคนไม่กี่คนที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร
แม้จะประหลาดแค่ไหน แต่ผมก็ไม่เคยแปลกใจ ที่เห็นกลุ่มคนหน้าเดิมๆ พรรคเดิมๆที่ออกมาต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลไปเสียทุกเรื่อง พยายามที่จะก่อกวนให้ประเทศต้องประสบกับวิกฤติของความขัดแย้ง เพราะมีแต่วิธีนี้เพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่คนเหล่านี้จะช่วงชิงอำนาจกลับมาได้ ส่วนความหวังที่จะชนะตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ คงต้องรอถึงชาติหน้าตอนบ่ายๆแล้วครับ ซึ่งพวกเหล่านี้ล้วนแต่รู้ตัวดี แล้วพวกเรายังจะยอมให้พวกมันจูงจมูก เพื่อก้าวสู่อำนาจกันอีกหรือครับ
จากคุณ |
:
ทวดเอง
|
เขียนเมื่อ |
:
9 มี.ค. 55 10:30:15
A:27.130.44.48 X:
|
|
|
|