เป็นทนาย ต้องรวยให้ได้อย่าง...สัก กอแสงเรือง
|
 |
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1331301542&grpid=03&catid=&subcatid=
แล้ววันนี้ "สัก กอแสงเรือง "ส.ว.สรรหา และนายกสภาทนายความ ก็โดนธนูปักเข่า ทั้งที่ เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งโหวตให้"ภักดี โพธิศิริ" นั่งเป็น ประธาน ป.ป.ช. ต่อไป ธนูที่ปักเข่า ทนายใหญ่ เป็นผลจากที่ประชุม กกต.( 8 มีนาคม) มีมติเป็นเอก เพิกถอนสิทธิการสรรหาของ นายสัก กอแสงเรือง ส.ว.สรรหา ตามที่สภาทนายความได้เสนอชื่อเข้ารับการสรรหา และ กกต.มีมติเสียงข้างมากให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปีพร้อมดำเนินคดีอาญากับนายสัก และสภาทนายความ หลังจากนี้ กกต.จะจัดทำคำวินิจฉัยส่งไปยังศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายสัก ต่อไป กระบวนการจัดทำคำวินิจฉัยคาดว่า กกต.จะส่งให้ศาลฎีกาได้ภายในต้นเดือนเมษายนนี้ ทั้งนี้เมื่อศาลฎีกา รับคำร้องของกกต.แล้วก็จะมีผลให้นายสัก ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ว.จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา กรณีดังกล่าว มาจากคำร้องของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่คัดค้านว่า นายสัก มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 115(9) เนื่องจาก นายสัก ยังพ้นจากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยังไม่เกิน 5 ปี โดยกรณีของ นายสัก นั้น เคยได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ว.ครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2543 โดยบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 315 วรรคหน้ากำหนดให้ ส.ว.ที่ได้รับการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2543 จะต้องเข้าดำรงตำแหน่ง ส.ว.เมื่อ ส.ว.ชุดเดิมชุดตามรัฐธรรมนูญ 2534 อยู่ครบวาระก่อน ซึ่ง ส.ว.ชุดเดิมที่มาจากการแต่งตั้งเมื่อปี 2534 จะครบวาระในวันที่ 21 มีนาคม 2543 ดังนั้น ส.ว.เลือกตั้ง ปี 2543 จึงเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 22 มีนาคม 2543 เป็นต้นมา โดย ส.ว.จะมีวาระอยู่ 6 ปีซึ่งจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2543 - 21 มีนาคม 2549 แต่สภาทนายความซึ่งเป็นองค์กรที่เสนอชื่อนายสักเข้ารับการสรรหาส.ว.เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2554 คุณสมบัติของนายสัก จึงพ้นจากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือพ้นจากส.ว.ชุดเลือกตั้งปี 2543 มายังไม่ถึง 5 ปีจนถึงวันได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา
ทนายใหญ่ "สัก กอแสงเรือง" เป็นคนบางขุนเทียน มีเชื้อสายจีนฮกเกี้ยน เคยเป็นกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตรวจสอบและเช็คบิล "ทักษณและพวก" อย่างเอาการเอางาน แน่นอนว่า ทนายใหญ่ รวยไม่เท่า ทักษิณ แต่เขาก็เป็นทนายความที่รวยไม่ใช่เล่น จากบัญชีทรัพย์สินที่ สัก กอแสงเรือง ยื่นต่อป.ป.ช. มีข้อมูลน่าสนใจ ดังนี้ รายได้ของทนายใหญ่มาจาก 2 แห่งคือเงินเดือน ส.ว. ปีละประมาณ 1.3 ล้าน และเงินจากวิชาชีพทนายความ 1.8 ล้าน/ปี ดอกเบี้ยปีละแสน รวมๆ แล้วทำรายได้ปีละ 3.39 ล้านบาท แต่ทรัพย์สินของนายกสภาทนายความที่เป็นก้อนเป็นกำจริงๆ คือ ที่ดิน 42 แปลง มูลค่า 52.7 ล้านบาท ที่ดิน 42 แปลง มีทั้งที่ย่านฝั่งธนฯ บางขุนเทียน ภาษีเจริญ บางกอกน้อย บางรัก และสมุทรปราการ ที่ดินต่างจังหวัดที่เยอะจริงๆ คือ ที่ดินที่ต. แม่นาวาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ 19 แปลง กว่า 142 ไร่ และยังมีที่ดินที่แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และที่ดินที่จ.ชุมพร ส่วนรถยนต์นั้น ท่านนายกสภาทนายความมีรถยนต์ 4 คัน แพงสุดคือ รถทะเบียน สฬ 7337 มูลค่า 7.2 ล้านบาท ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องประดับทนายสักและคู่สมรส มีเพียบ 47 รายการ แพงสุดคือ โรเล็กซ์ ฝังเพชร 5 แสนบาท ไม่นับทองคำอีกหลายรายการ และยังมีพระสมเด็จเลี่ยมทอง 3 องค์ มูลค่า 3 แสนบาท ไม่นับเครื่องเพชร แหวน อัญมณีต่างๆ มากมาย สมกับที่เป็นทนายใหญ่ รวมๆ แล้ว ทนายสักและคู่สมรส(ชุลี กอแสงเรือง) มีทรัพย์สินรวมกว่า 90 ล้านบาท นี่คือ ทนายใหญ่ที่เล่นบทบาทนายกสภาทนายความและส.ว.หลายยุคหลายสมัย จนวันนี้ โดนธนูปักเข่า !!! ...................................................................................................
เอ....ว่าแต่ ทนายใหญ่แห่งห้องราชดำเนิน จะมี ทรัพย์สมบัติเทียบเท่า นายสักหรือเปล่าครับ ?????
วิทยา
จากคุณ |
:
กันยายน
|
เขียนเมื่อ |
:
9 มี.ค. 55 23:09:53
A:101.109.221.176 X:
|
|
|
|