ปัญหาของประเทศไทย มาจากสาเหตุหลักคือ
"ไม่เห็นว่าเพื่อนรวมชาติกันเองเท่าเทียมกัน"
ซึ่งทำให้ไทยเป็น ปกครองด้วยประชาธิปไตย แต่ไม่เชื่อว่าคนไทยเท่าเทียม และเสมอภาค
ส่งผลให้นำมาสู่ แนวความคิดที่ไม่เคารพมติเสียงส่วนใหญ่ ไม่อดทนและไม่รับฟังต่อความคิดเห็นของพวกที่ตัวเองคิดว่าไม่เท่ากัน จนไปถึง ไม่เชื่อว่าผู้อื่นสามารถเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด และแก้ไขได้ และมันก็เลยทำให้เกิดการแบ่งแยก
ความเชื่อที่ว่า "คนไทยไม่เท่ากัน" นั้นถูกปลูกฝังลง และกลายเป็นต้นดังนี้
1. มีเพื่อนร่วมชาติเราจน และไร้ศักดิ์ศรี ถึงขนาดยอมขายสิทธิเลือกตั้งให้เศรษฐี
(ณ เวลานี้ ท้ายที่สุดหน่อความเชื่อนี้ถูกทำลายลงด้วย หลายๆผลลัพธ์ที่ประจักษ์ชัด เช่น การล้มเหลวในการลงเลือกตั้งของเศรษฐีชื่อ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์, การเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ทั้งๆที่ครองอำนาจรัฐ โหมโฆษณา แจกเช็คสองพันบาท และยังเป็นพรรคที่ได้เงินบริจาคไม่น้อยไปกว่าหน้าไหนๆ, การล้มเหลวในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในภาคอีสานของพรรคภูมิใจไทย)
2. เกิดการจัดการนายกคนหนึ่งที่มาจากประชาชน ด้วยวิธีการริบอำนาจของประชาชนไป 1 ปี แล้วสัญญาว่าจะคืนให้แต่โดยดี โดยไม่พยายามเกลี่ยกล่อมรวมถึงละเลยการพยายามชี้แจงให้ประชาชนเหล่านั้นลงโทษด้วยตัวเขาเอง
(ดังตรงนี้จะเห็นได้เลยว่า เกิดการไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ ไม่คิดว่าประชาชนคนไทยเท่าเทียมกัน จึงไม่เคารพมติ และเล่นใช้อำนาจนอกระบบ ข้ามหน้าข้ามตาประชาชนที่เลือกมา)
ผลลัพธ์ที่ตามมา เรียงดังนี้
ก. อำนาจที่ได้จากการริบมาจากประชาชน รีบจัดการ นายกคนนั้น
ข. ประชาชนส่วนหนึ่งลุกขึ้นมาทวงถามอำนาจของเขา
ค. อำนาจนั้นไม่สามารถยึดมาจากประชาชนได้นาน จึงต้องคืนไปตามระยะเวลาที่สัญญาไว้ แต่กระนั้นก็ยังคงคืนให้ประชาชนไม่ครบ(เช่น ที่มาสว.) ไม่เพียงเท่านั้น สร้างกลไกยังลดทอนอำนาจอธิปไตยในส่วนที่ยึดโยงกับประชาชน(ให้มีการยุบพรรคการเมืองได้) และ ไปเพิ่มอำนาจอธิปไตยในส่วนที่เหลือให้เข้ามาเบียดบังควบคม
ง. ประชาชน ยังคงยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างกับนายกคนเดิมในการเลือกตั้ง และมอบอำนาจอธิปไตยฝ่ายบริหารให้คนฝั่งนายกคนเดิมดูแล
จ. กลไกที่วางไว้ใน ค. เข้ามาจัดการทำลายบุคคลที่ประชาชนเลือกไว้ ด้วยการยุบพรรค พร้อมกันนั้นยังบิดพริ้วมติประชาชน(แทรกแซงให้สส.ไม่ทำตามเจตนารมย์ของประชาชนในตอนแรกที่เลือกเข้ามา)
ฉ. ประชาชนออกมาทวง และเรียกร้องให้มีการโหวตอีกครั้ง(ขอยุบสภา) ไม่ยอมกันทั้งสองฝั่ง จนเกิดผลลัพธ์ดังนี้
1.มีการตายของผู้ชุมนุมและผู้เกี่ยวข้อง(ตัวเลขทางการตายเยอะสุดในประวัติศาสตร์ไทยตั้งแต่2475)
2. การลอบวางเพลิงห้างสรรพสินค้าหลังจากมีการสลายการชุมนุม
3.ประชาชนเหล่านั้นไม่ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ และแกนนำติดคุกรวมถึงผู้ชุมนุมบางส่วนติดคุกไม่ได้รับการประกัน(ตรงนี้เองทำให้ ผู้ชุมนุมบางคนที่มีความผิดฐานฝ่าฝืน พรก.ต้องจำคุกเกินโทษไปหลายเดือน)
ช. เมื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไปมาถึง ประชาชนก็ได้แสดงเจตจำนงค์แรงกล้าขึ้นด้วยการให้อำนาจกับกลุ่มอดีตนายกผู้นั้นอีก จนเกินกึ่งของสภาผู้แทนราษฎร
แนวทางแก้ไขปัญหาของประเทศไทย
1. สร้างจิตสำนึกว่าคนไทยทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะการศึกษาใดๆ รายได้ใดๆ รสนิยมใดๆ
2. สร้างเวที ในการถกเถียงกันด้วยเหตุผล แย้งกันด้วยเหตุผล และอดทนต่อความเชื่อที่แตกต่าง
3. แก้ไขกลไกต่างๆใน รธน. เปิดอำนาจให้เป็นของประชาชน
ปล.จะจัดการอดีตนายกคนนั้นได้ ต้องทำวิธีเดียวคือปราบด้วยการเลือกตั้ง แต่อย่าไปเลือกวิธีไม่ให้มีการเลือกตั้ง ไม่งั้นจะเดือดร้อนกันไปหมด
แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 55 04:34:06
แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 55 03:57:35