เครื่องเพิ่งร้อน แม้วทำสะดุด
นิตยสารนิวสวีกของสหรัฐ ระบุเหตุผลในการจัดอันดับให้
น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หญิงคนแรกของไทย
อยู่ใน 150 ผู้หญิงนักต่อสู้ระดับโลกว่า
น.ส.ยิ่งลักษณ์ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ด้วยการหาเสียง
ชูนโยบายกำจัด ปัญหาความยากจน ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สร้างรถ
ไฟฟ้าความเร็วสูง และแจกคอมพิวเตอร์ ให้เด็กนักเรียน
แม้จะไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อนเข้ารับตำแหน่ง
นายกฯ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็เป็นแรงบันดาลใจในความหวัง
เรื่องการปรองดองในประเทศ ที่เจอปัญหาการประท้วง
รุนแรงมานาน 2 ปี
ทั้งนี้ ถ้ามองถึงประเด็นการสร้างปรองดอง เพียงแค่เวลา
6 เดือนของ'รัฐบาลยิ่งลักษณ์' นับว่ามีความคืบหน้าไปมาก
ไม่ว่าการอนุมัติจ่ายเงินเยียวยาให้'คนทุกสี' ที่ได้รับผลกระทบ
จากการชุมนุมทางการเมืองระหว่างปี 2548 ถึงเดือน
พ.ค.2553 ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเงินเยียวยานี้ น่าจะเป็นบันได
ขั้นแรกในการปูทางสู่ความปรองดอง
ขณะเดียวกันกรณี 91 ศพ จากเหตุการณ์เดือนเม.ย.-พ.ค.2553
ก็กำลังได้รับการคลี่คลายอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตามกระบวนการ
ยุติธรรมมาตรฐานเดียว
เริ่มจากล่าสุดศาลได้กำหนดไต่สวนสำนวนชันสูตรพลิกศพ
16 ศพ ที่คาดว่าเป็นการเสียชีวิตโดยฝีมือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
แล้ว สำนวนแรกวันที่ 12 มี.ค.นี้
การเดินหน้าบริหารประเทศก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น
ต้องยอมรับว่าช่วงแรกที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เข้ามา ยังไม่ทัน
ได้ลงมือทำงานตามนโย บายที่แถลงไว้ ก็ต้องมาเจอกับ
ปัญหาน้ำท่วมใหญ่จนตั้งตัวไม่ติด
แต่เมื่อตั้งหลักได้ทุกอย่างก็เดินหน้าอย่างรวดเร็ว
แผนบริหารจัดการน้ำป้องกันประวัติ ศาสตร์ซ้ำรอย กำหนด
ขึ้นหลัง'ทัวร์นกขมิ้น'ลงดูพื้นที่จริง ก่อนนายกฯ นำไปโรดโชว์
ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักธุรกิจภาคอุตสาหกรรม
และการท่องเที่ยว ที่ยืนยันไม่เพียงจะไม่ถอนการลงทุน
ออกจากไทย แต่ยังเตรียมขยายการผลิตเพิ่มขึ้นด้วย
การขึ้นเงินเดือนข้าราชการปริญญาตรี การเดินหน้ากองทุน
พัฒนาบทบาทสตรี ความคืบหน้าโครงการแจกแท็บเล็ตให้
เด็กนักเรียน การเตรียมก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง
โดยเฉพาะผลงานการกวาดล้างปราบปราม ยาเสพติดอย่าง
จริงจัง จนสามารถยึดทรัพย์จับกุมเครือข่ายยาเสพติดใหญ่ๆ
ได้หลายราย เหล่านี้คือผลงานรูปธรรมจากการลงมือทำ
ไม่ใช่ดีแต่พูด
ด้านการเมืองรัฐบาลยิ่งลักษณ์ปรับครม.ไปแล้ว 1 ครั้ง
เพื่อกระชับอำนาจในมือของนายกฯ
สถานการณ์ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ที่เริ่มนับหนึ่งไปแล้วด้วยการแก้ไขมาตรา 291 เปิดทางให้มี
การเลือกตั้ง ส.ส.ร.เป็นผลสำเร็จ
ในจังหวะกระแสเคลื่อนไหวต่อต้านนอกสภาอยู่ในอารมณ์
'จุดไม่ติด' เทียบกับ'คนเสื้อแดง'ที่โบนันซ่า เขาใหญ่
ที่ประกาศหนุนหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ความคึกคัก
แตกต่างกันลิบลับ
ในการประชุมตรวจการบ้านรัฐมนตรีเมื่อต้นสัปดาห์ นายกฯ
เป็นประธาน เน้นย้ำนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่แถลงต่อ
รัฐสภารวม 16 ข้อแปลงเป็น 10 ยุทธศาสตร์
ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์นำสันติสุขสู่ชายแดนใต้ ระบบคม
นาคมขนส่ง หลักประกันสุขภาพ ครัวไทยสู่ครัวโลก อาหาร
ฮาลาล ไวไฟฟรี โครงสร้างราคาพลังงาน โครงสร้างการ
จัดทำบัตรเครดิตเกษตรกรและบัตรเครดิตพลังงาน พลังงาน
ทดแทน และการเพิ่มผลผลิตเอสเอ็มอี
นายกฯ สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทบทวนโครงการ
ต่างๆ เพื่อผลักดันผลงานให้ออกมาโดยเร็วที่สุดก่อนรัฐบาล
จะทำงานครบ 1 ปีในเดือนส.ค.นี้
หรืออีกนัยหนึ่งยังเป็นการลงแส้ให้รัฐมนตรีแถวสองแถวสาม
เร่งสร้างผลงานพิสูจน์ตัวเอง หากต้องการรักษาเก้าอี้ตัวเอง
ไว้ให้ได้ ไม่ให้'ตัวจริง'จากบ้านเลขที่ 111 ที่กำลังจะพ้นโทษ
เว้นวรรค 5 ปีในเดือนพ.ค.นี้กลับมาทวงบัลลังก์คืน
เหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ว่ารัฐบาลกำลังเครื่องร้อนเต็มที่
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึงว่า จะเป็นอีกหนึ่ง
ปัจจัยสำคัญช่วยผลักดันให้รัฐบาลเพื่อไทยโดยเฉพาะตัว
นายกฯยิ่งลักษณ์ดูโดดเด่นกว่าปกติที่ควรจะเป็น
คือความไม่เป็นโล้เป็นพายในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
ของประชาธิปัตย์
ไม่ว่ากรณี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์
ไม่ว่าผลการยื่นตีความ 2 พ.ร.ก. โอนหนี้และกู้เงินป้องกัน
หรือล่าสุดกรณียื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองให้สั่งระงับมติ
ครม.ในการจ่ายเงินเยียวยาม็อบทุกสี ต้องรอดูว่าศาลฯ
จะเห็นต่างกับประชาธิปัตย์อีกหรือไม่
หลายคนมองว่าหลังเข้ารับตำแหน่งนายกฯ นาน 6 เดือน
จะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังสลัด
หลุดพ้นจากเงาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯ
ผู้เป็นพี่ชาย
โพลสำรวจในไทย ตลอดจนสื่อต่างประเทศเริ่มวิพากษ์วิจารณ์
นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในลักษณะแยกส่วนออกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ
ด้วยน้ำเสียงต่างจาก ตอนแรกที่มองว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็น
แค่'หุ่นเชิด'ของพี่ชายเท่านั้น
การที่นายกฯยิ่งลักษณ์มุ่งสร้าง ผลงานด้วยลำแข้งตัวเอง
ทั้งยังพยา ยามตัดเงื่อนไขต่างๆ ที่เชื่อมโยงถึง'ทักษิณ'
ออกเท่าที่จะทำได้ ช่วยเสริม สร้างภาพความโดดเด่น
ในฐานะ'ผู้นำ ประเทศ'ตัวจริง
แต่ที่หลายคนเป็นห่วงคือ เมื่อถึงเวลาจริงพี่-น้องนามสกุล
เดียวกันจะอย่างไรคงสะบั้นกันไม่ขาด ที่พยายามบ่ายเบี่ยง
ปฏิเสธอาจเป็นแค่ฉากหน้า ขณะฉากหลังกำลังหาทางช่วย
เหลือแบบเนียนๆ
ในจังหวะที่กระแสสังคมเทน้ำหนัก มาที่เรื่องความปรองดอง
บวกกับประสิทธิภาพของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ดีวันดีคืน ถึง
ขนาดที่พ.ต.ท.ทักษิณเองยังเก็บอาการไว้ ไม่อยู่
ให้สัมภาษณ์เปิดเผยถึงความต้องการเดินทางกลับ
ประเทศไทยภายในปีนี้ โดยมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ออกมาจุดกระแสยั่วอารมณ์ฝ่ายต่อต้านว่า เตรียม
แผนพาพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านไว้เรียบร้อยแล้ว แต่
จะวิธีใดนั้นขออุบไว้ก่อนเป็นเซอร์ไพรส์
ตรงจุดนี้เองที่กองเชียร์เป็นห่วง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่
เพิ่งจะตั้งหลักลุยงานได้ไม่ทันไร ที่น่ากลัวไม่ใช่พรรค
ฝ่ายค้านทำให้สะดุด แต่เป็นพี่ชายตัวดีนั้นเอง
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd2Iyd3dNVEV4TURNMU5RPT0=§ionid=TURNd05BPT0=&day=TWpBeE1pMHdNeTB4TVE9PQ==
อ่านผลงานรัฐบาล และ นายกฯ หญิงคนเก่ง พร้อมทั้ง
ปรามพี่ชายของเธอว่า เงียบๆ หน่อยแล้ว ก็ลองมาอ่าน
วิเคราะห์การเมือง "ไทยรัฐ" ดูบ้าง เขามองนายกฯ
คนเก่งของ "ข่าวสด" แบบไหน ตามอ่านเต็มจาก link
นะคะ เพราะแปะ 2 รอบแล้ว ไม่ผ่าน มันต้องเด็ดๆ
จริงๆ ถึงขนาดไม่ผ่านระบบกรองคำของพันทิบ
พิสูจน์ "ยิ่งลักษณ์" วัดใจ "ทักษิณ"
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/244370
ทีมวิเคราะห์การเมือง วันอาทิตย์ ของไทยรัฐยังคงมีจุดยืน
ที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่หลายๆ คนจ้องไปยัง
คำว่า "จริยธรรมทางลึก" ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินนำมาใช้
ในกรณีนี้ และกังขาในคำวินิจฉัยที่ ไม่ชัดเจน แต่สำหรับ
ไทยรัฐ แล้ว เขื่อมั่น ตีความให้เสร็จ และเรียกร้องให้
รัฐบาล ทบทวน คำสั่งแต่งตั้ง 2 รัฐมนตรี ........
อ่านแล้ว ก็ต้องกลับไปถาม "ไทยรัฐ" ว่าวันที่
รัฐบาลปชป. แต่งตั้ง กษิต ภิรมย์ เป็นนายก ฯ นี่
"ทีมการเมือง" ของไทยรัฐ ไม่ได้คิดถึงจริยธรรม
บ้างหรือ ทำไม ไม่เห็นออกมาเรียกร้อง แบบนี้ หรือ
จะเป็นแบบที่เขาเรียก "นายว่า ......พลอย"
เอาเถอะ ไม่ว่า "ไทยรัฐ" ทั้งฉบับ ขอเจาะจงวิจารณ์
เฉพาะ "ทีมการเมือง" วิเคราะห์ ฉบับวันอาทิตย์ก็แล้วกัน
เชียร์ใครก็ต้องบอก สื่อนั้นๆ เขียนดี๊ดี ...เลือกกันเอง
หวังว่ากระทู้นี้น่าจะผ่านนะ