
คนเสื้อแดงไม่มีปัญหาหรอกครับ ปัญหาอยู่ที่ ปชป. โน่น
ถ้าพรรคการเมืองด้วยกัน ทำในสิ่งที่ถูกที่ควร ทุกอย่างจบ ดูอย่างพันธมิตรปะไร พอกัดกันกับ ปชป. ก็เหลือสามร้อยเท่านั้นเอง
............................................................
วิเคราะห์
มีสัญญาณส่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดบอกว่า "จะกลับไทยปลายปีนี้"
สัญญาณเช่นนี้ พ.ต.ท.ทักษิณส่งมาทุกปี นับตั้งแต่พลัดถิ่นจนถึงปัจจุบัน
เพียงแต่สัญญาณล่าสุด มีกำลังแรงและมีเค้าลางความเป็นไปได้
น่าสนใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณส่งสัญญาณอยากกลับไทย ออกมาพร้อมๆ กับการแสดงความมั่นใจว่า "ไม่มีปฏิวัติ"
มั่นใจความกลมเกลียวระหว่าง "ทหาร" กับ "รัฐบาล"
น่าสนใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณเชื่อว่า เร็วๆ นี้ ประเทศไทยจะเกิดการปรองดองขึ้น !
สัญญาณจาก พ.ต.ท.ทักษิณ สอดคล้องกับความเห็นของนักวิเคราะห์การเมืองชาวต่างประเทศที่ชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ความขัดแย้งภายในไทยผ่อนคลายลง ตั้งแต่จัดงาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" ที่ทำเนียบรัฐบาล
สัญญาณดังกล่าวฝรั่งสัมผัสได้ !
สัญญาณทั้งหมดทำให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีความเข้มแข็งขึ้น
เป็นความเข้มแข็งที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง โดยสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร จำนวน 265 เกินกว่าครึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด
เป็นความเข้มแข็งที่ต่อเนื่องมาจากผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่รัฐบาลสามารถคุมคะแนนเสียงในสภาจนผ่านพ้นมาได้
เป็นความเข้มแข็งที่ต่อเนื่องมาจากการปรับคณะรัฐมนตรีแบบสายฟ้าแลบ ที่สะท้อนภาพภาวะผู้นำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี
และเป็นความเข้มแข็งที่ต่อเนื่องมาจากการ "บริหาร" ประเทศภายใต้สถานการณ์ภัยพิบัติ
การตัดสินใจออกพระราชกำหนดจำนวน 4 ฉบับ เพื่อฟื้นฟูประเทศ หลังเกิดมหาอุทกภัย ตามคำแนะนำของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ทั้ง 2 ชุดที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์แต่งตั้ง ทำให้มองเห็นการกล้าตัดสินใจเผชิญหน้ากับพรรคฝ่ายค้าน
และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าพระราชกำหนดที่ออกโดยรัฐบาลเพื่อฟื้นฟูประเทศทั้ง 4 ฉบับ เป็นพระราชกำหนดที่ออกสมควรแก่เหตุแห่งรัฐธรรมนูญแล้ว
ทำให้รัฐบาลมีความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินมากขึ้น
ความเข้มแข็งของรัฐบาลยังต่อเนื่อง หลังจากตัดสินใจเสนอร่างแก้ไขมาตรา 291 รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ฉบับของรัฐบาล เพื่อตั้งเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญผสมกับสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจากการคัดเลือก
แม้พรรคฝ่ายค้านจะคัดค้านการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับเนื่องจากไม่เห็นว่าจำเป็น
แต่ในที่สุด ที่ประชุมรัฐสภาก็โหวตสนับสนุนเกินคาด
399 ต่อ 199 เสียง
ผลคะแนนที่โหวตออกมาย่อมทำให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้มแข็งขึ้นไปอีก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นิตยสารนิวสวีค ตีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็น 1 ใน 150 สตรีของโลกที่ทำให้โลกรับรู้และตระหนักถึงบทบาทความสำคัญของผู้หญิง
ยิ่งทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในบทบาทนายกรัฐมนตรี มีความโดดเด่นขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะที่รัฐบาลมีความเข้มแข็งมากขึ้น แต่ท่าทีของพรรคเพื่อไทยในการยกร่างรัฐธรรมนูญ กลับแฝงเร้นเรื่องการประนีประนอมเอาไว้
เหตุผลที่พรรคฝ่ายค้านคัดค้าน ทั้งเรื่องหมวดพระมหากษัตริย์ หมวดเกี่ยวกับศาล และองค์กรอิสระ รวมทั้งการคัดค้านการแก้ไขเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับประโยชน์
พรรคเพื่อไทยกลับมีท่าทียอมรับฟัง
ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาตอกย้ำอีกครั้งว่า อย่าแก้กฎหมายเพื่อคนคนเดียว
ในจังหวะที่่ฝ่ายรัฐบาลแสดงท่าทีประนีประนอม ก็ปรากฏข้อเสนอจากสถาบันพระปกเกล้าเพื่อความปรองดอง
หนึ่งในข้อเสนอคือ การโละผลสอบของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ หรือ คตส.ทิ้งไป
แล้วนำคดีความกลับสู่กระบวนการยุติธรรมใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ข้อเสนอนี้ฟังแล้วคุ้นๆ กับข้อเสนอเดิมๆ ที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยแนะ
เป็นข้อเสนอที่ส่งสัญญาณเชิงบวกสำหรับแนวทางการปรองดอง
เช่นเดียวกับการเริ่มต้นเยียวยาเหยื่อความรุนแรงทางการเมือง ทั้ง "เหลือง" "แดง" รวมถึง "ตำรวจ" ซึ่งเริ่มต้นลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมไปแล้ว
ความเป็นไปในห้วงเวลานี้คลับคล้ายกับแนวทางที่คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป.เคยนำเสนอ
เป็นแนวทางที่ใช้กระบวนการยุติธรรมในช่วงการเปลี่ยนผ่านมาสร้างความปรองดอง
เป็นสัญญาณที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พอใจ และต่างชาติก็สัมผัสได้
เหตุนี้จึงทำให้นักวิเคราะห์ชาวต่างชาติ และ พ.ต.ท.ทักษิณเชื่อว่า การปรองดองจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ และเมื่อปรองดองกันได้ พ.ต.ท.ทักษิณก็พร้อมหิ้วกระเป๋ากลับไทยทันที
อย่างไรก็ตาม ในจังหวะที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเดินเครื่องปรองดองเต็มตัว กลับเกิดกระแสกระเพื่อมในกลุ่มมวลชนที่เคยสนับสนุนบางกลุ่ม
เริ่มมีเสียงแคลงใจว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ จะหลอกใช้ "คนเสื้อแดง" ให้เป็นสะพานให้ฝ่ายการเมืองเดินข้ามไปสู่อำนาจหรือไม่
เริ่มมีเสียงบ่นพึมว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยครองอำนาจรัฐ จะหลงระเริงจนลืมอำนาจประชาชนหรือเปล่า?
ดังนั้น การเมืองไทยในช่วงเวลานี้ ยังคงต้องเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลง
สังเกตทั้งความรุนแรงในแนวรบเดิม และจับตามองแนวรบใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1331455151&grpid=&catid=02&subcatid=0202
