ไปฟัง "รมช.เต้น" พูดได้อย่างน่าสนใจครับ..."ปรองดอง-ทักษิณ" แยกกันไม่ได้

ไปฟัง "รมช.เต้น" พูดได้อย่างน่าสนใจครับ..."ปรองดอง-ทักษิณ" แยกกันไม่ได้


ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี มีการผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง ว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด และหากวิจารณ์จะยิ่งสร้างความสับสนให้สังคมเพิ่มขึ้น ส่วนความเป็นไปได้ในการเดินทางกลับประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ตนไม่รู้กำหนดระยะเวลา เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณควรได้รับโอกาสและความเป็นธรรมจากประเทศไทยในการกลับเข้าประเทศ เพราะถือเป็นคนไทยคนหนึ่งที่กระบวนการยุติธรรมไม่สามารถปฏิเสธได้


"สังคมควรหาคำตอบร่วมกันว่าที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการรัฐประหารใช่หรือไม่ และถ้าเป็นจริงสังคมก็ควรคืนความยุติธรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ช่วงเวลาในการเดินทางกลับประเทศนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นผู้พิจารณาเองผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจหรือเป็นปฏิปักษ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตรงกันข้ามผมคิดว่าคนส่วนใหญ่รอให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับเหตุการณ์และเหตุผลรวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองในเวลานั้นด้วย" ณัฐวุฒิกล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า การพยายามนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทยจะทำให้รัฐบาลอายุสั้นหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ประเด็นหลักไม่ได้อยู่ที่เงื่อนไขเวลา แต่อยู่ที่สถานการณ์ทางการเมืองมากกว่า เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณถือเป็นผู้ถูกกระทำอย่างร้ายแรงในจำนวนหลายคน ซึ่งเป็นผู้ได้รับความเสียหายตลอดเวลา 6 ปี แห่งความขัดแย้ง ซึ่งวันนี้เราบอกว่าทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรม แต่กลับกันให้ พ.ต.ท.ทักษิณออกจากวงของความเป็นธรรมนี้


เมื่อถามว่า ใครจะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการในภาพรวมทั้งหมด นายณัฐวุฒิกล่าวว่า หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกำลังพูดคุยกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกรรมาธิการของสภา คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) รวมถึงองค์กรต่างๆ ที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้ เราคงไม่แยกว่าการสร้างความปรองดองกับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนละเรื่อง เพราะสถานการณ์โดยรวมเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะฉะนั้นกระบวนการค้นหาข้อเท็จจริงและกระบวนการสร้างความปรองดองก็ควรมีเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณด้วย


เมื่อถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับมาประเทศไทยจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของคดีความที่ค้างอยู่หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรมที่เป็นประชาธิปไตยปกติ แต่สถานการณ์ทางการเมืองจะเอาความคิดเห็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงลำพังไม่ได้ ต้องรอกระบวนการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการแยก พ.ต.ท.ทักษิณออกจากการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองไม่ได้ เพราะถือเป็นตัวละครหลักที่สำคัญที่สุด และขณะนี้มีบางฝ่ายพยายามแยกเรื่องดังกล่าวออกจากกัน ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องเดียวกัน และการพิจารณาเรื่องนี้ควรมองในภาพรวม


นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า การที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จะมีการชุมนุมต่อต้านหาก พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับประเทศไทย ตนเคารพในการชุมนุมและยืนยันว่าสามารถทำได้ แต่การให้ความเป็นธรรมกับใครคนหนึ่งไม่น่ามีกระบวนการใดขัดขวาง เว้นแต่กระบวนการเหล่านั้นพร้อมจะสร้างประเด็น เพื่อต่อต้านการดำเนินการของฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นหากดูจากผลสำรวจความคิดเห็นที่สมาชิกกลุ่มพันธมิตรส่วนใหญ่ที่เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาชุมนุมใหญ่จนกว่าทหาร ตุลาการ และองค์กรที่มีอำนาจจะเห็นด้วย ซึ่งมีความชัดเจนว่าที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรเคลื่อนไหวโดยการสนับสนุนของใครบ้างและต่อไปกองทัพ ตุลาการ และองค์กรต่างๆ ควรระมัดระวังและมีความรอบคอบในการแสดงออกต่อสถานการณ์ทางการเมือง


------------


อืม....พธม.เขารอสัญญาณจากฝ่ายตุลาการ และทหารอยู่สินะ

เอาล่ะ..."ใบสั่ง" จะมาก่อน "ไฟเขียว" หรือเปล่าหนอ..???


-------------

จากคุณ	: Ultimate_Warrior
เขียนเมื่อ	: 14 มี.ค. 55 20:34:24 A:180.183.112.141 X: