Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
น่าอ่านครับ น่าอ่านมาก ๆ ตอนนี้ทักษิณมีเงินเป็นล้าน ล้าน ล้านบาทแล้วครับ รีบคลิกเข้ามาอ่านเร้วววววววววววววววววววววววว... ติดต่อทีมงาน

หากใครศึกษาเรื่องราว  ระหว่างการปฏิวัติของ รสช. เมื่อปี 2534  (นายกฯชาติชาย)  กับการปฏิวัติของ คปค. ในปี 2549  (นายกฯทักษิณ)

จะเห็นว่า  คปค. เอานักกฎหมายมาร่างประกาศ คำสั่ง คิดวิธีการเล่นงานทักษิณชนิดที่ว่า  ช่องโหว่อะไรที่เคยมีในยุค รสช. นั้น คปค. อุดหมด

นี่คือสิ่งที่ทำให้การต่อสู้ของ พล.อ.ชาติชาย กับ พ.ต.ท.ทักษิณ  แตกต่างกัน

แต่อย่างว่า  นายโต้งก็คือคน ปชป.  ที่แน่นอน  นิสัยหลักก็คือพูดจริงเสี้ยวเท็จแผ่นอยู่แล้ว

เอาดีใส่ตัว ยัดชั่วคนอื่นนี่  จะมีใครเกินคนพรรคประชาธิปัตย์   นี่ขนาดเป็นลูกพ่อที่เป็นรากเหง้าจากพรรคชาติไทยนะครับ ไม่ใช่ ปชป. โดยสายเลือด  ฮ่าฮ่าฮ่า

..................

 

"ไกรศักดิ์" รำลึกชีวิตหลังรัฐประหาร พ.ต.ท.ทักษิณ-พล.อ.ชาติชาย ผู้เสพอำนาจจนกลายเป็นกิเลสติดตัว

รายงานพิเศษ

การเมืองในวงโคจรต่างประเทศ ไม่มีผู้นำประเทศใดไม่รู้จัก 2 อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มากสีสันทางการเมือง

หนึ่งคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ผู้ถูกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โค่นลงจากบัลลังก์อำนาจ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549

สองคือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 17 ถูกคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ เขี่ยลงจากเก้าอี้ผู้นำประเทศ เช่นเดียวกับ "พ.ต.ท.ทักษิณ"

"ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ" หรืออาจารย์โต้ง ลูกชายคนเดียวของ "พล.อ.ชาติชาย" ได้เปรียบเทียบการต่อสู้กับอำนาจปืนระหว่างพ่อของเขา กับ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ว่าเป็นการต่อสู้บนยุทธวิธีที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เพราะในปี 2534 "พล.อ.ชาติชาย" สู้ตาม "ระบบ"

แต่ในปี 2549 เรื่อยมา "พ.ต.ท.ทักษิณ" สู้ด้วยวิธี "นอกระบบ"

"ไม่ใช่ไม่สู้นะ ก็สู้ทุกขั้นทุกตอน แต่ไม่ได้สู้แบบคุณทักษิณ ไม่ได้เอาประชาชนมาสร้างเป็นม็อบ ไม่ได้บอกให้มีการเผาบ้านเผาเมือง ให้รัฐบาลระส่ำระสาย ไม่ได้มีการยุแหย่ให้มีการใช้ความรุนแรงเพื่อให้มีการปราบปราม แล้วจะได้โทษรัฐบาลเพราะละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ได้มีความคิดชั่วร้ายต่อประเทศชาติถึงขนาดนั้น"

"หลังจากนั้นประชาชนก็สั่งสอน พล.อ.สุจินดา (คราประยูร) เอง ภายในปีเดียวกันนั้นประชาชนก็ไม่พอใจคุณสุจินดา ในการทำรัฐประหาร เพราะสิทธิเสรีภาพของประชาชนก็หายไป แต่ในยุคคุณอภิสิทธิ์ สิทธิเสรีภาพของประชาชนก็ไม่ได้หายไปทั้งหมด ยังคงมีอยู่ เป็นระบบประชาธิปไตย แต่ในสมัยคุณสุจินดามันหายไปหมด ทำให้ประชาชนออกมาขับไล่ประท้วงคุณสุจินดา"



ไกรศักดิ์วิเคราะห์ลมหายใจของนักการเมืองทั้ง "พล.อ.ชาติชาย" และ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ที่มีจุดร่วมเหมือนกันว่า การคุ้นเคยต่ออำนาจ เป็นเหมือนเสน่ห์อย่างหนึ่ง คนที่เสพแล้วไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้ จึงกลายเป็นกิเลสที่ติดตัวจนถึงวาระสุดท้าย

"คุณชาติชายเล่นการเมืองจนวาระสุดท้ายของลมหายใจเฮีอกสุดท้าย นักการเมืองเป็นอย่างนั้น คล้ายๆ ว่านักการเมืองเล่นแล้วเลิกไม่ได้ ต้องรับผิดชอบตั้งแต่วันที่เล่น การคุ้นเคยต่ออำนาจ การบริหารเมือง ให้ความสุขกับคนอื่น บางทีมันก็เป็นเสน่ห์ที่ไม่สามารถทิ้งได้ จนบางทีกลายเป็นกิเลสไปเลย"

เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้พ่อชาติชาย ต้องเล่นการเมืองจนสิ้นลมหายใจ เพราะยังคิดว่าให้ความสุขแก่ประชาชนได้

"บางทีประชาชนอาจอยู่ดีกินดีได้ดีกว่า ถ้าไม่มีคุณชาติชายก็ได้นะ แต่แกก็ไม่เชื่อ แกคิดว่าทำได้ดีกว่า แล้วก็ทำให้เห็นแล้วว่าทำให้ยุติสงครามได้ กระตุ้นเศรษฐกิจให้กลายเป็นเศรษฐกิจที่หวือหวา เปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้า พอแกอายุมากแล้วเล่นการเมืองได้ระดับหนึ่งก็น่าจะพอใจแล้ว"



วงโคจรของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ในรอบ 5 ปี หลังถูกยึดอำนาจ จนต้องกลายเป็นวณิพกพเนจร เร่ร่อนพักแรมในหลายประเทศ ไกรศักดิ์เห็นว่า การมีเครดิตเป็นนักธุรกิจที่มีเงินเป็นล้านล้านบาท ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างไม่จำกัด เพราะทุกคนเมื่อเห็นเงินของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ก็ตาลุก หันมาผูกมิตรเป็นเพื่อนได้เสมอ นับตั้งแต่ขายหุ้นชินคอร์ปให้กับกลุ่มเทมาเส็กของสิงคโปร์ ทำให้อดีตผู้มีไพ่ในมือให้เล่นได้มากมาย

"เงินอย่างเดียวเท่านั้นแหละผมว่า...ไปประเทศไหนก็เช็กอินเข้าโรงแรม ไม่ถูกจำกัดพื้นที่ เพราะเขาไม่มีสิทธิอาละวาดประเทศนั้นๆ หรือไปพบคนใหญ่คนโตทุกประเทศ แต่ก็ยอมรับว่าคุณทักษิณรู้จักคนเยอะ ตั้งแต่เป็นนายกฯ อาจมีการผูกพันธมิตรไว้เยอะ และคนมีเงินเป็นล้าน ล้าน ล้าน มันหาเพื่อนได้เยอะมาก"

"ตั้งแต่เขาขายหุ้นชินคอร์ปให้แก่กลุ่มเทมาเส็กของสิงคโปร์ไป เขาก็มีเงินเล่นในมือเยอะ ยังไม่นับเงินที่เกาะเคย์แมน 2-3 ธนาคารที่คุณทักษิณฝากเอาไว้อีกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครรู้ พอดึงเงินก้อนนี้ออกมาเล่น นักธุรกิจก็ตาลุก ขนลุก ผมตั้ง อวัยวะลุก อยากจะมีส่วนได้"
(หมายเหตุ จขกท. - เงินเจ็ดหมื่นกว่าล้านที่ขายหุ้นให้เทมาเส็ก  อยู่ในประเทศไทยตลอดครับ  และโดนยึดไปแล้ว 4.6  หมื่นล้านบาท  เรื่องเกาะเคย์แมน หากทักษิณมี คุณชาติชายหรือพรรคพวกคุณโต้งมีไหม  หากผมจะบอกว่าคุณชาติชายมีเป็นล้าน ล้าน บาทบ้างจะได้ไหม ผิดไหม ? )

"แต่คุณทักษิณคงได้รับการยอมรับในระดับธุรกิจเพียงอย่างเดียว ในระดับผู้นำคงมีไม่กี่คนหรอก ผู้นำอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เขาก็ไม่ยอมรับ ประเทศพม่าก็ไม่ได้ต้อนรับ ทั้งๆ ที่คุณทักษิณอยากให้พม่าช่วยสร้างความขัดแย้งต่อ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่เหมือนกรณีของกัมพูชา เพราะกัมพูชามีเชื้อของเขาพระวิหารอยู่แล้ว"

ผลพวงจากการคืนหนังสือเดินทางให้กับ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อดีตนายกฯ สามารถกำหนดวงโคจรล้อมไทยตามยุทธศาสตร์ที่เซ็ตอัพไว้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาเรื่องธุรการด้านเอกสารเดินทาง

ที่สำคัญไทยยังมีสถานทูต สถานกงสุลอยู่ทั่วทุกมุมโลก คอยเปิดประตูต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่พี่ชาย "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ต้นจนจบ

"รู้สึกว่าตั้งแต่คุณทักษิณได้พาสปอร์ตไทยกลับมา ก็ยิ่งโคจรหนักขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ที่ใช้พาสปอร์ตพลเมืองพิเศษของนิการากัว ก่อนอื่นก็ต้องเปลี่ยนชื่อ และตามระเบียบการไปประเทศต่างๆ จะเดินเข้าไปขอวีซ่าอย่างเดียวไม่ได้ แต่คุณต้องมีจดหมายระบุด้วยว่าคุณเป็นใคร ทำไมใช้พาสปอร์ตพลเมืองพิเศษ"

"ถ้าเป็นพาสปอร์ตของไทยอาจจะสะดวกกว่าเยอะ เพราะมีสถานทูตทั่วโลก"

ไกรศักดิ์ อ่านใจ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ว่า ไม่เพียงอยากได้หนังสือเดิมทางเล่มธรรมดาเท่านั้น แต่ยังต้องการหนังสือเดินทางเล่มสีแดงด้วย เพราะได้สิทธิปกป้องทางการทูต

"ถ้าผมคาดเดาไม่ผิดผมคิดว่าคุณทักษิณอยากได้พาสปอร์ตแดงคืนด้วย เพราะคิดว่ามันขลังใครทำอะไรเขาไม่ได้ เนื่องจากคนที่ทำผิดกฎหมายจะได้รับการปกป้องตามลัทธิทูต ซึ่งเป็นการเข้าใจกันว่าจับกุมตัวไม่ได้ เว้นแต่เจ้าหน้าที่ของประเทศเขาเท่านั้น ยกเว้นจะได้หมายจับจากอินเตอร์โพล (ตำรวจสากล)"
(หมายเหตุ จขกท. - เรื่องหมายจับตำรวจสากลนี่  ปชป.บอกไม่ใช่เหรอครับว่าทักษิณโดนออกหมายจับ แล้วกลัวอะไรที่ทักษิณจะถือพาสปอร์ตอะไร)


ในขณะที่รัฐบาล "พล.อ.ชาติชาย" ถูกรัฐประหารแล้วถอยไป แต่รัฐบาล "พ.ต.ท.ทักษิณ" มีตัวช่วยระดับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะของน้องสาว

"การแก้ไขกฎหมาย แก้รัฐธรรมนูญ ทุกอย่างมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวคือช่วยคดีของคุณทักษิณ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของชาติ แต่เป็นเรื่องของคนคนเดียว"

เส้นทางของ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" เส้นทางของ "พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ" เป็นเส้นทางของคนที่ถูกยึดอำนาจเหมือนกัน หากต่างกันตรงที่ยุทธศาสตร์เคลื่อนไหว

คนหนึ่งเลือกเก็บตัวรอวันคืนชีพทางการเมือง แบบสุขนิยม

แต่อีกคนหนึ่งเดินหน้ารุกเต็มสูบ จนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ตามแบบผู้นิยมชัยชนะ ในฐานะผู้กำหนดเกม

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1331968400&grpid=03&catid=&subcatid=

 

 

ฝากกาพย์ถึงใครบางคน

 

สิ้นพ่อก็สิ้นแสง

ฤทธิ์เรืองแรงก็แห้งหาย

กาฝากเกาะไม้ราย

กฎุมพีบนทรัพย์โกง


จากคุณ : ตระกองขวัญ
เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 15:22:14 A:118.172.64.46 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com