(ที่มา : มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 19 มีนาคม 2555)
กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ นายสัก กอแสงเรือง ส.ว.สรรหา
พ้นจากสมาชิกภาพแห่งวุฒิสภา ดำเนินไปในลักษณะอันเรียกกันว่า
บัตเตอร์ฟลาย เอฟเฟ็กต์
ประเภทที่คนเจ้าสำบัดเจ้าสำนวน อาจผูกประโยคออกมาหรูๆ ได้ว่า "เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว"
ดาวดวง 1 คือ ส.ว.ประเภทสรรหา
ดาวดวง 1 คือ คณะกรรมการคัดสรรผู้เข้าดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามบทบัญญัติ
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550
ดาวดวง 1 คือ สภาทนายความ ต้นสังกัด นายสัก กอแสงเรือง
น่าสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งที่ข้อกล่าวหาการได้มาซึ่งสมาชิกภาพแห่งวุฒิสมาชิกของ
นายสัก กอแสงเรือง ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ
นั่นก็คือ นายสัก กอแสงเรือง พ้นจากสถานการณ์เป็น ส.ว.ไม่นานเกินที่กำหนดเอาไว้
ทั้งๆ ที่ นายสัก กอแสงเรือง เป็นประธานสภาทนายความ ทั้งๆ ที่สภาทนายความซึ่งคัดสรร
นายสัก กอแสงเรือง ส่งให้คณะกรรมการสรรหา
ทั้งหมดล้วนเป็นนักกฎหมายระดับเยี่ยมยุทธ
ต้องยอมรับว่า นายสัก กอแสงเรือง มิได้เคยเป็น ส.ว.มาก่อนหน้านี้เท่านั้น
หากแต่เป็น ส.ว. ซึ่งได้รับการคัดสรรจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ให้เข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการใน
คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ซึ่งมีชื่อย่อว่า "คตส."
เช่นเดียวกับ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา
เมื่อพ้นจากการเป็นคณะกรรมการ คตส. ก็ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาทนายความ
และต่อมาเมื่อมีการพิจารณา ส.ว.สรรหาจำนวนหนึ่งตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ
สภาทนายความก็เลือก นายสัก กอแสงเรือง ให้เข้าสู่กระบวนการสรรหา
การสรรหาอันประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครอง ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
เป็นต้น รวม 6 คน จะขาดก็เพียงแต่ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเท่านั้น
เพราะว่า คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อยู่ระหว่างการพิจารณาว่ายังดำรงตำแหน่งนี้อยู่หรือไม่
ขณะที่การเข้ามารักษาราชการของ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถอยู่ใน
องค์คณะของคณะกรรมการสรรหาหรือไม่ ตรงนี้ยังเป็นประเด็นที่จะต้องถกเถียงกันต่อไปในทาง
กฎหมาย
ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากก็คือ การร้องเรียนของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ต่อกระบวนการสรรหา
ส.ว. ว่าดำเนินไปอย่างมีข้อบกพร่องมิได้จำกัดแต่เพียงกรณีของ นายสัก กอแสงเรือง เท่านั้น
หากยังครอบคลุมถึง ส.ว.สรรหามากกว่า 30 คน และในจำนวนนี้มีไม่ต่ำกว่า 10 คน ที่มีข้อสงสัย
ว่าอาจไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามที่กฎหมายบัญญัติเอาไว้
ใน 10 คนนี้มี 2 คนที่ กกต.ชี้ว่าเป็นจริง
ขณะเดียวกัน ข้อร้องเรียนของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ยังค้างการพิจารณาอยู่ใน
คณะกรรมการการเลือกตั้งคือ
"การร้องคัดค้านกระบวนการสรรหา ส.ว.ที่มีองค์คณะเพียง 6 คน โดยตัดสิทธิ
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รักษาการผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่ให้ร่วม
เป็นคณะกรรมการสรรหา ทั้งที่ศาลปกครองได้วินิจฉัยชัดเจนเกี่ยวกับขอบเขต
อำนาจของรักษาการผู้ว่า สตง."
ในความเห็นของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ "ถ้าดูตามกฎหมายเท่ากับว่าการสรรหา
ส.ว.ครั้งนี้ต้องเป็นโมฆะทั้งหมด"
เป็นโมฆะในส่วนของ ส.ว.สรรหา 70 กว่าคน
จึงเห็นได้ว่า ผลสะเทือนจากกรณี นายสัก กอแสงเรือง กำลังกระทบกับทั้งสถานะ
ของคณะกรรมการสรรหา ส.ว.และตัว ส.ว.อันผ่านการสรรหาทุกคน
กรณีของ นายสัก กอแสงเรือง จึงเสมอเป็นเพียงกรณีตัวอย่างเหมือนปลายบนสุดภูเขาน้ำแข็ง
เป็นภูเขาน้ำแข็งซึ่งรากฐานสัมพันธ์อยู่กับกระบวนการรัฐประหาร สัมพันธ์อยู่กับองค์กรอิสระ
สัมพันธ์อยู่กับการพยายามสืบทอดฐานะตำแหน่งผ่านกระบวนการ ส.ว.สรรหา
ที่สุดแล้วก็แตะไปยังกระบวนการ "ตุลาภิวัฒน์" อย่างเลี่ยงไม่พ้น
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1332146424&grpid=&catid=01&subcatid=0100
อ่านข่าว "ผู้จัดการ" เมื่อวันก่อน บอกว่า ด้วยอำนาจเงินของอดีตนายกฯ ทักษิณ
ทำให้วันนี้ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ถูกซื้อตัวไปเรียบร้อยแล้ว
ก็แล้วแต่ เพื่อน ๆ จะตัดสินใจว่า เป็นไปได้มากน้อย เพียงใด หรือว่า จริงๆ
แล้วก็แค่ "เรืองไกร" อยากดัง เพราะงานนี้ เขาดังจริงๆ เพราะล้ม "สัก กอแสงเรือง"
และ กรรมการสรรหา ที่มาจากผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายได้ จะเรียกว่า ปลาตายน้ำตื้นได้ไหม?
แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 07:08:13