ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นชัดเจนว่าเป็นเวทีปรองดองเดือด เป็นการผิดคิว โดย อาจจะเป็นไปได้ว่า เสธ.หนั่นต้องการที่จะเปิดคำถามตรงๆ เอ่ย ชื่อ นายทหารสูงอายุ มากบารมี ตรงๆ เพื่อต้องการให้ พล.อ.สนธิ ออกมาปฏิเสธพร้อมกับยืดออกรับแต่เพียงผู้เดียว เพื่อไม่ให้ กระทบไปถึงตัว แต่พล.อ.สนธิ กลับไม่ยอมเป็นเช่นนั้น เป็นการผิดคิวอย่างเห็นได้ชัด

ถ้าให้ผม เดาลงลึกไปอีก ผมเห็นว่าเบื้องหลังการปรองดองนั้น ทางฝั่งปฏิวัติเก่า อาจจะยอมรับแล้วว่าการกระทำบิดเบือนต่างๆ ด้วยกลไกศาล กลไกองค์กรอิสระนั้นไม่สำเร็จ และฝ่ายแพ้ ระดับหัวจึงออกมายอมรับว่าการรัฐประหาร การบิดเบือนต่างๆเป็นสิ่งผิดพลาดและต้องการเลิกที่ตะแบงทำมันต่อไป

แต่ทางคนระดับบน ไม่อยากให้การกระทำเหล่านี้สาวขึ้นมาถึงตัว จึงต้องการที่จะตัดตอนไว้เฉพาะผู้ลงมือปฏิบัติการ คือจะต้องการตัดตอนไว้ที่หัวหน้าคณะรัฐประหาร แต่ตัวหัวหน้ารัฐประหารนั้นในใจก็คงยอมรับแล้วว่าการกระทำครั้งนั้นเป็นสิ่งที่ก่อกำทำเข็ญไว้กับประเทศอย่างเหลือคณานับ แต่ไม่อาจจะยอมรับได้ว่า ความผิดทั้งหมดจะต้องมาลงบนบ่าแต่เพียงผู้เดียว ทั้งที่ในเมื่อขณะนั้นมีหลายคนเหลือเกินที่สนับสนุน ยุยง

บิ๊กบังเลยทำการขู่ด้วยหนังสือที่จะแจกเวลาตาย เพื่อบอกเลยว่า ถ้าผมเป็นอะไรไป ใครก็ตามตอนนั้นเดือดร้อนกันหมด จะให้บิ๊กบังวางใจได้อย่างไรก็ มองไปเห็นตัวอย่าง เพื่อนร่วมชะตากรรม อย่างสนธิ ลิ้ม

คงจะเป็นเช่นนี้แล