นี่คือมาร์ค

บุคคลที่ไม่เคยเห็นแก่ประโยชน์ของชาติ นอกจากประโยชน์ของตัวเอง แต่คำพูดทุกคำกับอ้างถึงประชาชนได้ทุกเวลา ผมมีตัวอย่างให้ดูครับ

ตอนเกิดรัฐประหาร มาร์คไม่เคยออกมาคัดค้าน ออกจะเชียร์ซะด้วยซ้ำไป เพราะมาร์ครู้ดีว่า มีแต่วิธีนี้เพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่มาร์คพอมีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาล มาร์คไม่เคยรังเกียจหัวหน้าปฏิวัติอย่างคุณสนธิ มาร์คไม่เคยรังเกียจที่คุณสนธิจะตั้ง คตส.เพื่อตรวจสอบคุณทักษิณ มาร์คเชียร์แม้กระทั่งรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ มาร์คไม่เคยออกความเห็น แม้มีหลายคดีที่ตัดสินค้านกับสายตาประชาชน จะทำให้ประเทศเกิดความแตกแยกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่มาร์คก็ไม่นำพา เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เอื้อประโยชน์ให้กับมาร์คกับพวก แต่พอคุณสนธิคนเดียวกันนี้ มาเป็นประธานคณะปรองดอง เสนอแนวทางแก้ไขความปรองดอง มาร์คกลับต่อต้าน มาร์คกลับไม่เห็นด้วย ไม่รู้มาร์คกลัวอะไรกับการปรองดอง หรือคิดว่า มีแต่ความขัดแย้งของคนในชาติเท่านั้นมาร์คจึงจะได้ประโยชน์?

ตอนมาร์คเป็นนายกฯ มาร์คได้ตั้งคุณคณิต เป็นประธาน คอป. ก็เป็นอีกหนึ่งคณะที่ต้องการตรวจสอบค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ แต่เมื่อคุณคณิตเสนอหนทางแห่งความปรองดอง แต่ไม่ว่าเสนออะไรมา มาร์คก็ไม่เคยเห็นด้วย แม้กระทั่งการเยียวยาผู้ถูกผลกระทบจากการเมือง มาร์คก็ยังไม่เห็นด้วย จนกระทั่งรัฐบาลชุดนี้มองเห็นความสำคัญของการปรองดอง ด้วยการเริ่มต้นการเยียวยา มาร์คกลับคัดค้าน มาร์คกลับไม่เห็นด้วย ทั้งๆที่การเยียวยาควรเป็นหน้าที่ของมาร์คด้วยซ้ำไป นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่ไม่เคยเห็นถึงหัวประชาชน นอกจากหวังผลทางการเมืองของมาร์ค

ตอนมาร์คเป็นรัฐบาล มาร์คก็เคยตั้งสถาบันพระปกเกล้าฯเป็นคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง ตอนนั้นมาร์คก็สนับสนุนแนวทางของสถาบันนี้อย่างเต็มที่ แต่พอสถาบันนี้เสนอแนวทางปรองดอง มาร์คก็คัดค้านเช่นเคย มาร์คกลับไม่เคยเห็นด้วยกับการวิจัย มาร์คถึงกับส่งจดหมายถึง 2 ครั้ง 2 คราทีเดียว เพียงเพราะงานวิจัยชิ้นนี้ ก่อเกิดประโยชน์ให้กับคุณทักษิณ ซึ่งจะเป็นผลร้ายกับมาร์คกับพรรคพวกในการเลือกตั้งครั้งต่อๆไป ดังนั้นมาร์คจึงไม่แคร์ว่าประเทศจะปรองดองหรือไม่ ขออย่างเดียวคุณทักษิณอย่าได้มีโอกาสกลับเมืองไทย นี่จึงเป็นจุดยืนที่ชัดเจนที่สุดของมาร์ค.

แต่พอคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีคุณสมบัติเป็นประธานที่ได้รับการแต่งตั้งจากมาร์ค ได้เสนอแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ข้อ มาร์คก็เลือกเพียง 2 ข้อที่เป็นประโยชน์กับพรรคตัวเอง นี่คือ นักการเมืองน้ำดี นักการเมืองที่เป็นความโชคดีของประเทศไทย ซึ่งสุดท้ายก็ได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างเด่นชัดแล้วว่า ที่โชคดีคือประชาชนได้เห็นธาตุแท้ของมาร์คต่างหากครับ

จากคุณ	: ทวดเอง
เขียนเมื่อ	: 24 มี.ค. 55 13:58:09 A:27.130.49.6 X: