Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อ่านเรื่องยุ่งๆ ในมุ้งกองทัพ / ดัชนีความเครียด ของ "บิ๊กตู่" กับ แผนต้อนรับ "ทักษิณ" กลับ ติดต่อทีมงาน

 

ดัชนีโผทหาร ดัชนีความเครียด ของ "บิ๊กตู่" กับ แผนต้อนรับ "ทักษิณ" กลับ และ 3 เสธ. 3 สี แห่งโผเมษาฯ

รายงานพิเศษ มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 23-29 มีนาคม 2555

การ แต่งตั้งโยกย้ายกลางปี 127 ตำแหน่ง ดูเหมือนจะราบรื่นหวานชื่น ไม่ปรากฏความขัดแย้งระหว่างการเมืองกับกองทัพ ไม่ปรากฏเรื่องการล้วงลูก ระหว่างบิ๊กโอ๋ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กับ ผบ.เหล่าทัพ ตกลงกันได้ด้วยดี

แต่ทว่า กลับมีเค้าลางแห่งปัญหาปรากฏให้เห็น เป็นการอุ่นเครื่องรอการโยกย้ายปลายปีในเดือนกันยายนปีนี้

ก่อนที่โผจะคลอด ก็ต้องมีทั้งข่าวลือ ข่าวลวง และเรื่องจริง โดยเฉพาะกระแสสะพัดที่ว่า มีการจัดทำ 2 โผ

โผหนึ่ง เป็นของกองทัพ ของ ผบ.เหล่าทัพ ที่บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. รวบรวมจาก ผบ.สามเหล่าทัพ ส่งให้ รมว.กลาโหม

กับ อีกโผหนึ่ง เป็นโผที่ พล.อ.อ.สุกำพล ร่วมกับ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกลาโหม ทำขึ้นเอง โดยใช้โผที่กองทัพส่งมา แต่มีการปรับแก้ในบางตำแหน่งให้เหมาะสม

และให้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร



รํ่า ลือกันแรงว่า จะขยับเยอะ เพราะในเบื้องแรกบิ๊กต่าย พล.อ.ภุชงค์ รัตนวรรณ จเรทหารทั่วไป แกนนำ ตท.10 จะลาออกก่อนเกษียณ เพื่อไปเป็นประธานสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สปท.) ของสำนักปลัดกลาโหม ทำให้เก้าอี้จเรทหารทั่วไปก็จะว่างลง

ถ้าจะให้จบง่ายๆ ก็แค่ให้บิ๊กอ๊อด พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ ประธานที่ปรึกษา รมว.กลาโหม ย้ายมาเป็นจเรทหารทั่วไป เพื่อปิดอัตรานี้เลย ก็ได้แต่กลับมีแนวคิดที่จะดัน พล.อ.โปฎก บุนนาค จาก ผช.ผบ.ทบ. ไปครองอัตราจอมพล นั่งจเรทหารทั่วไปนี้ เพื่อเปิดช่องให้ห้าเสือ ทบ. ว่างลง

บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. สบช่องเพราะอยากจะเปลี่ยนเสนาธิการทหารบก คู่ใจ เลยไม่อยากรอถึงการโยกย้ายปลายปี เพราะ เสธ.บี้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ไม่เข้าขาไม่เข้าตา และไม่ค่อยถูกโฉลกกับ ตท.12 โดยเฉพาะบิ๊กหนุ่ย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. เพื่อนรักบิ๊กตู่ จากเรื่องการดูแล กอ.รมน. ที่ พล.อ.ศิริชัย ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. เดินคนละแนวกับเมื่อครั้งที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ คุมอยู่ จนมีความพยายามที่จะเสนอเพิ่มให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ เข้ามาเป็น บอร์ด กอ.รมน. แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. ยังไม่อนุมัติ

พล.อ.ประยุทธ์ นั้น อยากได้บิ๊กนมชง พล.ท.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รอง เสธ.ทบ. หรือบิ๊กยอด พล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ผบ.นปอ. เพื่อนรัก ตท.12 ขึ้นเป็น เสธ.ทบ.

แต่ ทว่า มีพลังพิเศษบางอย่างและเพื่อความไม่ประมาท จึงต้องดันบิ๊กโด่ง พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาค 1 ขึ้นพลเอก ห้าเสือ ทบ. เลย เพื่อจ่อเป็น ผบ.ทบ. คนต่อไป เพื่อไว้เป็น "ผบ.ทบ.อะไหล่" หาก พล.อ.ประยุทธ์ เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง

มีการจับตามองว่า คดี 91 ศพคนเสื้อแดง ได้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลแล้ว เมื่อ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา จะมีการไต่สวนกันในเดือนมิถุนายนเรื่อยไป จนคาดกันว่าอาจจะมีการตัดสินกันในช่วงการโยกย้ายทหารปลายปี เดือนสิงหาคม-กันยายน พอดี และเล็งไปที่เก้าอี้ ผบ.ทบ. ของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเมื่อครั้งปราบเสื้อแดง ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ทบ. แต่ทว่ามีบทบาทยิ่งกว่าบิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เสียอีก

ประมาณ ว่า จะมีการสร้างแรงกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงสปิริต แอ่นอกรับผิดชอบแทนทหารลูกน้อง ต่อข้อหาทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ มีการใช้กระสุนจริงปราบปรามคนเสื้อแดง โดยที่ในสำนวนมีบางศพที่ถูกทหารยิงจากด้านหลัง หรือมือเปล่า ไม่ได้มีอาวุธต่อสู้

หากเป็นไปเช่นนั้น ก็ต้องมีการย้าย พล.อ.ประยุทธ์ จาก ผบ.ทบ. ไปเป็นปลัดกลาโหม ซึ่งจะว่างลงเพราะ พล.อ.เสถียร เกษียณราชการพอดี เมื่อนั้น พล.ท.อุดมเดช ก็จะขึ้นเป็น ผบ.ทบ. แทน



แม้ ว่า พล.ท.อุดมเดช จะถือเป็นทายาทอำนาจของบูรพาพยัคฆ์และทหารเสือราชินี อยู่แล้วก็ตาม แต่หากสถานการณ์ปกติ พรรคเพื่อไทยไม่แตะต้อง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีเรื่องคดีเสื้อแดง หรือรอดพ้นคดีนี้ไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ จะนั่งเป็น ผบ.ทบ. ยาวจนเกษียณกันยายน 2557 เมื่อนั้น พล.ท.อุดมเดช จะได้เป็น ผบ.ทบ. แค่ปีเดียว เพราะเขาจะเกษียณ 2558

รู้กันดีว่า พล.ท.อุดมเดช เป็นที่ถูกชะตากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นทหารเสือราชินีระดับหัวแถว และมีท่าทีที่ดีต่อรัฐบาล และเป็นทหารอาชีพที่เป็นกลไกของรัฐบาล ที่คนใน ทบ. ยอมรับ จึงหนุนให้เป็น ผบ.ทบ.

จะว่าไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่มั่นใจนักว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะเอาอย่างไรกับคดีปราบคนเสื้อแดงแน่ และกลัวว่าจะไม่ทันการ หากมีการตัดสินคดีในช่วงปลายปี จึงดัน พล.ท.อุดมเดช ทายาท ขึ้นห้าเสือ ทบ. ไว้ก่อน เพราะถ้ารอปลายปีตามแผนเดิมจะขึ้น ผบ.ทบ. ไม่ได้

รวมทั้งการจะดันบิ๊กอู๊ด พล.ต.วลิต โรจนภักดี รองแม่ทัพภาค 1 ขึ้นพรวดเป็นแม่ทัพภาค 1 ไว้เลยแบบฟ้าแลบ เพราะเกรงถูกคนเสื้อแดงต่อต้าน เพราะ พล.ต.วลิต ก็เป็นนายทหารที่อยู่ในแบล๊กลิสต์ของคนเสื้อแดง ที่ตอนนั้นบิ๊กต๊อก พล.ต.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เพื่อน ตท.14 รองแม่ทัพ 1 ก็อาจได้ลุ้น หลังจากที่มีข่าวอดีตบิ๊ก รสช. ต่อสายตรงถึงดูไบกรุยทางให้

นี่ เป็นเหตุที่ พล.ต.ไพบูลย์ จะขอสู้ชิงเก้าอี้แม่ทัพภาค 1 ต่อ แม้จะไม่อาจข้ามไปเป็น พลโท ผบ.รร.นายร้อย จปร. ได้ เพราะ พล.ต.พอพล มณีรินทร์ นั้นแรงทั้งความชอบธรรมจากการเป็น รอง ผบ.รร.จปร.มา 4 ปีครึ่ง และเคยเป็น ผบ.กรม นร.นายร้อย จปร. และ ผบ.รร.เตรียมทหาร แถมยังเป็นน้องรักของบิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อีกด้วย แถมเป็น ตท.16 ที่มีอายุราชการถึงปี 2559 ก็อาจแทรกขึ้นมาเป็นแคนดิเดต ผบ.ทบ. คนต่อไปได้ โดยเฉพาะหากเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยนี้ต่อไป

แต่ที่สุดแล้ว พล.อ.ภุชงค์ ก็ถูกขอร้องยังไม่ให้ลาออก เพราะจะเกิดแรงกระเพื่อม เนื่องจากแผนของทาง พล.อ.อ.สุกำพล นั้น จะจัดกองทัพในการโยกย้ายปลายปีเอาแบบไม่ให้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งตัวติด ทั้งหมดจึงเป็นแค่ความฝันที่ต้องรอโยกย้ายเดือนกันยายน

แต่เพื่อความ ไม่ประมาท บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. จึงต้องให้ ผบ.3 เหล่าทัพ ลงลายมือชื่อหรือลายเซ็น ท้ายบัญชีรายชื่อโยกย้ายที่ส่งขึ้นไปทุกหน้า เพื่อป้องกันการสอดไส้หรือแก้ไข โดยที่ ผบ.เหล่าทัพ ไม่ยินยอม

อัน เป็นดัชนีหนึ่ง ที่ชี้วัดได้ว่ามีความหวาดระแวงระหว่าง ผบ.เหล่าทัพ กับ รมว.กลาโหม ว่าจะล้วงโผเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นรูปแบบเดียวกับที่ ผบ.เหล่าทัพ เคยทำในการโยกย้ายเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีบิ๊กอ๊อด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็น รมว.กลาโหม เพื่อป้องกันการแก้โผ เนื่องจากตอนนั้นเพิ่งเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยน รมว.กลาโหม ใหม่ๆ

แต่ครั้งนั้นแรงกว่า เพราะมีการปล่อยให้โผโยกย้ายที่ปรากฏลายเซ็น ผบ.เหล่าทัพ นั้นหลุดออกมาทั้งฉบับ

เพื่อตีกันไม่ให้ฝ่ายการเมืองแก้โผ อีกด้วย



แต่สีสันของโผนี้ น่าจะไปอยู่ที่ 3 พันเอก 3 เสธ.สามสี ที่จับตากันว่าใครจะเป็น นายพลใหม่ ติดยศพลตรี

ที่ ฮือฮาคือ เสธ.หมู ทหารสีแดงแป๊ด พ.อ.สุเมธ พรหมตรุษ ผอ.กองข่าว หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา บก.กองทัพไทย และ นายทหารทีม รปภ. ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ติดยศพลตรี แม้ว่าจะเป็น ตท.28 ที่รุ่นพี่ๆ ยังเป็นพันโท พันเอก กันอยู่ แต่เพราะเขาเป็น Fast Track กรณีพิเศษ เพราะดูแลตระกูลชินวัตรมาตลอด ตั้งแต่ยุค พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี จนมายุค นายสมัคร สุนทรเวช

มีข่าวว่างานนี้ "ปูขอมา" เพื่อให้พี่ชาย ที่เป็นเพื่อนและที่ปรึกษาส่วนตัวคนนี้ ได้เป็นนายพลเสียที โดยกระซิบทาง พล.อ.เสถียร ปลัดกลาโหม ซึ่งสนิทสนมซี้ปึ้กกับนายกรัฐมนตรีและเพื่อไทยอยู่แล้ว ให้มาเอาตำแหน่งที่สำนักงานปลัดกลาโหม

ความจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องขอก็ได้ เพราะ พล.อ.เสถียร นั้น สนิทสนมใกล้ชิดกับ พ.อ.สุเมธ อยู่แล้วตั้งแต่อยู่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยให้ พล.อ.เสถียร ได้เป็นปลัดกลาโหม จึงเหมือนเป็นการดูแลตอบแทนน้องรักไปด้วยในตัว หากแต่รุ่นเขายังเด็กอยู่เท่านั้น

แต่โผนี้ บรรดาทหารแตงโม และคนเสื้อแดงก็เช็กข่าวกันให้วุ่น เมื่อมีข่าวว่า เสธ.แดง แต่เป็น เสธ.สีเขียว ที่มีความเป็นทหารเต็มตัว พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รอง ผบ.พล.1 รอ. และอดีต ผบ.ร.11 รอ. ที่เคยร่วมทีมปราบเสื้อแดงนั้น ได้เป็นนายพล

แต่ ทว่า พล.อ.ประยุทธ์ รู้ดีว่ากระแสแรง จึงให้นั่งที่เดิมและเก็บตัวเงียบๆ ไปก่อน เพราะเขาถูกวางตัวให้เป็น ว่าที่ ผบ.พล.1 รอ. ในอนาคต แม้จะเป็น ตท.20 ที่ติดนายพลได้แล้วก็ตามที เพราะเขาสามารถไปเป็น พลตรี ในตำแหน่งอื่นก่อน เช่น ผบ.มทบ. หรือ ผบ.พล. แล้วค่อยย้ายระนาบกลับมาเป็น ผบ.พล.1 รอ. ทีหลังก็ได้

แต่เส้นทางของ พ.อ.อภิรัชต์ ก็ไม่ง่ายนัก หากยังเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงยังจ้องตาไม่กะพริบอยู่แบบนี้ แต่ก็ต้องอยู่ที่ความกล้าหาญและความแข็งของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ดาว์พงษ์ ที่จะต้องดูแล ปกป้อง พ.อ.อภิรัชต์ ซึ่งทำงานเพื่อกองทัพ ยอมเป็นหนังหน้าไฟมาตลอด จนกลายเป็นหนึ่งในนายทหารสายอำมาตย์ ที่คนเสื้อแดงหมายหัว

ส่วน เสธ.ไก่อู พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ทบ. ที่แม้เมื่อก่อน ตอนเป็นโฆษก ศอฉ. จะเป็นศัตรูหมายเลขต้นๆ ของคนเสื้อแดง และเป็นเซเล็บขวัญใจคนเสื้อเหลืองและสลิ่ม และกลายเป็นทหารสีเหลืองก็ตาม แต่มาตอนนี้ หลังจากที่เขาถูกมองว่า "เปลี่ยนไป" จากการให้ปากคำในคดีเสื้อแดง และผังล้มเจ้าที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายคนเสื้อแดง และโยนไปที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ แล้ว เขาก็กลับมาได้ใจคนเสื้อแดง

รวมทั้งการเป็นน้องรักของ เสธ.ไอซ์ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต นายทหารผู้กว้างขวางเพื่อนซี้ ตท.10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบิ๊กโอ๋ พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต หัวหน้าฝ่าย เสธ.ประจำ รมว.กลาโหม ก็ทำให้ถูกมองว่าจะได้เป็น พลตรี หรือยัง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ยอมแต่งตั้ง ทั้งๆ ที่ พ.อ.สรรเสริญ เสียสละตัวเองทำงานเพื่อกองทัพมาเต็มที่ ทั้งในฐานะโฆษก ศอฉ. โฆษก ทบ. และตำแหน่งปกติ ผอ.กองปฏิบัติการจิตวิทยา กรมกิจการพลเรือน ทบ.

แต่ ก็ไม่มีข่าวว่า พ.อ.สรรเสริญ จะได้เป็นนายพล ในโผโยกย้ายนี้ แม้ว่าการเป็น ตท.23 จะไม่เด็กเกินไปที่จะเป็น พลตรี ก็ตาม ที่ก็ทำให้ พ.อ.สรรเสริญ น้อยใจไม่น้อย แต่ก็ถือว่าเสียว่า กำลัง Lucky in love กับสาวสวยแห่งวงการจิวเวลลี่ หลังจากที่เป็นโสดมาไม่กี่ปี ก็เลยจะไม่โชคดีในเรื่องการงาน

แต่ก็กลายเป็น เสธ.สีชมพู เพราะแดงเรื่อๆ แถมมีความรัก จนใบหน้าเป็นสีชมพู



ใน ระยะนี้มีการตั้งข้อสังเกตและซุบซิบกันใน ทบ. แล้ว ว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จึงกลับมาเครียด และมีอารมณ์ฉุนเฉียวอีกครั้ง หลังจากที่ควบคุมอารมณ์และรักษาภาพพจน์มาได้ดีตลอด ทั้งๆ ที่ความสัมพันธ์ของเขากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นสุดแสนหวานชื่น

แต่ ข่าววงในระบุว่า เรื่องหนึ่งคือ การที่เขาไม่สามารถดันบิ๊กติ๊ก พล.ต.ปรีชา จันทร์โอชา รองแม่ทัพภาค 3 น้องชายแท้ๆ ขึ้นพลโท ในตำแหน่ง แม่ทัพน้อยที่ 3 ได้ เพราะยังไม่ได้อาวุโส แต่ต้องยอมให้ พล.ต.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รองแม่ทัพภาค 3 (ตท.14) ที่อาวุโสกว่า เพราะเป็นรองแม่ทัพภาค 3 ก่อน ขึ้นเป็นแม่ทัพน้อย 3 ไปก่อน

ที่แรงกว่านั้นคือ พล.ต.สุรเชษฐ์ นั้น อาจถึงขั้นฟ้องศาลปกครอง หาก พล.อ.ประยุทธ์ ตั้ง พล.ต.ปรีชา ข้ามหัวขึ้นเป็นแม่ทัพน้อย 3 เพราะ พล.ต.สุรเชษฐ์ นั้น ถือว่าเป็นขวัญใจของคนเสื้อแดงในพื้นที่ และมีสายสัมพันธ์กับนายทหารแตงโม ที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ อีกทั้ง พล.อ.อ.สุกำพล ก็ท้วงติงตำแหน่งนี้มาด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ เองก็กลัวว่า พล.ต.ปรีชา จะถูกโจมตีและอยู่ในกองทัพภาค 3 จะมีปัญหา เพราะเกิดความแตกแยกแบ่งขั้วแบ่งฝ่าย แบ่งรุ่นกันแล้ว จนเคยคิดจะย้ายให้น้องชายมาเป็นพลโท อยู่ บก.ทบ. ใกล้ๆ กัน ในตำแหน่ง ผช.เสธ.ทบ.ฝ่ายกำลังพล เลยทีเดียว แต่ก็ขยับไม่ออก



อีก เรื่องที่ทำให้บิ๊กตู่ อารมณ์ไม่สู้ดี ก็เรื่องคดีเสื้อแดง 16 ศพจาก 91 ศพ ที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลแล้ว ที่ทำให้ต้องมีการเตรียมทีมกฎหมายต่อสู้ในชั้นศาล ที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มไม่มั่นใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะเอายังไงกับกองทัพแน่ จากที่เคยส่งสัญญาณมาว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวแทรกแซงกัน แต่ก็อาจเป็นแค่เกม "กดดัน" และต่อรองให้กองทัพยอมรับแผนปรองดองและการนิรโทษกรรมด้วย

เพราะอีก เรื่องเครียดก็คือ การรุกทางการเมืองในการนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และการประกาศจะกลับประเทศภายในปีนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เอง

แม้ว่าในใจ ลึกๆ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับ หรือการเคลียร์เรื่องคดีต่างๆ ไม่น่าจะง่ายนักก็ตาม แต่เขาก็ไม่อาจหยั่งรู้กลเกมเบื้องหลังที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินอยู่ โดยเฉพาะการ "เคลียร์" กับบุคคลสำคัญๆ ในฝั่งอำมาตย์

แต่ทหารแตงโมใน ทบ. ก็เม้าธ์กันสนั่นว่า ไม่ว่าจะกลับหรือไม่ แต่กองทัพบกก็เตรียมพร้อมที่จะ "ต้อนรับ" พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว

ยิ่ง เมื่อมีคำสั่งให้มีการฝึกหน่วยทหารขนาดเล็กอย่างหนัก โดยเฉพาะการใช้อาวุธ ที่ถูกมองว่าไม่น่าจะมีเป้าหมายที่สถานการณ์ชายแดน แต่น่าจะเป็นหน่วยพร้อมรบเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย คล้ายๆ หน่วย รส. แถมหน่วยรบพิเศษที่มี พล.ท.ศุภรัตน์ พัฒนาวิสุทธิ์ ผบ.นสศ. เพื่อน ตท.12 ของ ผบ.ทบ. คุมอยู่ ก็ถูกจับตามอง เช่นเมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยขอให้ พล.อ.อนุพงษ์ เพื่อน ตท.10 ผบ.ทบ. ในเวลานั้น ช่วยรับรองความปลอดภัยให้ก่อนกลับประเทศมาแล้ว

แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นรู้ดีว่า ในปีนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะกลับประเทศ เพราะแม้ดูว่ารัฐบาลกับกองทัพ นายกรัฐมนตรี น้องสาวจะหวานชื่นกับ พล.อ.ประยุทธ์ และป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่ก็เป็นแค่การแสดงละคร อีกทั้ง อาจมีมือที่สาม มือที่สี่ ที่ต้องการฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์

เพราะ พล.อ.อ.สุกำพล เอง ก็ยังพูดว่า "ถ้ากลับมาแล้วตาย จะกลับมาทำไม" เพราะหวั่นว่าจะมีการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ หลังจากที่มีรายงานว่าฝ่ายตรงข้าม พูดกันสนุกปากว่า "มาก็ตายคาสนามบิน" หรือ "จะให้เหยียบแผ่นดินไทย อย่างมีลมหายใจ ไม่เกิน 24 ช.ม."

แต่ก็ ยิ่งท้าทาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เขาและทีมงานก็ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะกลับมาในปีหน้าอีก 2 ปีข้างหน้าก็ตาม โดยมีชีวิตของเขาเองเป็นเดิมพัน ถึงขั้นที่ว่า ถ้าจะกลับไทย เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวจะไม่ลงจอดที่สุวรรณภูมิ เพราะรู้ว่าฝ่ายตรงข้าม และมือที่สาม มีแผนต้อนรับเอาไว้

เป้าหมายเขาจึงจะไปลงจอดที่สนามบิน เชียงใหม่ บ้านเกิด เพราะเป็นพื้นที่เสื้อแดง ที่น่าจะปลอดภัยมากกว่าสุวรรณภูมิ และมีคนเสื้อแดงที่จะวางกำลังพร้อมปกป้อง และถือเป็นการกลับบ้านอย่างแท้จริง เพื่อที่จะได้กราบแผ่นดินบ้านเกิด แก้เคล็ด กราบแผ่นซีเมนต์ที่สุวรรณภูมิ ที่กลับประเทศเมื่อปี 2551 แต่ก็ต้องลี้ภัยอีก

ความเครียดของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงกลายเป็นดัชนีบ่งบอกความร้อนแรงของการเมืองและอุณหภูมิที่สูงขึ้นในกองทัพได้เป็นอย่างดี

ท่ามกลางความเชื่อว่า มีบางคนมีความคิดที่อยากจะปฏิวัติอยู่ในสมอง ต่อให้เสี่ยงต่อการนองเลือดหรือเป็นกบฏก็ตาม

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1332587274&grpid=01&catid=&subcatid=

 

จากคุณ : น้ำมิตร
เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 20:22:33 A:58.8.1.201 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com