จากไทยรัฐวันนี้  'ปู'ถกนักธุรกิจแดนกิมจิ ตบเท้าลงทุนไทยหมื่นกว่าล้าน

"ปู"ถือโอกาสเยือนแดนกิมจิ แจงแผนน้ำท่วมนักธุรกิจย้ำความเชื่อมั่น ด้านรมว.อุตสาหกรรมเผยมีบริษัทตอบรับลงทุนในไทยแล้ว 5 แห่งมูลค่าลงทุน 1.2 หมื่นล้าน...ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการของน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ปี 2555 ระหว่างวันที่ 24-27 มี.ค.2555

นอกจากนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์​ จะต้องชี้แจงแผนบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลไทยต่อนักธุรกิจเกาหลีใต้ ด้านม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ จะจัดงานโรดโชว์ เพื่อนำเสนอข้อมูลการลงทุนและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเกาหลีใต้ หลังจากที่ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ เมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะกล่าวปาฐกถาพิเศษ เพื่อยืนยันกับนักธุรกิจเกาหลีใต้ จำนวน 520 คน ทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ และกลาง ถึงศักยภาพและการสร้างอนาคตของประเทศไทย ขณะเดียวกันจะยืนยันถึงการเติบโตของเศรษฐกิจไทยว่าสามารถผ่านวิกฤติต่างๆ มาได้ โดยมีการฟื้นตัวแบบก้าวกระโดดหลังผ่านวิกฤติน้ำท่วมด้วยการใช้งบประมาณ 350,000 ล้านบาท และการเร่งฟื้นฟูจากทั้งภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ และภาคครัวเรือน รวมทั้งจะชี้แจงถึงแผนบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ซึ่งมั่นใจจะสร้างความเชื่อมั่นได้ 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะหารือกับนักธุรกิจเกาหลีใต้ที่ตอบรับจะเข้าไปลงทุนในไทย คือ บริษัท DASS TECH ดำเนินธุรกิจ SOLAR POWER PLANT บริษัท DAERIM และ บริษัท HYUNDAI HEAVY INDUSTRY ร่วมกันดำเนินการโรงไฟฟ้าจากขยะ บริษัท MOCA MOLD ดำเนินธุรกิจแม่พิมพ์ และบริษัท SAMWOO รวมมูลค่าการลงทุน ประมาณ 12,000 ล้านบาท ทั้งนี้ มีเป้าหมายต้องการให้นักลงทุนเกาหลีใต้ลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม เช่น โรงผลิตไฟฟ้าจากขยะ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับแม่พิมพ์ เพราะเกาหลีใต้มีความเชี่ยวชาญ สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับไทยได้

นายพิชิต เดชนีรนาท ผู้อำนวยเศรษฐกิจการลงทุน กรุงโซล เกาหลีใต้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยว่า การโรดโชว์ครั้งนี้ เพื่อให้นักลงทุนเกาหลีใต้รู้จักและเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น ในฐานะแหล่งอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ไม่ใช่ประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวอย่างเดียว และเมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมีผลในปี 2558 เกาหลีใต้สามารถขยายโอกาสการค้าการลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งบีโอไอต้องทำการตลาดเชิญชวนนักลงทุนให้มาก เพราะเกาหลีใต้มีศักยภาพ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย

ส่วนผลกระทบจากน้ำท่วมที่ผ่านมา บริษัทเกาหลีใต้ที่ได้รับผลกระทบมีไม่มาก เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งไม่ถูกน้ำท่วม ส่วนเรื่องการขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวัน ในเดือนเม.ย.นี้ มองว่าเป็นผลกระทบทางจิตวิทยาเท่านั้น หากเทียบกับการที่บีโอไอ ตั้งสำนักงานสาขาที่เกาหลีใต้ เพื่ออำนวยความสะดวกนักลงทุนช่วยลดต้นทุนได้มาก