การปรองดองคือความต้องการของคนส่วนใหญ่ ไม่มีใครอยากให้
สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงดำรงอยู่ต่อไป แน่นอนว่าสังคมย่อม
มีความแตกต่างทางความคิด มีกลุ่ม มีขั้ว มีจุดยืนที่ต่างกัน
แต่ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ความแตกต่างทางการเมืองนั้น ควรต่อสู้กันภายใต้กรอบกติกา
ประชาธิปไตย ผ่านการเลือกตั้ง อันเป็นระบบที่ประชาชนมีส่วนร่วม
หรือรณรงค์ต่อสู้กันด้วยข้อมูล ความคิด อย่างสันติวิธี
เลิกเสียทีอิงอำนาจนอกระบบ ใช้วิถีปฏิวัติรัฐประหาร
ขนาดพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. ผู้ปฏิวัติ
19 กันยายน 2549 ยังโดดเข้ามาร่วมปรองดองอย่างสุดตัว
จะเพื่อลบล้างในสิ่งที่ผิดพลาด หรือจะด้วยอะไรก็ตามที
แต่บิ๊กบังเล่นบทนี้ ชาวบ้านพากันชื่นชม!
พร้อมกัน ชาวบ้านเขาพากันสวดส่งพรรคการเมืองที่เมื่อ
ไม่เห็นประโยชน์อะไรทางการเมืองของตน ก็เล่นบทตีรวน
ตลอดเวลา
หัวหน้าคณะปฏิวัติเขายังกลับตัวกลับใจคิดใหม่
แต่พรรคการเมืองบางพรรคคิดยิ่งกว่าคณะปฏิวัติเสียอีก
ความที่ระยะนี้มีชื่ออดีตนายทหารหลายรายเป็นตัวละคร
ในสถานการณ์ปรองดอง
มีเสธ.หนั่น ออกมาจี้พล.อ.สนธิให้เปิดเผยว่า
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่เกี่ยวกับการปฏิวัติ
มีชื่อ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์
โผล่ออกมาอีก!
เลยมีเสียงจากนายทหารหลายคนสะท้อนความเห็นว่า
ประเทศไทยเคยมีแบบอย่างการปรองดองและสำเร็จมาแล้วอย่างดี
นั่นคือ นโยบาย 66/2523 ที่พล.อ.เปรมเป็นผู้เซ็นคำสั่งเอง
โดยผ่านการกลั่นกรองนำเสนอจากนายทหารมันสมองสายพิราบ
เช่น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
ความขัดแย้งขณะนั้นถึงขั้นเป็นสงคราม ระหว่างรัฐบาลรบกับ
กองกำลังของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
แถมในช่วงปี 2519 ยังไปไล่ต้อนปัญญาชนให้เข้าป่าไปร่วมอีกนับหมื่น
สงครามรุนแรงลุกลามไปทั่วประเทศ
จนกระทั่งรัฐบาลต้องผลักดันแนวทางการเมืองนำการทหาร
ใช้คำสั่ง 66/2523 เปิดช่องให้คนที่จับปืนในป่า กลับคืนเมืองมา
ใช้ชีวิตปกติ ร่วมต่อสู้ในแนวทางรัฐสภาอย่างสันติวิธี
โดยไม่มีความผิดทางอาญาใดๆ ทั้งสิ้น
นั่นก่อการร้ายจริงๆ จับปืนกันเลย ยังนิรโทษกันทั้งหมดแล้วก็จบลงได้ในที่สุด!
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dOekkyTURNMU5RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1pMHdNeTB5Tmc9PQ==
หากจะนิรโทษกรรมในพ.ศ.นี้ย่อมต่างกับครั้งกระโน้น เพราะคนที่ได้
รับการนิรโทษกรรม ไม่ใช่แค่ผู้หลงผิด ที่เป็นเพียงนักศึกษา และ
ประชาชนแบบ ชาวบ้าน
แต่หากจะนิรโทษกรรมครั้งนี้ คนที่ได้รับนิรโทษกรรมจะเป็นถึงอดีต
นายกรัฐมนตรี ที่ปชช.หลายล้านคน กำลังเพรียกหาให้เขากลับมา
เป็นผู้นำประเทศ รวมทั้งนักการเมือง และแกนนำอีกหลายคน
แล้วฝ่ายตรงกันข้ามจะปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร น่าเห็นใจ
บอกกันว่า "นิรโทษกรรม" เมื่อใด แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ
ก็ปล่อยไปแบบนี้แหละดี ไม่ต้องเคลียร์เรื่องนี้ ให้รัฐบาลบริหาร
ประเทศไป ฝ่ายค้านก็ค้าน ขัดคอมันไปทุกเรื่อง เดี๋ยว ก็มีคน
ทนไม่ได้ ออกมาช่วยจัดการเอง