ตราบใดที่ยังมีพรรคนี้อยู่ ประเทศอย่าหวังความปรองดองเลยครับ
|
 |
อุตส่าห์แอบขนคนมาขับไล่รัฐบาลจากการเลือกตั้ง นี่ก็เริ่มแตกแยกกันแล้ว
บอยคอตการเลือกตั้ง ก็ทำให้การเมืองไทยสู่ทางตัน
สนับสนุนการทำรัฐประหาร ก็ทำให้สังคมไทยร้าวหนักเข้าไปอีก
เห็นด้วยกับการใช้ตุลาการภิวัฒน์ จนทำให้ความแตกแยกยิ่งยากประสาน
จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร แม้ไม่สง่างาม แต่เพื่ออำนาจก็ยังทำได้
สุดท้ายเพียงแค่ต้องการรักษาเก้าอี้ ยอมแม้แต่ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุม
แล้วอย่างนี้จะให้พรรคที่ได้ประโยชน์จากความแตกแยกของสังคม ยินยอมให้ประเทศเกิดความปรองดองได้อย่างไรกัน
ดังนั้นเราจึงได้ยินว่า จะไม่ปรองดองกับคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ สิ่งที่อยากปรองดองจึงเป็นการปรองดองเฉพาะพวกเดียวกัน
ดังนั้นเราจึงได้เห็น การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเองหลายคณะ ที่บอกกับสังคมว่า เพื่อความปรองดอง แต่ก็ไม่เคยเห็นด้วยสักเรื่องที่คณะกรรมการเหล่านั้นเสนอมา เว้นแต่การแก้รัฐธรรมนูญ 2 ข้อที่เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคตัวเองเท่านั้น
ดังนั้นเราจึงได้เห็นความพยายามต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล โดยพยายามโยงถึงเรื่องสถาบันกับการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อคนๆเดียว ทั้งๆที่รัฐบาลก็บอกแล้วบอกอีกว่าจะไม่แตะต้อง
ดังนั้นเราจึงได้เห็นความพยายามที่จะต่อต้านการเยียวยาผู้ถูกผลกระทบทางการเมืองจากเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งๆที่เป็นการเยียวยาทุกๆสี โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง อย่างนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า กลัวการปรองดองหรือไม่
ดังนั้นเราจึงได้เห็นความพยายามคัดค้านผลวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าฯ ที่ครั้งหนึ่งให้ความเชื่อถืออย่างมาก อย่างนี้แล้วจะให้คิดว่าอยากปรองดองอย่างนั้นหรือ
ดังนั้นเราจึงได้เห็นความพยายามดีสเครดิตคุณสนธิ อดีตประธาน คมช.ที่เคยเป็นวีรบุรุษของพรรคนี้ แต่เมื่อแนวทางปรองดองกำลังจะเอื้อประโยชน์ให้กับคุณทักษิณ พรรคนี้ไม่ว่าหนุ่มแก่หญิงชายจึงพากันออกมาต่อต้าน เพื่อไม่ให้ถึงจุดที่จะปรองดองกันได้
ดังนั้นเราจึงได้เห็น จม. ถึง 3 ฉบับที่กล่าวอ้างถึงผลของมันจะทำให้สังคมแตกแยกมากไปกว่านี่ โดยไม่เคยเห็นหรือได้ยินพรรคๆนี้ เสนอแนวทางปรองดองแม้แต่ครั้งเดียว
สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นได้อย่างเด่นชัดว่า พรรคนี้ไม่เคยคิดจะให้สังคมไทยเกิดความปรองดองแม้แต่วินาทีเดียว เพราะความปรองดองของคนในชาติ ยากยิ่งจะทำให้พรรคนี้มีโอกาสที่จะได้จัดตั้งรัฐบาล เพราะพรรคนี้เคยชิน เคยหวัง และสมหวังกับการได้เป็นรัฐบาล ก็จากความแตกแยกนี่แหละครับ
ดังนั้นผมจึงคิดว่า ถ้าต้องการปรองดองจริงๆล่ะก้อ อย่าไปสนใจกับพรรคพันธุ์นี้เลยครับ แล้วลองทำตามผลวิจัยของสถาบันพระปกเกล้ากับแนวทางปรองดองของคุณสนธิดู อาจจะปรองดองกันก็ได้จริงมะ
เพราะเราเคยใช้ข้ออ้างในการล้มคนๆเดียว ก็ไม่ทำให้สังคมปรองดอง
เพราะเราเคยใช้การยุบพรรคถึง 2 ครั้ง ก็ไม่ทำให้สังคมสมานฉันท์
เพราะเราเคยตัดสิทธิ์นักการเมืองฝ่ายคุณทักษิณสองครั้ง ร่วมสองร้อยกว่าคน ก็ไม่ทำให้เกิดความปรองดอง
เพราะเราเคยตัดสินคดีให้คุณทักษิณเป็นนักโทษชาย ก็ไม่ทำให้เกิดความสามัคคี
เพราะเราเคยยึดทรัพย์คุณทักษิณ ก็ไม่ทำให้เกิดความแตกแยกหายไป
เพระเราเคยพยายามไล่ล่าตามจับคุณทักษิณมาดำเนินคดี ก็ไม่ทำให้ความแตกแยกหายไป
และเพราะหลายสิ่งที่ทำมานี้ นอกจากไม่ทำให้สังคมดีขึ้น แต่กลับทำให้ความสามัคคีของคนในชาติเลวลง ส่งผลกระทบกับชาติบ้านเมือง ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจประชาชน ส่งผลกระทบกับความก้าวหน้าของประเทศชาติ และยังส่งผลกระทบกับหน้าตาของประเทศ จนกลายเป็นเผาบ้านเพื่อจับหนูตัวเดียว อย่างนี้แล้วเรายังทุกข์ไม่พออีกหรือครับ
และถ้าเราจะนิรโทษกรรมคุณทักษิณเพียงคนเดียว แล้วประเทศชาติเกิดความปรองดอง จะไม่ลองกันบ้างหรือครับ บ้านเมืองที่สงบสุข จะห่วงอะไรกับหนูตัวเดียวจริงมะ อย่าให้พรรคๆเดียวสร้างวาทกรรม เพื่อให้สังคมหมดทางออกเลยครับ เชื่อผมเถิด เราไม่มีอะไรต้องสูญเสียมากไปกว่าที่ผ่านมาแล้วครับ
จากคุณ |
:
ทวดเอง
|
เขียนเมื่อ |
:
27 มี.ค. 55 10:06:11
A:27.130.49.6 X:
|
|
|
|