สงสัยกระบวนการยุติธรรมเมืองไทย{แตกประเด็นจาก P11895300}

      ผู้พิพากษา ตุลาการในยุคปัจจุบัน หลังการยึดอำนาจ ต่างจากผู้พิพากษาในยุคก่อนมากมาย

มีอีโก้สูงอยู่แล้ว กลายเป็นอคติ พวกเขาบางส่วนนึกว่า ตัวเองเป็นคนที่ใครแตะต้องไม่ได้ เพราะ

มีคนที่อยู่เหนือพวกเขาเพียงหนึ่งคน ที่ต่ำกว่านั้นไม่มีใครให้คุณ-โทษพวกเขาได้ รธน.50 เป็นเหตุ

หนึ่งทำให้พวกเขาหลงระเริง ในลาภยศและเงินตรา หลายคนฟุ้งเฟ้อเพราะ มีเงินเดือนและค่า

ตอบแทนสูง เดือนละหลายแสน อยู่จนอายุ 70 เป็นอาชีพที่มั่นคงมาก ไม่มีใครแตะต้องได้

     หลายคนลือกข้างชัดเจน  เวลาที่เขาเชิญไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษ ในมหาลัยต่างๆ

โดยเฉพาะในต่างจังหวัด คนพวกนี้จะก่นด่าคนเสื้อแดง ด่าทักษิณ สารพัด เวลาออกข้อสอบ

ก็จะถามเรื่องคนเสื้อแดง ให้นักศึกษาด่าทอ ต้องพูดถึงคนเสื้อแดงในทางเลวทราม จึงจะได้คะแนนดี

นี่เป็นเรื่องจริง เกิดที่ ม.นเรศวรฯไปฟังดูได้  (คนสอนมีตำแหน่งใหญ่ ในพิษณุโลก ยังมีอีกหลายที่)

เมื่อผู้พิพากษาเลือกข้างชัดเจนแล้ว  ฝ่ายตรงข้ามจะเหลืออะไร จะหวังความยุติธรรมได้หรือ  

      กฏหมายที่มีอยู่ กำหนดให้ผู้พิพากษาต้องชั่งนำหนักพยาน จนปราศจากความสงสัยว่า

จำเลยเป็นผู้กระทำผิดจริงแล้ว จึงจะพิพากษาลงโทษได้ และก่อนจะพิพากษายังต้องไช้ดุลพินิจ

ให้เป็นคุณแก่จำเลย เช่นการลดโทษ รอการกำหนดโทษ หรือรอการลงโทษให้จำเลย หากไม่เคย

ทำผิดมาก่อน และโทษไม่เกิน 3 ปี ศาลควรรอการลงโทษให้ เพราะตามหลักราชทัณฑ์สากลนั้น

การลงโทษก็เพื่อให้ผู้กระทำสำนึกผิด  และกลับเป็นพลเมืองดีของสังคม ไม่ใช่ลงโทษ

เพื่อแก้แค้นแทนใคร หรือตัดคนนั้นออกไปจากสังคม จึงจะเป็นกระบวนยุติธรรม

       แต่การใช้ดุลพินิจ ของศาลในปัจจุบัน มิได้เป็นไปตามหลักฏหมาย และแบบธรรมเนียม

ของศาลที่เคยปฏิบัติต่อเนื่องกันมา เช่นการปล่อยตัวชั่วคราว ตามหลักคดีที่โทษไม่ถึง

ประหาร  หากหลักทรัพย์เพียงพอ และไม่มีหลักฐานว่าจำเลยจะหลบหนี หรือไปยุ่งเกี่ยว ทำลาย

พยานหลักฐาน ศาลต้องให้ประกัน แต่ขฌะนี้ก็เห็นชัดๆกันอยู่แล้ว ว่าหลักกฏหมายและความ

ยุติธรรมมีให้เฉพาะ กลุ่มคนฝ่ายที่เขาเลือกข้างเท่านั้น ที่โฆษกศาลออกมาแถลง ว่าศาล

ไม่เลือกข้างนั้น  เหมือนผายลมทางปาก ปัจจุบันจึงมีแต่ กระบวนการยุติความเป็นธรรม

สำหรับคนอีกฝ่ายหนึ่ง

       ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมถึงสองมาตรฐาน เหตุมันเกิดหลังรัฐประหาร ที่มีส่วนหัวของ

กระบวนการยุติธรรมไปร่วมวางแผน ร่วมยกร่าง รธน.ฉบับชั่วคราว และฉบับปี 50 แก้ไขให้

กลุ่มพวกดัวเองอยู่จนอายุ 70 ปี กฏหมายพิจารณาไม่ครบองค์ประชุม เป็นร้อยฉบับ

ก็เอามาใช้ได้ ใครจะฟ้องหรือ ก็พวกเขาคอยตัตสินเอง แน่นอนมันต้องถูกเสมอ

แต่ก่อนผู้พิพากษาเกษียณแล้ว เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลต้น ไม่อาจดำรงตำแหน่งสูงขื้นได้

แต่ปัจจุบันเลื่อนตำแหน่งได้เหมือนปกติ  มีอำนาจออกกฏหมายเงินเดือนเงินตำแหน่งของตนเองได้

ไม่ต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบของใคร บางคนจึงอาจลืมตัว  เหลิงอำนาจ  เห็นประชาชนอยู่ใต้เท้า
จะทำอะไร อย่างไร ใครก็พูดวิจารณ์ไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ มันจึงเข้าหลักว่า อำนาจทำให้คนลืมตัว

      จะแก้ไขเรื่องนี้  ต้องยกเลิก รธน.50 ให้ฝ่ายตุลาการ เป็นฝ่ายหนึ่งในรัฐสภา ที่ยึดโยง

กับประชาชน และประชาชนตรวจสอบ แต่งตั้งและถอดถอนได้ ให้ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ

และฝ่ายตุลาการมีอำนาจ ถ่วงดุลกันและกัน ให้อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่าง

แท้จริง  ให้ฝ่ายตุลาการต้องปฏิญาณตนต่อรัฐสภา หรือต่อรัฐธรรมนูญ เลิกพิพากษาในพระ

ปรมาภิไธยเสีย เพื่อไม่ให้ลืมตัวว่าตัวเองเป็นพระมหากษัตริย์ ทีใครแตะต้องไม่ได้ แต้ให้ใช้ว่า

ภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ...แทน  ต้องนำระบบผู้พิพากษาสมทบ ที่ประชาชนเลือก

แต่ละปีมาร่วมเป็นองค์คณะพิพากษาด้วย เหมือนศาลเยาวชนและครอบครัว

       ผู้พิพากษาตุลาการ ต้องเกษียณอายุ 60 ปีเหมือนข้าราชการอื่นๆ ตำแหน่งสำคัญ ต้อง

แสดงบัญชีทรัพย์สินให้ประชาชนทราบ เหมือนฝ่ายการเมืองด้วย  ยังมีอีก..ยาว..

      อยากให้มีอีกข้อหนึ่งใน รธน.ฉบับประชาชน  คือให้ประชาชนทุกคนมีอำนาจ ควบคุม

เจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่าย เป็นการใช้อำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง  คือในใบชำระภาษี ให้ผู้เสียภาษี

แสดงความจำนง ทีจะไม่ให้นำเงินภาษีของเขา ไปให้เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานของรัฐใดๆ

ที่เห็นว่าในปีนั้นๆผลงานแย่ เหมือนการเช็คเรตติ้ง  หน่วยงานใด หรือเจ้าหน้าที่รัฐรวมฝ่ายการเมือง

คนใด มีประชาชนงดไม่ให้นำเงินภาษีของเขาไปใช้มากที่สุด หน่วยงานนั้นจะของบเพิ่มไม่ได้

เจ้าหน้าที่ผู้นั้นอาจไม่ได้ขึ้นเงินเดือน นี่เท่ากับให้ประชาชนเป็นใหญ่แท้จริง ไม่ว่าใครหรือหน่วย

งานใด ที่ใช้เงินจากภาษีของประชาชน คงต้องทำงานให้เข้าตาประชาชนจริงๆเสียที

      หน่วยงานแรกที่ผมจะไม่ให้นำภาษีของผมไปใช้คือ กองทัพบก และ ผบ.ทบ จนกว่าจะเคลียร์

การใช้งบ และการสลายการชุมนุมได้ ส่วนพรรคการเมืองที่ให้งดนำเงินภาษีของผมไปใช้

คือ พรรค ปชป. เพราะสั่งสลายการชุมนุมจนประชาขนเสียชีวิตมากมาย ปัจจุบันยังวอล์คเอ๊าบ่อย

เคยงดไม่ลงเลือกตั้ง เล่นเกมส์สารพัด ไม่ได้เสนอสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเลย

เปลืองเงินภาษี ไม่มีพรรคนี้จะประหยัดงบประมาณได้อีกมาก

      แต่..ผมคงฝันไปนะ..



 

จากคุณ	: tin99
เขียนเมื่อ	: 29 มี.ค. 55 11:23:36 A:27.130.214.85 X: