 |
+++++ คุณกู๋เอง พิจารณาให้ดีอีกทีครับ+++++
|
 |
เรื่องทั้งหมดในกระทู้เป็นเรื่องการส่งข้อความหลังไมค์กัน แต่จากกระทู้ P11896558 ของคุณกู๋เอง ดูแล้วคุณกู๋เอง อยากให้คุยกันผ่านกระทู้ในบอร์ด และเนื่องจากข้อความที่ส่งไปมานั้น เป็นการถกเกี่ยวกับเรื่องกิจการบ้านเมือง ไม่น่าจะเสียหายที่จะนำมาให้ดูในกระทู้ ก็ขอท้าวความดังนี้ โดยขอแบ่งเป็นสองส่วน
ส่วนแรก
คุณเองส่งข้อความมาหาผมเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2555 เวลา 12:05 มีความยาวพอควร แต่ตอนท้ายลงไว้ว่าความว่า “..................แล้วที่อ้าง 8 แสนล้านนั้นพวกเสื้อแดงอ้างครับ ไม่ใช่ผม..” นั้นคือคุณกู๋เองปฏิเสธในตอนท้ายขอข้อความว่า คุณไม่ได้ยึดถือไม่ได้อ้างตัวเลข 8 แสนล้านบาท
เนื่องจากข้อความมีความอื่นปะปนด้วยและจากการที่ส่งข้อความคุยกันก่อนหน้านั้น ผมไม่แน่ใจว่าคุณคิดยึดมั่นในเรื่องเลข 8 แสนล้านบาทแค่ไหนยังไง ผมอ่านข้อความของคุณแล้ว ผมก็ส่งข้อความทวนสอบกลับไปหาคุณว่า ผมเข้าใจเช่นนั้นถูกต้องหรือไม่ โดยผมส่งข้อความทวนสอบความเข้าใจถึงคุณในวันที่ 29 มีนาคม 2555 เวลา 09:10 ความว่า "ตกลงคุณยอมรับนะครับว่า คดีปรส นี้นะ ไม่ได้มีการโกงกันเป็น 8 แสนล้านบาทอย่างที่พยายามอวดอ้างกัน ถ้าคุณตกลงตามนี้ก็ถือว่าโอเคครับ”
หากการส่งข้อความทวนสอบนี้ทำให้คุณหงุดหงิดก็ต้องขอโทษ แต่คุณต้องเข้าใจว่าการถกกันในบอร์ดที่มีสมาชิกจำนวนมากเช่นนี้ การทวนสอบว่าใครเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งถูกต้องหรือไม่เป็นสิ่งจำเป็น
แต่ผมจะเข้าใจเรื่องนี้อย่างไร ผมก็ไม่เอามาโพสต์เป็นกระทู้กล่าวหาคุณต่อหน้าสมาชิกคนอื่นว่าคุณคิดแบบนั้นแบบนี้ คุณเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ นะ ผมใช้วิธีสื่อสารกับคุณโดยตรง เพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน
กรณีเช่นนี้ ต้องถามกลับไปว่าตัวคุณเองว่า คุณเองเคยได้ตั้งกระทู้กล่าวหาผมผิดๆต่อหน้าสมาชิกอื่นหรือไม่ คุณเคยกล่าวหาว่าผมเป็นทนาย ทั้งๆที่ผมไม่ได้เป็นทนายหรือไม่
ส่วนที่สอง เรื่องที่คุณกู๋เองสอบถามว่า “บิดเบือนอะไร”
ข้อความที่ 1
27 มีนาคม 2555 18:13 ผมส่งข้อความแจ้งคุณว่า “...อย่าบิดเบือนความจริงข้อนี้เลย” และ “สินทรัพย์ในยุคฟองสบู่นั้น เมื่อนำมาขายจริงๆ แม้แต่ในยุคทักษิณ ก็ไม่สามารถะขายได้ในราคาเดิม หรือราคาที่ดี แต่ล้วนขาดทุนราคากันบักโกรกทั้งนั้น” เพราะผมเห็นแย้งคุณ ที่คุณโพสต์ในกระทู้ P11888279 เมื่อ 27 มี.ค. 55 16:49:16 ว่า “.....สินทรัพย์บางชนิดโดยเฉพาะที่ดินราคามันไม่ตกมากมายนักหรอก...”
แต่ในความเป็นจริงราคามันตกมากครับผม
ดังตัวอย่างที่ส่งไปให้ทางหลังไมค์คือ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ซื้อที่ดินในสมัยก่อนฟองสบู่แตกในปี 2538 จากเอราวัณทรัสต์ในราคา 2,140,357,500 บาท แต่มาประมูลขายที่ดินแปลงนี้ในเวลาที่เศรษฐกิจเริ่มฟืนตัวในปี 2545 ให้คุณหญิงในราคาเพียง 750 ล้านบาท ดังนั้นหากคุณให้ความเห็นว่าราคาที่ดินไม่ตก ทั้งๆที่ในความเป็นจริงมันตกไปมาก แม้แต่ในยุคที่กองทุนประมูลในสมัยทักษิณ ตกไปเกือบ 1,400 ล้านบาท ตกไปเหลือแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ของราคาที่ดินเดิม แล้วคุณจะว่าราคาที่ดินไม่ตกได้ยังไง
ข้อความที่ 2
คุณมีข้อความส่งมาหาผม 28 มีนาคม 2555 10:11 ว่า “…แล้วที่คุณว่า 8 แสนล้าน เหลือ เป็นร้อย เป็นพันนะ ผมให้ 1 หมื่นล้านบาทเลย มันแค่ 1.25 เปอร์เซนต์เอง ในขณะที่พวกเสื้อแดงยังคงใช้ตัวเลขเดิม อันนี้คุณว่าใครปั่นตัวเลขมากกว่ากันครับ”
ผมไม่เห็นด้วยและแย้งกลับไปว่า 28 มีนาคม 2555 11: ว่า
คุณครับ ปรส นะรับโอนทรัพย์สินมา 8 แสนล้านบาท ทำการประมูลขายไปได้ 1.5 แสนล้านบาทครับคุณ ไม่ใช่หมื่นล้านบาท เคยมีการคำนวณไว้จะเท่ากับ 23 เปอร์เซนต์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ช่วงเศรษฐกิจวิกฤติ ต่อให้ปรส ประมูลขายได้เท่าๆกับที่กองทุนประมูลขายที่ให้คุณหญิงคือ 35 เปอร์เซนต์ มันก็ไม่ใช่ 8 แสนล้านบาทอยู่ดี แต่เป็นแค่ 2.7 แสนล้านบาท
ซึ่ง ในความเป็นจริง การประมูลขายยุคทักษิณ ที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวมาแต่ปลายยุคชวนแล้ว ก็ย่อมต้องได้มากกว่า ต่างจากยุคปรส ที่เศรษฐกิจวิกฤติต้องใ้ห้ไอเอมเอฟเข้ามาช่วย แล้วจะไปหาคนมีกำลังซื้อมาจากที่ไหนครับคุณ
นั้นแหละ ผมจึงสรุปว่า คนที่อ้างว่าคดีปรส มีการโกงกัน 8 แสนล้านนั้น ล้วนเป็นคนพวกปั้นตั้วเลข เพราะไม่มีทางที่ใคร หรือเทวดาที่ไหนจะเอาทรัพย์สินที่ได้มา 8 แสนล้านบาท เอาไปประมูลขายให้ได้เงิน 8 แสนล้านบาทคืนมาหรอกครับคุณ
จึงอย่าบิดเบือนด้วยการเอาแต่อ้างตัวเลข 8 แสนล้านบาทครับ |
ผมได้ใช้ความตอนท้ายเตือนว่า “จึงอย่าบิดเบือน” หมายถึง จึงอย่าคิดไปบิดเบือนเพราะหากคุณคิดบิดเบือนด้วยการอ้าง 8 แสนล้านบาทนั้น มันจะไม่เป็นผล เพราะในความเป็นจริงดังที่ยกมาให้ดูในช่วงต้นข้อความนั้น ชี้ให้เห็นว่า ประมาณการความเสียหายที่มากที่สุดที่จะเป็นไปได้ก็คือ ราคาที่ปรส ควรจะประมูลขายได้ - ราคาที่ปรส ประมูลได้จริง = 2.7 แสนล้านบาท – 1.5 แสนล้านบาท หรือราว 1.2 แสนล้านบาท
ไม่ใช่ 8 แสนล้านบาท-0บาท หรือ 8 แสนล้านบาทดังที่อ้างกัน
โดยประมาณการราคาที่ปรส ควรจะประมูลขายได้-ราคาที่ปรส ประมูลได้จริง 2.7 แสนล้านบาท – 1.5 แสนล้านบาท หรือราว 1.2 แสนล้านบาท เป็นราคามากสุดแล้ว เพราะในความเป็นจริง ราคาที่ปรส ควรจะประมูลได้ ไม่น่าถึง 2.7 แสนล้านบาท เพราะหากเทียบสภาวะเศรษฐกิจแล้ว เวลานั้น เศรษฐกิจยังไม่ได้เริ่มจะดีเหมือนปลายยุคชวนหรือต้นยุคทักษิณ
ดังนั้น หากปรับให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจที่วิกฤติในเวลานั้น ประมาณการที่ปรส ควรจะขายได้ อาจจะตกอยู่แค่เพียง 1.5-1.7 แสนล้านบาทหรือต่ำกว่านั้น และทำให้ความต่างของราคาที่ควรขายได้มีเพียงหลักพันล้านบาท ดังที่เคยติงไว้ในกระทู้ต้นเรื่อง
การถกกันหลังไมค์นี้ทำให้ผมไม่แน่ใจว่าคุณมีจุดยืนอย่างไรกันแน่ ดังนั้นเมืือคุณแจ้งว่าคุณไม่ยึด 8 แสนล้านบาท ผมจึงทวนสอบย้ำไป ดังที่แจ้งใน ส่วนที่หนึ่งข้างบนนั้นเอง อนึ่ง ผมไม่ได้ใช้คำว่า “คุณเลิกบิดเบือน” หรือ "คุณช่วยเลิกบิดเบือน" แต่หากโพสต์เช่นนี้ทำให้คุณเข้าใจผิดไปเพราะการใช้คำของผมอาจจรวบรัดย่นย่อไปหน่อย ในข้อความหลังนี้และคุณไม่สบายใจก็ขออภัยด้วย
ว่าแต่ คุณจะเลิกเรียกผมว่าทนายก็น่าจะดี เพราะผมไม่ใช่ทนายอย่างที่คุณเข้าใจ กรุึณาเข้าใจให้ถูกต้อง
.
แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 17:58:30
แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 17:57:33
แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 17:07:32
แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 16:35:45
| จากคุณ |
:
thyrocyte 
|
| เขียนเมื่อ |
:
29 มี.ค. 55 16:31:15
A:58.137.0.146 X:
|
|
|
| |
