จากแหล่งข่าว   http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=626772&lang=T&cat=&key

โฆษก ปชป.จวก "ยิ่งลักษณ์" ใจดำไม่ลงดูจุดบึ้มภาคใต้

ขอตัดทอนแบ่งมาสักสองท่อน  ดังนี้นะครับ :

- แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยังที่เกิดเหตุและได้เดินทางเข้าไปภายในตัวอาคาร เจ้าหน้าที่กลับบอกว่ายังเข้าไปไม่ได้ ซึ่งพวกเราก็เข้าใจว่าสถานการณ์เช่นนี้ต้องระมัดระวังความปลอดภัยเป็นอันดับแรก แต่ 10 นาทีหลังจากนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เดินทางมาถึง และก็เดินมุ่งหน้าเข้าไปภายในตึกโดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการทักท้วงแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่เขากำลังทำงาน  สะเออะไปทำไม  วุ่นวายเปล่า ๆ   ส่วน ผบ.ตร. น่ะ  เขาเป็นเจ้าหน้าที่  เขาต้องเข้าไปดูสถานที่  ดูที่เกิดเหตุ  เก็บข้อมูล ดุสภาพปัญหา  เผื่อต้องสั่งการในการทำงานและแก้ปัญหา

- นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์เช่นนี้ แสดงให้เราเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯไม่ต้องการช่วยประชาชน และไม่ต้องการให้ใครไปช่วย เพราะนายอภิสิทธิ์จะเดินทางเข้าไปตรวจสอบโครงสร้างของอาคารว่าแข็งแรงหรือไม่ แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่รัฐไม่ให้ความร่วมมือกับเรา

ไอ้มาร์คน่ะ  เรื่องไข่มันยังไม่รู้เรื่อง  น้ำแค่แข้งยังสวมขูชีพยังกะอยู่กลางแปซิฟิค  แล้วจะสะเออะไปดูโครงสร้างอาคาร  มันดูเป็นเร๊อะ  ไม้กวาดยังจับไม่เป็น  มีหน้าที่อะไร มีอำนาจอะไรที่จะไปสั่งการใคร

....................

แค่นี้พอ  มากกว่านี้  "ฮากสิแตก"

นี่คือความโง่  ความสาไถยจนกลายเป็นวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์  พูดอะไรไม่โกหกไม่มี ไม่เอาดีใส่ตัวไม่มี ไม่ใส่ร้ายคนอื่นไม่มี

และไม่สำนึกรู้สักนิดว่า  คำพูดนั้น ๆ เมื่อปรากฎต่อสาธารณะ  เมื่อประชาชนได้ยินแล้วประชาชนจะรู้สึกอย่างไร

กินหญ้า  แล้วเลยคิดว่าประชาชนเขากินหญ้าด้วย

เรื่องไอ้มาร์คลงหาดใหญ่นี่   รักษาการโฆษกรัฐบาลได้ขี้แจงกับผู้สื่อข่าวไปอย่างชัดเจนแล้ว

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ส่งอีเมล์ถึงผู้สื่อข่าวเพื่อชี้แจง กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หันหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่ประสบเหตุคาร์บอมบ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า นายอภิสิทธิ์สามารถเดินทางไปเยี่ยมประชาชน เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้ แต่นายอภิสิทธิ์ต้องระมัดระวัง ว่าการเข้าไปในพื้นที่ในสถานการณ์ขณะนี้ อาจเป็นการไปแทรกแซงหรือเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงไม่ควรฉกฉวยจังหวะนี้ ในการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลซ้ำเติมสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกมาพูดเสนอแนะแบบรู้ทุกเรื่อง มันสุ่มเสี่ยงเปราะบางมากในสถานการณ์เช่นนี้ แล้วท่านอาจจะรู้ไม่หมด รู้ไม่จริง เพราะถ้าท่านรู้จริง มีความสามารถ ต้องแก้ปัญหานี้ได้ตั้งแต่สมัยรัฐบาลท่านแล้ว

"ขณะนี้การทำงานของเจ้าหน้าที่มีความคืบหน้าไปพอสมควร พอรู้กลุ่มผู้ก่อเหตุ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติทำงานก่อน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ก็ได้ลงพื้นที่ เพื่อดูสถานที่เกิดเหตุทั้งหมด อีกทั้ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ก็ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมด รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็อยากไปแต่เนื่องจากเกรงว่า ถ้าท่านลงไปจะต้องแบ่งเจ้าหน้าที่จำนวนมากมาดูแลความปลอดภัย จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากขึ้น" นายอนุสรณ์กล่าว

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1333263322&grpid=03&catid=&subcatid=

ก็ดูข่าวสองข่าวครับ   ข่าวหนึ่งคือข่าวนายชวนนท์    อีกข่าวคือข่าวนายอนุสรณ์

ดูแล้วก็พิจารณาดูว่า  ฝ่ายใดมีเหตุผล มีวุฒิภาวะ  มีสามัญสำนึกต่อสาธารณะมากกว่ากัน

ผมอ่านทั้งสองข่าวแล้ว  บอกได้เลยว่า นายชวนนท์ไม่ได้แตกต่างจากแก๊งค์เด็กแว๊นในห้องนี้สักเท่าไรเลย  

แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 17:47:54