เหตุผลที่ทำให้ณัฐวุุฒิ+จตุพรต้องนั่งนิ่ง...กรณีการอภิปราของท่านพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกูล
|
 |
ใครที่ไม่ได้ยลหรือได้ฟังลีลาอภิปรายที่แสนจะยียวนกวนอินของท่านผู้เฒ่านาม พิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกูล เมื่อดึกคืนที่ผ่านมา คงเสียดายที่พลาดอารมณ์ร่วมในทางใดทางหนึ่ง
สำหรับสาละวิน ที่ตั้งใจฟังอภิปรายมาแต่ต้น ยังคิดเลยว่า ลีลาและวาทะอันชวนให้ปรองดองยิ่งของท่านผู้เฒ่าเยี่ยงนี้ คงเป็นเรื่องแน่
เพราะไม่ผิดอะไรกับลีลาจิ้งจอกหลอกด่าแล้วยอมรับ หรือด่าก่อนถอนทีหลัง
ซึ่งท่านผู้เฒ่าใช้มุกนี้ ครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างไม่รู้สึกขัดเขิน
ฟังคล้ายๆจงใจพูดยั่วให้ขุนพลฝ่ายรัฐบาลออกมาโต้ให้สภาป่วนเพื่อบรรลุผลบางอย่างที่พรรค ปชป กำลังวิตกอย่างยิ่ง
เพราะลึกๆทราบว่า แนวทางปรองดองนี้จะไม่รวมถึงคดีฆาตกรรม 91 ศพ ซึ่งเทือกและมาร์กเอาเท้าจ่อคุกรออยู่แล้ว
จึงหวังให้เกิดภาพโกลาหลในสภาด้วยลีลากวนอวัยวะบางอย่างของท่านผู้เฒ่าประจำพรรค อย่างที่พรรณามาแต่ต้น
คนของเพื่อไทยอดทนอดกลั้นได้ดีมาก แม้กระทั่งท่านประธานก็พยายามอะลุ้มอะล่วยให้พูดต่อ
แต่ก็นั่นแหละ เมื่อเพ้อเจ้อหนักขึ้น สส เพื่อไทยจึงลุกขึ้นประท้วง โดยเฉพาะจ่าประสิทธิ์ ถึงกับพูดแบบไร้ความเกรงใจว่า
ผู้เฒ่าโรคจิต ตัณหากลับ
มีเสียงฮาครืนตามมาจากกลุ่ม สส.เพื่อไทย ขณะที่ฝ่าย ปชป ชูมือสลอนเพื่อขอโอกาสลุกโต้จ่าประสิทธิ์
ซึ่งร้อนถึงท่านประธานและใครต่อใครที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ต้องอย่าศึกอยู่นาน
ในที่สุดประธานเลยตัดบท ให้ท่านผู้เฒ่าพูดเสียให้จบใน 5 นาที โดยกำชับพูดในประเด็นและให้ใช้ถ้อยคำสุภาพ ห้ามใช้น้ำเสียงเสียดสี(ตามบทถนัดของสส พันธุ์ ปชป)
ด้วยเนื้อหากวนบาทาที่ขุดคุ้ยเรื่องเหตุการณ์ไม่สงบปี 53 มาเล่าใหม่ในเวอร์ชั่นของฝ่ายตรงข้ามเสื้อแดง ผมคิดว่าเดี๋ยวก็โดนไม่จุพรก็ณัฐวุฒิลุกขึ้นฉะท่านผู้เฒ่าให้เสียคนตอนแก่ไปอีกรายอย่างแน่นอน
แต่เอาเข้าจริง "เจ้าหนุ่มสองคน" ที่ท่านผู้เฒ่าเอ่ยถึงหลายครั้งก็มิได้ลุกขึ้นมาฉะดังคาด
ด้วยเหตุผลสามประการคือ 1) ท่านผู้เฒ่าเป็นผู้อาวุโสที่ทั้งสองให้ความเคารพมาก่อน ทั้งจากเป็นคนใต้เหมือนกันและความมีอาวุโสทางการเมือง 2) เห็นว่าการอภิปรายของท่านผู้เฒ่ามีลีลาและเนื้อหาที่สังหารตัวเองของท่านผู้เฒ่าอยู่แล้ว จึงไม่อยากลดตัวไปตอแย ทำนอง อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา 3) เป็นมติของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการให้ฝ่ายค้านโซโล่เต็มที่ และไม่ให้นักพูดระดับพระกาฬเช่น ณัฐวุฒิกับจตุพร ออกแรงโดยไม่จำเป็น
ซึ่งท่านจุพรและณัฐวุฒิ ก็นิ่งฟังได้จนท่านผู้เฒ่าพุดจบในเวลาที่ประธานบังคับ
ในความเห็นส่วนตัวของสาละวิน เห็นว่า ปชป.เต็มไปด้วยวัตถุโบราณที่มีลีลาอนุรักษ์กวนอวัยวะบางส่วนเช่นนี้นี่เอง จึงถ่ายทอดสืบสันดอนกันมาชนิดไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยไปตามกาลสมัย.....รุ่นเเล้วรุ่นเล่า
อันเป็นเหตุให้กาลปัจจุบันพรรคต้องประสบความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งภายใต้กติกาประชาธิปไตย.....ครั้งแล้วครั้งเล่า
และจะยิ่งแพ้ต่อไป !
จากคุณ |
:
สาละวิน
|
เขียนเมื่อ |
:
5 เม.ย. 55 05:55:48
A:14.207.166.8 X:
|
|
|
|