ความคิดเห็นที่ 1 จขกท. เห็นด้วยกับนโยบายประชานิยม ทีึ่ยึดเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง กับทำงานจริงจังในการผลักดันให้นโยบายประชานิยมประสพความสำเร็จ จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 18:09:20 A:58.8.237.83 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ประชาชนได้ประโยชน์นะผมว่า จากคุณ : หมีฮัสก้า เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 18:22:16 A:125.26.135.186 X:

ความคิดเห็นที่ 3 การทำให้ประชาชนนิยม  เป็นความต้องการสุดยอดของผู้บริหารประเทศ เมื่อประชานิยมมากๆ  ฝ่ายค้านก็เหลือน้อยลงเรื่อยๆ          คนเสื้อแดงอย่างผม..ชอบ...ชอบครับ จากคุณ : pamanpaman เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 18:29:09 A:223.206.17.135 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบประชานิยมเพราะ ประชาชนจะได้บอกว่าเขาอยากได้อะไรคะ จากคุณ : นพนครพิงค์ เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 18:34:54 A:101.109.2.101 X:

ความคิดเห็นที่ 5                ก่อนจะมาเป็นนโยบายประชานิยมของทรท.               ได้มีการสำรวจความต้องการของปชช.ก่อน                จึงได้มานำเป็นนโยบายหลักของพรรคในการ                หาเสียง  และ  นี่คือการวางแผน  ตามรูปแบบ                การบริหารจัดการที่ไม่เคยมีพรรคการเมืองใด                ทำมาก่อน                เมื่อเป็นรัฐบาล  ก็สามารถนำนโยบายที่นำเสนอ                มาดำเนินการให้เป็นรูปธรรมได้               นี่คือความต้องการของปชช.                 แม้ปชป.จะกล่าวหาว่าเป็นนโยบายประชานิยม                แต่ในที่สุดก็ต้องสานต่อ  และดำเนินนโยบาย                ประชานิยมต่อไป จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 18:35:08 A:115.87.212.58 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ดิฉันเสียดายที่คำว่าประชานิยมถูกบิดเบือนให้กลายเป็นเรื่องลดแลกแจกแถมไป ทั้งที่ความหมายของนโยบายคือการตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ทั่วโลกทำกันมาเป็นร้อยปีแล้วเท่านั้นเอง เราเคยมีแต่นักการเมือง พรรคการเมืองที่อ้างนโยบายตอนหาเสียงเท่านั้น ผ่านการเลือกตั้งนโยบายก็เก็บเข้าลิ้นชัก พอทักษิณมาทำให้นโยบายกลายเป็นเรื่องทำได้จริง เป็นตัวเป็นตนได้จริง ก็โดนการสาดโคลนว่าเป็นการซื้อ เป็นการแจก ทำให้ประชาชนอ่อนแอ แต่พอไล่ทักษิณไป  พวกที่ด่าทักษิณก็ดันทำต่อซะเอง  ถึงวันนี้ กลับไปเป็นฝ่ายค้าน หันมาด่าเรื่องประชานิยมอีกแล้ว "มาร์ค" จริง ๆ เลยค่ะ จากคุณ : Jampoon เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 18:43:31 A:58.137.98.211 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ผมงดออกเสียครับ เพราะมีความเห็นว่า ถ้าไม่นิยมประชาชน จะไปนิยมใคร ธ่อ ไม่น่าเสียเวลาเข้ามาเลย ฮิ จากคุณ : เฒ่าวัย 56 เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 18:45:42 A:115.87.81.140 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ประชานิยมก็คือนิยมประชาชน อะไรๆก็ทำเพื่อประชาชน  นโยบายอย่างนี้แหละที่ประชาชนทั่วโลกต้องการ จากคุณ : วิทย์ศิลป์ เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 18:57:31 A:125.24.239.53 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อเสียของประชานิยมคือการคอรัปชั่นครับ ถ้าแก้ไขได้ ประชาชนก็ได้ประโยชน์ บ้านเมืองก็ก้าวหน้า แต่ก็ทราบกันดีว่าไม่มีประเทศไหนในโลกไร้การคอรัปชั่น  ไม่ว่าจะมีมาตรฐานสูงแค่ไหน  จริยธรรมคุณธรรมสูงส่งปานใด  การโกงกินก็ไม่ได้หายไปไหน แต่กลับพัฒนาไปเรื่อยๆ ตรวจสอบยากขึ้น สำหรับผม ผู้มองว่านักการเมืองไม่ว่าจะหน้าไหน ก็ไม่ต่างกันนั้น  ใครทำประโยชน์ให้จับต้องได้มากกว่า ผมก็เชียร์ครับ  อย่างเรื่องหวยบนดิน ที่เอาเงินใต้ดินมาใช้  ผมชอบใจมากๆ  แล้วมาร์คยกเลิกไปน่ะ ประเทศชาติได้อะไรขึ้นมาบ้าง?? ผลงานห่วยแตกน่ะ ผมไม่เลือกหรอก จากคุณ : FCPOTO เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:03:57 A:180.183.249.106 X:

ความคิดเห็นที่ 10 คห 9 อย่างนั้นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง คือ ขจัดหรือป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น แล้วเดินหน้าทำประชานิยมต่อไป เพื่อพัฒนาประเทศ จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:08:30 A:58.8.209.114 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่โหวตนะครับ แต่นโยบายของรัฐทุกเรื่องนี่ถือเป็นประชานิยมหมดทุกเรื่องเลยหรือเปล่าครับ... และถ้าประชาชนทุกคนในประเทศนี้ รับได้ในบางเรื่อง บางเรื่องก็ชอบมาก และบางเรื่องเฉยๆ และบางเรื่อง ไม่ชอบและไม่เห็นด้วยอย่างที่สุด แต่ทั้งหมดนี้เป็นนโยบายที่ใช้หาเสียงและได้รับชัยชนะมา จะเหมารวมว่าทั้งหมดนี้เป็นประชานิยมหมดเลยหรือเปล่าครับ จากคุณ : พิงค์วู เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:08:47 A:171.99.59.205 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ก็ประชา นิยมนิ ทำให้ประชาชนชอบ.... ก็ต้องชอบสิ ดีกว่าอำมาตย์นิยมเป็นไหนๆ ^^ จากคุณ : ปีศาจตาเดียว เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:11:51 A:110.168.35.225 X:

ความคิดเห็นที่ 13 พูดอย่างง่าย ๆ ... การบริหารประเทศ  จุดมุ่งหมายก็เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข  เป็นพื้นฐานที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าในที่สุด ถ้าไม่ทำเพื่อประชาชน  ไม่ทำในสิ่งที่ประชา(ชน)นิยม แล้วจะไปทำให้ใครนิยมกันเล่า ?? รัฐบาลไหนก็อยากให้ประชาชนพอใจ  จะได้เลือกตัวเข้ามาอีก แต่...ข้อสำคัญคือ  ใครจะมีกึ๋นมากกว่ากัน หรือจะเอาแต่ลอกของเค้า แล้วก็ดัดแปลงถ้อยคำซะนิดหน่อยล่ะ นั่นน่ะ...ไม่ด้านจริงทำไม่ได้หรอก  จะบอกให้ !    งามพร้อม     จากคุณ : 123 งามพร้อม เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:13:44 A:171.5.88.241 X:

ความคิดเห็นที่ 14 อาเจนติน่าประชานิยมแล้วเป็นอย่างไร กรีซประชานิยมแล้วเป็นอย่างไร ถ้าประเทศเต็มไปด้วยคนที่ไม่ใช่หนึ่งสมองสองมือที่มีอยู่ให้เต็มที่  รอแต่การแจกจ่ายแต่ภาครัฐ  ประเทศนั้นจะเป็นอย่างไรคงรู้ดี จากคุณ : jomjonbupa เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:22:55 A:27.130.16.235 X:

ความคิดเห็นที่ 15 นโยบายเรื่องการจัดระเบียบสังคม กับสงครามกับยาเสพติด เป็นประชานิยมด้วยหรือเปล่า จากคุณ : เฉกตะวัน เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:25:36 A:27.55.9.82 X:

ความคิดเห็นที่ 16 คห. 14 ถามว่า รัฐบาลทักษิณเป็นรัฐบาลประชานิยมที่สุดของประเทศไทย ตอนนั้นเศรษฐกิจดี ภาคธุรกิจและภาคประชาชนอยู่ในฐานะที่ดี ประเทศไทยตอนนั้นมีสภาพเป็นเหมือน อาเจนติน่า และ กรีซ หรือเปล่า? คห. 15 ต้องถามว่า  การปราบปรามยาเสพติด ประชาชนนิยมหรือเปล่าคะ? เห็นโพลลสำรวจความนิยมความชื่นชมผลงานรัฐบาล การปราบปรามยาเสพติดมาเป็นอันดับ 1 หรืออันดับต้นๆ เสมอ จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:35:44 A:58.8.237.83 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ประชานิยม -POPULISM อะไรที่ลงท้ายด้วย -ISM มันคือแนวคิด ทฤษฎี หรือแนวปฏิบัติ ประชานิยมโดยรากศัพท์ แปลว่า "การยึดถือ หรือมุ่งเน้นไปที่ประชาชนเป็นหลัก" เหมือน SOCAILISM -สังคมนิยม CAPITALISM -  ทุนนิยม ฯลฯ แต่มีการพยายามเบี่ยงเบน ให้หมายความว่า นโยบายที่ทำให้ประชาชนชื่นชอบ ซึ่งผมว่าผิดอย่างมาก นโยบายประชานิยม ก็คือ การบริหารประเทศ บริหารทรัพยากรโดยคำนึงประชาชนให้ได้ผลประโยชน์เป็นหลัก ก็ในเมื่อเราเคยทุ่มเททรัพยากรมุ่งเน้นไปในด้านอื่น เช่น ทหารนิยม เผด็จการนิยม ศักดินานิยม ฯลฯ แล้วเวลาเขาทุ่มเททรัพยากรลงมาให้ประชาชนที่ด้อยโอกาส ทำไมโวยวายว่าจะทำให้ประเทศชาติล่มจมกันเล่า ก็ในเมื่อเราทุ่มเงินมหาศาลอุ้มสถาบันการเงิน เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ไปกับโครงสร้างพื้นฐานห่วยๆ และไม่สำเร็จ เช่น โฮปเวลล์ ซื้ออาวุธด้อยคุณภาพ ไร้ประสิทธิภาพ เช่น จีที 200 บอลลูน กล้องดัมมี่ ฯลฯ ยังได้ แล้วพอประชาชนจะได้รับประโยชน์บ้าง เช่น การเข้าถึงทุน เข้าถึงอาชีพ เข้าถึงสวัสดิการ สุขภาพ การรักษาพยาบาล ทำไมถึงโวยวายกันนัก??? และที่บอกว่าจุดอ่อนของประชานิยม คือ การทุจริตคอร์รัปชั่น นั่นก็เป็นการบอกความจริงแบบครึ่งเดียว (HALF TRUTH) แล้วเผด็จการทหาร ระบบอื่นๆ ไม่มีการทุจริตหรือ?? ก็เห็นๆ กันอยู่ ที่สำคัญการทุจริตทำกันอย่างหน้าด้านๆ ไม่เกรงใจใคร โวยวายตรวจสอบก็ไม่ได้ เด๋วมันเอาปืนมายิงกบาลเอา นะครับ!!! ปล.พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก ตาลายอ้ะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 19:51:23 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 19:47:52 จากคุณ : ธุดงค์ผ่านมา เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:47:14 A:124.122.130.62 X:

ความคิดเห็นที่ 18 จากตัวเลือกที่ให้มา...ตอบยากครับ เนื่องจากไม่ได้ระบุว่าประชานิยมของ "ค่าย" ไหน? ถ้าเป็นประชานิยมของ ทรท (สมัยทักษิณ)... ผมไม่ได้มองว่าเป็น ประชานิยมอย่างที่นักวิชาเกินหลายคนให้ความเห็น เพราะนโยบายสมัยนั้น ผมมองว่า เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริง และครบวงจร (ตั้งแต่ ทุน แรงงาน จนถึงตลาด) แต่หลังจากที่มีนักวิชาเกินให้คำนิยาม(ความหมาย)ของประชานิยมแล้ว นโยบายที่ออกจากพรรคต่างๆ ... ไม่ว่าจะเป็น ปชป หรือ พท ต่างก็พากันดำเนินรอยตามคำนิยามเหล่านั้นไปเกือบทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นนโยบายเพื่อบรรเทาปัญหาแค่บางจุด แต่ไม่ครบวงจร ซึ่งยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง (แต่ก็พอเข้าใจได้  เพราะบ้านเราเหมือนหยุดพัฒนาไป 4-5 ปี) เพียงแต่ถ้ามองถึงผลสำเร็จในการบริหารนโยบาย ผมยังให้ พท. ยังเป็นต่อ ปชป. (ในเรื่องบริหารนโยบาย ผมเชื่อมือนักธุรกิจมากกว่านักกฏหมาย) ส่วนเรื่องอาเจนติน่า, กรีซ ฯลฯ นั้น จริงๆแล้วผมก็ห่วงนะ เพราะหลายสิ่งหลายอย่าง ในสมัยที่ทักษิณลงทุนไว้ กลับถูกรัฐบาลขิงแก่(ที่แสนจะงี่เง่า) ยกเลิกไปกลางคันอย่างน่าเสียดาย เฮ้อ ... ผมก็บ่นไปเรื่อย...อิอิอิอิ (ช่วงนี้โครตร้อน....จะสองทุ่มอยู่แล้ว อุณหภูมิยัง 32 องศาอยู่เลย) จากคุณ : King Hades เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:56:40 A:1.1.219.186 X:

ความคิดเห็นที่ 19 หน้าที่ของรัฐบาลคือบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชนคือ นโยบายประชานิยม ก็คือนโยบายที่ทำให้ประชาชนขื่นชอบ ... เมื่อประชาชนชื่นชอบ นั่นคือความสุขของประชาชน จะผิดตรงไหนเล่าคะ ประชาชนเสียภาษีมาเพื่อให้รัฐบาลทำสิ่งเหล่านี้นะคะ จากคุณ : กอบัวน่ารักจัง เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:57:31 A:110.168.41.24 X:

ความคิดเห็นที่ 20 หนี้สาธารณะ จากคุณ : เขียนบน Ice Cream Sandwich (kenjiwinness) เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 20:00:57 A:27.130.195.245 X:

ความคิดเห็นที่ 21 ผมต่อต้านประชานิยมสุดๆครับ ขออภัยจริงๆ และผมเห็นว่านี่แหละ คือหนึ่งในต้นตอปัญหาของประเทศชาติ เพราะมันได้กลายเป็น"สูตรสำเร็จ" ในการเลือกนักการเมืองเข้าสภา มันสอดคล้องกับจริตคนส่วนใหญ่ของโลก ที่ชอบเป็น "ผู้รับ" บ้านเมืองนี้ไม่มีวันเจริญหากประชาชนเป็นได้เพียง "ผู้รับ" ไม่มีทาง ! นักการเมืองมันก็ปิดโอกาสแห่งการเป็น "ผู้ให้" ของประชาชนซะด้วย ประชาชนมีความสุขกับการเป็น "ผู้รับ" ยังไม่พอ พวกมันยังปิดโอกาสแห่งการเป็น"ผู้ให้" ประเทศที่ประชาชนเอาแต่"รับ" ไม่มีวันเจริญ เพราะมันเท่ากับการฝากอนาคตของชาติไว้กับนักการเมืองในสภาไม่กี่ตัว ความก้าวหน้าของประเทศไม่ได้ยึดโยงอะไรกับประชาชนเลยแม้แต่นิดเดียว และทั้งหมดที่รัฐบาลประชานิยมต้องทำก็คือ การทำตามสัญญา แค่นี้แหละ ! แค่นี้ก็ดูดีแล้ว ! คนไทยนี่ สาสมกับอะไรประชานิยมจริงๆ ผับผ่า... ไม่ประชานิยม แล้วจะให้อะไรนิยม...หึ หึ ก็จริงของเขา ถึงแม้ว่าผมจะเกลียดภาคการเมือง แต่ประชานิยมกำลังเปลี่ยนแปลง"มาตร" ในการวัดคุณภาพนักการเมืองไปอย่างน่าเสียดาย นี่คือความคิดผม ตกลงพรรคการเมืองดี-ไม่ดี นี่ดูกันตรงนี้เองหรือ ? ตกลงนักการเมือง ดี-ไม่ดี นี่ดูกันตรงนี้เองหรือ ? ดูกันว่าใคร "ประเคน" มากกว่ากันงั้นหรือ ดูกันว่าใครสัญญาว่าจะประเคนอะไร ใครทำได้จริง ก็แปลว่า "ดีกว่า" งั้นหรือ ? ผมว่าไม่ ! และเป็นการดูถูกประชาชนอย่างที่สุด หมู จนไม่รู้ว่า หมู ขนาดไหน แต่ก็เถอะ ถ้าเป็นกันซะอย่างนี้ ผมก็ยอมรับ ว่าประชาชนมันสมควรให้นักการเมืองมันดูถูก ! ก็ประชาชนมัน"หมู" ซะขนาดนี้ นักการเมอืงมันก็ต้องวงัดเอานโยบาย "หมู" มาประเคน "หมูสกปรก" ซะด้วย ! อยาก"ได้" กันตัวสั่นตัวซีดนักใช่มั๊ย ? จัดไป เงินพวกคุณทังนั้น 5 5 5 5 แค่เอาเงินพวกคุณ มาซื้อของให้พวกคุณแค่นี้ก็ปลื้มกันจะเป็นจะตาย ค่าคอม ค่าหัวคิว พวกกรูก็ได้ 5 5 5 5 ในท้ายที่สุด ผมคิดว่าประชานิยม ตอบโจทย์ความนิยมของประชาชนที่ชอบเป็น "ผู้รับ" ประชาชน แฮปปี้ไปกับการ"รับ" แต่นั่นมิได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับการพัฒนาประชาธิปไตย มิได้นำพาไปสู่การพัฒนาประเทศชาติไปอย่างยั่งยืนเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ประชานิยมแบบที่เป็นกันอยู่นี้กำลังลากประเทศชาติดิ่งลงเหว ท่านอาจารย์พุทธทาสเคยกล่าวไว้ ในเรื่อง ประชาธิปไตย ว่าประชาธิปไตย ไม่ได้แปลว่า ให้ ต้ อ ง ทำอะไรตามเสียงส่วนใหญ่ เพราะเสียงส่วนใหญ่กับความถูกต้องชอบธรรม เป็นคนละส่วนกัน เพราะ"เสียงส่วนใหญ่" ก็สามารถจะ ไม่ถูก ไม่ต้อง ก็เป็นได้ เสียงส่วนใหญ่ จึงมิได้แปลว่า "ถูกต้อง" แต่ประชาธิปไตย ต้องดำเนินไป"เพื่อประโยชน์" ของคนส่วนใหญ่ คนเราจำเป็นต้องเข้าใจประชาธิปไตยให้ได้จริงๆ ไม่ใช่เอามาแปะไว้ที่หน้าผากกันแบบนี้ อย่ามาพูดเรื่องปชป. หรือ พท.อะไรกับผม ไม่เกี่ยว ! พรรคการเมืองพรรคไหน เอาประชานิยมมาเล่นกับคนไทยผมถือว่า สกปรกสุดๆ ทุกพรรค ! เอาความหิวโหยของประชาชนมาหาประโยชน์อย่างสกปรกที่สุด ! ผมขออภัยจริงๆที่ผมเห็นต่างกับเพื่อนสมาชิกส่วนมากในห้องนี้ เผอิญผมไม่ชอบเป็น "ผู้รับ" จากคุณ : รักจริงหวังแต่ง เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 20:22:51 A:27.130.29.172 X:

ความคิดเห็นที่ 22 อยากให้มองเป็นวิวัฒนาการมากกว่า สมัยก่อนพรรคการเมืองทำเหมือนๆกันคือกินลูกเดียวประชาชนไม่ได้อะไร ผลการเลือกตั้งในยุคนั้นจึงสลับไปมาแบ่งกันเป็นรัฐบาลเพราะประชาชนไม่มีทางออกให้เลือก ต่อมามีนักการตลาดมือดีนำหลัก win-win มาใช้ในการเมืองประชาชนชอบและเศรษฐกิจดี ต่อมาเกิดเรื่องมากมายและพอเลือกตั้งใหม่พรรคการเมืองก็หันมาใช้ "ประชานิยม" กันหมด เลยเถิดไปจนถึงระดับที่จะเป็นผลเสียแต่ก็ช่วยไม่ได้ต้องให้พรรคตัวเองดูเด่นกว่าไว้ก่อน ... ครั้งต่อๆไป "ประชานิยม" มันก็จะเป็นระดับที่เหมาะสมเอง เพราะถ้าทำไม่ได้ก็อาจโดนด่า ผมไม่เชือว่าภายใน 20 ปีข้างหน้าการเมืองไทยจะไม่ดีขึ้น 20 ปีเพียงพอที่จะเหลือคนที่ขายเสียงอยู่ไม่มาก (หากเริ่มให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างจริงจังในวันนี้) จากนี้ไป...ขอแค่อย่าทำรัฐประหารก็พอ จากคุณ : GREENISH เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 20:27:09 A:125.27.182.176 X:

ความคิดเห็นที่ 23 ประชานิยม ก็แปลว่า ประชาชนชอบ เป็นแค่คำที่บังเอิญถูกปั้นให้เกิดเท่านั้นเอง หากยึดแทนโครงที่แท้จริงเราก็จะไม่เห็นการบูรณาการอะไรมากไปกว่าคำคำเดียว จากคุณ : GREENISH เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 20:31:24 A:125.27.182.176 X:

ความคิดเห็นที่ 24 คห. 21 จากความเห็นยาวๆ ที่คุณรักจริงหวังแต่งอธิบายมา ขอถามเพิ่มเติมว่า  1. การบริหารประเทศ ถ้าไม่เน้นให้ประชาชนเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุด แล้วจะให้ใครเป็นผู้ได้รับประโยชน์? 2. ในเรื่องของรัฐสวัสดิการ ประชาชนจะต้องได้รับประโยชน์ โดยที่รัฐต้องรับผลขาดทุนส่วนหนึ่งที่ไม่มากจนถึงกับทำประเทศล่มจม ถูกต้องหรือไม่? 3. ทำไมจึงคิดว่า นโยบายประชานิยม ประชาชนจะเป็นฝ่ายรอรับประโยชน์ฝ่ายเดียวทำให้ไม่เกิดการพัฒนาใดๆ?  ขอตัวอย่างประกอบความเห็นของคุณรักจริงฯ ด้วย จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 20:32:07 A:58.8.237.83 X:

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วยครับ แต่ต้องบริหารจัดการให้ดี หนี้สูญได้บ้าง เพราะขาดทุนคือกำไร แต่อีกที ต้องบริหารจัดการให้ดี  อะไรควรเสียก็ต้องเสีย  แต่อะไรไม่ควรให้เสีย ก็ต้องใช้สติปัญญาเต็มกำลังความสามารถ อย่าให้รัฐเสียหาย เพราะสุดท้ายรัฐกับประชาชน มิอาจแบ่งแยกได้ ต้องรับผลจากการกระทำนั้น ๆ ทั้งสิ้น และ ต้องไม่มีเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นใด ๆ ทั้งสิ้น สรุปเห็นด้วยแบบมีเงื่อนไข.... จบข่าว จากคุณ : เห็นด้วย (ปกรณ์เกียรติ) เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 20:37:35 A:125.25.55.43 X:

ความคิดเห็นที่ 26 อย่าไปห่วงเลยครับเรื่อง -ขอ รับ ฉัน- ขอให้นักการเมืองคิดโครงการออกมาเรื่อยๆ อยากฟันหัวคิวเท่าไหร่ เอาไปเลย แต่ขอให้มีผลงาน ทำได้จริง ใช้งานได้จริง เพราะสุดท้ายแล้วเงินที่พวกนี้โกงไป ตายไปแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้สักบาท สุดท้ายแล้วแล้วก็ต้องกลับมาเป็นของแผ่นดินดั่งเดิม... จากคุณ : พริ้วไหวไปกับสายลม เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 21:09:20 A:183.89.92.248 X:

ความคิดเห็นที่ 27 ประชานิยม      ก็ทำในเรื่องส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับปชช.  เพื่อปชช.  และปชช. หรือจะ ปชป.นิยม  มันถึงจะถูก  อยากถาม#21 จากคุณ : วิหคน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 21:38:03 A:223.204.157.209 X:

ความคิดเห็นที่ 28 เรียนคุณน้ำมิตรครับ จริงๆกระทู้นี้เป็นกระทู้โหวต ผมเชื่อว่า คุณน้ำมิตรตั้งกระทู้นี้มา ด้วยอยากจะรับฟังความคิดเห็น ผมก็แสดงความคิดเห็น คุณน้ำมิตรเองก็ยังมิได้แสดงความคิดเห็นใดๆกับเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ผมเลยรู้สึกตลกๆ ที่คุณน้ำมิตรออกมาตั้งข้อสงสัยกับทุกกระทู้ของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับปนะชานิยม ไม่เป็นไรครับ ถามมา ตอบไป 1. การบริหารประเทศ ถ้าไม่เน้นให้ประชาชนเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุด แล้วจะให้ใครเป็นผู้ได้รับประโยชน์? ตอบ : ประเทศต้องได้รับประโยชน์ครับ แต่สิ่งที่รัฐบาลประชานิยมในเมืองไทยทำอยู่ก็คือการประเคนดีๆนี่เองครับ เอาประโยชน์ห่อของขวัญมาล่อให้ซื้อก่อนหาเสียง แทบไม่ต่างจากการซื้อเสียง ซื้อด้วยสัญญา ว่าจะให้ ถ้าวันใด พรรคการเมืองไทย ยกเลิกประชานิยม แล้วพรรคไหนชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย ผมถือว่า ขาวสะอาด พรรคการเมืองไม่ควรนำเอาความหิวโหย ความต้องการ"รับ"ของประชาชนมาผูกเชือก "ล่อ" กันแบบนี้ หาเสียงกันแบบนี้ อีกร้อยปี ก็ชนะครับ ประชาชนจำเป็นต้องพิจารณา"ความยั่งยืน" ของประโยชน์ที่ตนได้รับครับ ไม่ใช่ว่าสักแต่ว่า หลับหูหลับตา"รับ" มันลูกเดียว มันต้องให้ปัญญาคิดครับ ก า ร ไ ด้ " รั บ " ห รื อ ไ ม่   ไ ม่ ค ว ร เ ป็ น ปั จ จั ย ใ น ก า ร เ ลื อ ก พ ร ร ค ก า ร เ มื อ ง ค รั บ 2. ในเรื่องของรัฐสวัสดิการ ประชาชนจะต้องได้รับประโยชน์ โดยที่รัฐต้องรับผลขาดทุนส่วนหนึ่งที่ไม่มากจนถึงกับทำประเทศล่มจม ถูกต้องหรือไม่? ตอบ : การจะเป็นรัฐสวัสดิการได้ ประเทศต้องพิจารณาจาก contribution rate จากประชาชนครับ ต้องดูว่า ประชาชนได้ "ให้" อะไรแก่รัฐด้วยเช่นกัน ประชาชนให้มาก ก็ได้มาก ประชาชนให้น้อย ก็ได้น้อย แต่ประชาชนต้องเป็นผู้ให้ด้วยครับ รับอย่างเดียวไม่ได้ ! ประสงค์จะออกนาม ไม่ประสงค์จะจ่ายตังค์ แต่ประสงค์จะรับมันลูกเดียว แบบนี้ไม่ได้ ! ในความคิดผม ประเทศไทยยังห่างความเป็นรัฐสวัสดิการอีกเป็นร้อยปีครับ อาจถึงขั้นเป็นไปไม่ได้ ประชาชนเราเสพการเป็น ผู้รับซะจนติดงอมแงมไปหมดแล้ว ภาษีก็ไม่จ่าย ไม่อยากจ่าย แต่อยากให้บ้านเมืองเจริญ อยากมีเงินใช้ มันเป็นไปไม่ได้ มันไม่ตรรกะครับ 3. ทำไมจึงคิดว่า นโยบายประชานิยม ประชาชนจะเป็นฝ่ายรอรับประโยชน์ฝ่ายเดียวทำให้ไม่เกิดการพัฒนาใดๆ?  ขอตัวอย่างประกอบความเห็นของคุณรักจริงฯ ด้วย ตอบ : เพราะมันปิดกั้นโอกาสที่ประชาชนจะเป็นผู้ให้ไงครับ มันเลยเป็นได้แต่ผู้บริโภคนโยบายไงครับ ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรในกระบวนการพัฒนาประเทศชาติเลย ไม่ได้"ให้" อะไรเลย และการสร้างนิสัยแบบนี้ มันไม่ส่งเสริมการก้าวไปของประเทศอย่างมีส่วนร่วมของประชาชน ประเทศจะเจริญ ประชาชนต้องทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ ต้องมีวินัย ต้องเคารพกฏหมาย เวลาบ้านเมืองเจริญ ประชาชนมันจะได้เห็นว่า นี่คือผลงานของเขา เวลาบ้านเมืองมันเจริญ เขาจะได้รู้สำนึกว่าการ"ให้"ของเขา มันตอบแทนมาเป็นความเจริญงอกงามของบ้านเมืองแบบยั่งยืน การส่งเสริมให้ประชาชนเป็นเพียง "ผู้รอรับ" เศษเนื้อแบบนี้ รังแต่จะสร้างความเข้าใจผิดๆ สร้างมาตรฐานในการเลือกพรรคการเมืองแบบผิดๆ และยิ่งบั่นทอนความสำนึกในความเป็นชาติ ส่งเสริมให้ประชาชนคิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตน ละเลยการมองภาพใหญ่ ภาพรวม และเอาความเจริญก้าวหน้าของชาติไปฝากไว้กับนักการเมืองไม่กี่ตัว หลังเลือกตั้ง แทนที่รัฐบาลจะทุ่มเททรัพยากรไปในการพัฒนาประเทศ กลับจะต้องรีบมานั่งประเคนประโยชน์กลับไปให้โดนเนื้อโดนตัว ให้กินได้ เพราะเรารอกันแต่เรื่องแบบนี้ ! คิดเป็นแค่นี้ ! เรารอกันแต่ว่ารัฐจะทำตามสัญญาว่าจะให้ กันอยู่อย่างนี้ ก็เพราะภาคการเมือง มันมาสร้างให้เรากลายเป็นอย่างนี้ ให้มาตรฐานมันตกต่ำ หมูตู้ซะขนาดนี้ อีกครั้ง ผมย้ำว่า ประชานิยม ตอบโจทย์เฉพาะหน้าของประชาชนก็จริง แต่ก็ทำให้บรรทัดฐาน มาตรฐาน และเกณฑ์ในการเลือกพรรคการเมืองของประชาชนมันเพี้ยน "เพี้ยน" ไปด้วยการหวังว่าจะได้แท๊ปเล็ต หวังว่าจะได้โน่น ได้นี่ ลืมไปว่าเงินมันไม่ได้ลอยลงมาจากฟ้า ประชานิยมตอบโจทย์ของพรรคการเมืองได้อย่างวิเศษที่สุด เพราะง่ายมาก ! เอา เ งิ น ข อ ง เ ร า มาซื้อของล่อเราไปเรื่อยๆไม่รู้จบ แล้วได้ผลตอบแทนเป็นชัยชนะถล่มทลาย ไงครับ...ท่าทางจะเจริญไหมครับ ประเทศไทย ? จากคุณ : รักจริงหวังแต่ง เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 21:41:55 A:27.130.29.172 X:

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบ #26 ห่วงครับ ยังห่วงอยู่.... แต่ถ้ากอดเงินตัวกลม ไม่ยอมทำอะไร มัวแต่ Let it be ( เวอร์ชั่นพี่ทักกี้ ) ก็ไม่ไหวครับ....  แต่ถ้าบอกว่าจะชัก 10% / 20% / 30% แล้วเสียภาษีให้ถูกต้อง หรือ ถ้าคนส่วนใหญ่เห็นด้วย ก็ อิอิ... Let it be  ครับ................จบข่าว แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 21:46:46 จากคุณ : ปกรณ์เกียรติ เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 21:43:57 A:125.25.55.43 X:

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่ออกความเห็นครับ ยังมองภาพไม่ชัดเจนถึงด้านลบของนโยบาย ประชานิยมว่ามีผลกระทบขนาดไหน ถ้า พรรคไทยรักไทย ได้บริหารต่ออีก 4 ปี ภาพด้านบวกและด้านลบคงชัดเจนให้เปรียบเทียบ   พอเกิดรัฐประหาร การต่อเนื่องของนโยบายนี้สดุดลง  เลยต้องมานับหนึ่งใหม่กันอีก จากคุณ : tabset เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:07:19 A:125.24.125.13 X:

ความคิดเห็นที่ 31 คห 28  คุณรักจริงหวังแต่ง กระทู้นี้นอกจากจะอยากทราบผลโหวตแล้ว ยังต้องการทราบความคิดเห็นประกอบการโหวตด้วยค่ะ และความคิดเห็นที่สนใจมาก คือ ความคิดเห็นที่มองในมุมที่ต่างออกไป ไม่ใช่ตั้งใจจะไล่บี้หรืออย่างไร เชื่อว่าคนที่มีความคิดไม่สนับสนุนนโยบายประชานิยมมีอยู่ไม่น้อย แต่คนที่จะเข้ามาตอบว่าไม่เห็นด้วยเพราะอะไร มีน้อยมาก   ความเห็นต่างของคุณรักจริงฯ จึงเป็นจุดสนใจอย่างช่วยไม่ได้ค่ะ   ก่อนอื่นขอตอบก่อนว่า  ดิฉันแสดงความเห็นไว้ใน คห. 1 แล้วว่า สนับสนุนนโยบายประชานิยมเพราะเหตุใด อ่านหรือยังคะ? อ่านความเห็นเพิ่มเติมของคุณรักจริงฯ  ทำให้เกิดความสงสัยเพิ่มเติม จึงขอเสนอความคิดเห็นของดิฉันเพิ่มเติม ดังนี้ (คุณรักจริงฯ จะตอบหรือไม่ตอบก็ได้ เพราะเป็นความเห็นเพิ่มเติมเท่านั้น) 1. การบริหารประเทศ ถ้าไม่เน้นให้ประชาชนเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุด แล้วจะให้ใครเป็นผู้ได้รับประโยชน์? ตอบ : ประเทศต้องได้รับประโยชน์ครับ ** เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะว่า การบริหารประเทศ  "ประเทศต้องได้รับประโยชน์" ** แล้วคำว่า "ประเทศ" คืออะไร? เราจะจำกัดความคำว่า "ประเทศ" อย่างไร? ** การเป็น"ประเทศ" จำเป็นต้องมีประชาชนเป็นองค์ประกอบด้วยหรือไม่? ** ถ้าประชาชนในประเทศนั้นไม่ได้รับประโยชน์จากการบริหารงานของรัฐ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า "ประเทศนั้นได้รับประโยชน์จากการบริหารงานของรัฐ" 2. ในเรื่องของรัฐสวัสดิการ ประชาชนจะต้องได้รับประโยชน์ โดยที่รัฐต้องรับผลขาดทุนส่วนหนึ่งที่ไม่มากจนถึงกับทำประเทศล่มจม ถูกต้องหรือไม่? ตอบ : การจะเป็นรัฐสวัสดิการได้ ประเทศต้องพิจารณาจาก contribution rate จากประชาชนครับ ต้องดูว่า ประชาชนได้ "ให้" อะไรแก่รัฐด้วยเช่นกัน ประชาชนให้มาก ก็ได้มาก ประชาชนให้น้อย ก็ได้น้อย แต่ประชาชนต้องเป็นผู้ให้ด้วยครับ รับอย่างเดียวไม่ได้ ! ประสงค์จะออกนาม ไม่ประสงค์จะจ่ายตังค์ แต่ประสงค์จะรับมันลูกเดียว แบบนี้ไม่ได้ ! ในความคิดผม ประเทศไทยยังห่างความเป็นรัฐสวัสดิการอีกเป็นร้อยปีครับ อาจถึงขั้นเป็นไปไม่ได้ ประชาชนเราเสพการเป็น ผู้รับซะจนติดงอมแงมไปหมดแล้ว ภาษีก็ไม่จ่าย ไม่อยากจ่าย แต่อยากให้บ้านเมืองเจริญ อยากมีเงินใช้ มันเป็นไปไม่ได้ มันไม่ตรรกะครับ ** ดิฉันมองว่า ถ้ารัฐบริหารงานแบบนั้น เป็นการแบ่งแยกฐานะชนชั้นของประชาชนในประเทศอย่างเด่นชัดยิ่ง      ใครให้ประโยชน์ต่อรัฐน้อยเอาค่าตอบแทนไปน้อย ใครให้ประโยชน์ต่อรัฐมากเอาค่าตอบแทนไปมาก  ** จะเอาเกณฑ์อะไรเป็นตัวแบ่งว่าประชาชนใดที่ให้อะไรแก่รัฐมากน้อยแค่ไหน  การเสียภาษีหรือ? ภาษีตัวไหนที่จะนำมาคิดคำนวณ?(ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีบุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีสรรพสามิต) ** ดิฉันสงสัยว่า ตัวอย่าง ประชาชนที่มีอาชีพชาวนาปลูกข้าวเลี้ยงคนในประเทศ เขาเป็นคนทำอาชีพที่เหนื่อยยากลำบาก ชาวนาสมควรจะต้องได้รับการดูแลจากรัฐอย่างดีที่สุด ใช่หรือไม่? 3. ทำไมจึงคิดว่า นโยบายประชานิยม ประชาชนจะเป็นฝ่ายรอรับประโยชน์ฝ่ายเดียวทำให้ไม่เกิดการพัฒนาใดๆ?  ขอตัวอย่างประกอบความเห็นของคุณรักจริงฯ ด้วย ตอบ : เพราะมันปิดกั้นโอกาสที่ประชาชนจะเป็นผู้ให้ไงครับ มันเลยเป็นได้แต่ผู้บริโภคนโยบายไงครับ ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรในกระบวนการพัฒนาประเทศชาติเลย ไม่ได้"ให้" อะไรเลย ** การจะพิจารณาว่าประชาชนต้องการจะเป็นผู้ให้ หรือประชาชนต้องการเป็นเพียงผู้รับอย่างเีดียว ขั้นแรกต้องทำให้ประชาชนอยู่ในฐานะที่จะเป็นผู้ให้ ให้ได้ก่อน ** ดิฉันยกตัวอย่าง นโยบายประชานิยมง่ายๆ ที่รัฐจัดสรรงบประมาณลงไปช่วยเหลือประชาชนที่มีฐานะยากไรหรือยังขาดรายได้ที่พอเพียง สักเล็กน้อย      นโยบายส่งเสริมสินค้า OTOP รัฐให้ทุน+หาช่องทางจัดจำหน่าย+ทำโฆษณาสินค้าในแต่ละท้องถิ่น ทำให้สินค้าขายได้ราคาดี ขายได้จำนวนมาก ประชาชนมีรายได้มาจับจ่ายใช้สอย      ทุนการศึกษา 1 อำเภอ / 1 ทุน  เด็กนักเรียนหัวดีเรียนเก่ง ฐานะยากจน เรียนจบปริญญากลับมาทำงานในตำแหน่งงานดีรับเงินเดือนสูงขึ้น มีเงินส่งเสียครอบครัวและตัวเอง ทำให้มีเงินจับจ่ายใช้สอยในตลาด ดิฉันสรุปรวมให้เห็นภาพว่า เมื่อประชาชนได้รับการดูแลส่งเสริมให้มีฐานะดีขึ้น สามารถประกอบอาชีพได้เองหลังจากได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นจากรัฐ เมื่อประชาชนมีฐานะดีขึ้นมีเงินจับจ่ายใช้สอยในตลาด ทำให้ผู้ลงทุนขายของอุปโภคบริโภคขายของได้มากขึ้น มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ทำให้ระบบเศรษฐกิจเติบโตพัฒนา นี่คือความจำเป็นที่รัฐต้องดำเนินนโยบายประชานิยม ดูแลทุกข์สุขของประชาชนให้ทั่วถึง เราจึงต้องเลือกพรรคการเมืองที่ต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกลเข้าไปบริหารประเทศ ไม่ใช่พรรคการเมืองคิดถึงแต่เพียงคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ให้ผลประโยชน์ต่อรัฐในขณะนั้น เท่านั้น   จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:35:49 A:58.8.237.83 X:

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่ชอบก็อย่าไปรับผลประโยชน์จากนโยบายประชานิยมที่เขาสร้างสิครับเขาไม่ได้ตรา กฏหมายมาบังคับให้ไปรับนิ คนเรานี่ก็แปลกปากบอกว่าเกลียด อะไรที่เป็นผลประโยชน์อะไรที่ตัวเองมีส่วนได้เสีย ช๊อบชอบๆ เกลียดเพื่อไทย เกลียดทักษิน แต่ 30 บาทรักษาทุกโรค เอามั๊ย เอา รถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชน นั่งมั๊ย รอนานแค่ใหนก็รอนั่ง เอา จากคุณ : linuxatom (linuxatom) เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:49:38 A:124.122.182.159 X: