 |
คนเสื้อแดง คือใคร ทำไมต้องเสื้อแดง
คนเสื้อแดง คือคนที่มีหัวใจเป็นแดง “ Red Heart” หัวใจเป็นแดง “Red Heart” หมายความอย่างไร
R มาจากคำว่า Rightness หรือ Righteousness หมายถึงความถูกต้อง ,ความชอบธรรม,ความยุติธรรม E มาจากคำว่า Equality หมายถึง ความเท่าเทียมกัน ความเสมอภาคกัน D มาจากคำว่า Democracy หมายถึงความเห็น ความศรัทธาเป็นระบอบประชาธิปไตย คือ เคารพ เชื่อมั่น ในเสียงส่วนใหญ่ หากมีการ ต้องเลือกสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือ แนวทางใด แนวทางหนึ่ง ในสังคม
ดังนั้น คนที่มีหัวใจ เป็น Red Heart หรือ หัวใจเป็นแดง คือคนที่มีจิตและวิญญาณ(ความรู้แจ้งอารมณ์) โดยภาพรวมๆ เป็น ดังนี้คือ
1.รักความถูกต้อง อะไรถูกก็ต้องว่าถูก อะไรผิด ก็ต้องว่าผิด จึงเกลียดการโกหก การบิดเบือน สร้างภาพ
2.รักความชอบธรรม รักความยุติธรรม ถือหลักการว่า ทุกคนต้องอยู่ภายใต้ การบังคับของกฏหมาย เท่าเทียมกัน จึงเกลียดระบบสองมาตรฐานหรือไม่มีมาตรฐาน เช่นพวก:-)ต้องผิด แต่พวกกูต้องไม่ผิด หรือเห็นว่าผิด ก็จะดองเรื่องดองคดีให้ล่าช้าที่สุด ให้ประกันตัวได้ง่ายๆ ดังประโยคที่ว่า พวก:-)ต้องถูกขังลืม แต่พวกกูต้องถูกลืมขัง
3.รักความเท่าเทียม และความเสมอภาค คือเคารพในการเป็นเพื่อนมนุษย์ ว่าทุกคนเกิดมา ไม่ว่าจน หรือรวย หรืออยู่ในสถานะใด ต้องมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เท่าเทียมกัน จึงเกลียดการเล่พรรคเล่นพวก การเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ในหนทางที่ไม่ถูกต้อง จึงเกลียดการเป็นอภิสิทธิ์ชน
4.ศรัทธา ในระบอบประชาธิปไตย ศรัทธาและเคารพ ในการตัดสินใจของคนส่วน ใหญ่ จึงเกลียดวิถึ ทางของการรัฐประหาร ที่คนส่วนน้อย มาทำลายการตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ รวมถึงเกลียดผู้ปฎิบัติการ รวมทั้งผู้ให้การสนับสนุน
5.มีความรัก ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แก่เพื่อนมนุษย์ ด้วยกัน ถือว่ามนุษย์ที่เกิดมา เป็นเพื่อนร่วมโลกที่ร่วมเกิด เจ็บ แก่ ตาย ด้วยกันทั้งนั้น จึงไม่ควรแบ่งชนชั้นกันด้วยฐานะ ความรู้ อาชีพ หรือชาติตระกูล หรืออื่นใด แล้ว “คนเสื้อแดง” ได้เกิดขึ้นมาเมื่อใด
คนที่มีหัวใจ เป็น Red Heart ได้เห็นความไม่ชอบมาพากล เห็นการบิดเบี้ยว ของสังคม และสถาบันหลักต่างๆของประเทศไทย ไม่ว่าสถาบันนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ รวมทั้งองค์กรกลางต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากมีเหตุการณ์ต่างๆที่จะกล่าว ต่อไปนี้ --- หลังจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 (ซึ่งสนับสนุนโดย กลุ่มมาเฟียอำมาตยาธิปไตย) --- หลังการ ยุบพรรคไทยรักไทยโดยคณะบุคคลไม่ กี่คน ทั้งที่พรรคเขามีสมาชิกที่ชื่นชอบ และศรัทธาใน นโยบายทางการเมืองหลายล้านคน ซึ่งหลักการ ในการยุบพรรคการเมือง ไม่สอดคล้องกับระบอบ ประชาธิปไตย --- มีการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่ 2550 ที่ไม่สอดคล้อง กับระบอบประชาธิปไตย ทั้งที่มาของผู้ร่าง และ เนื้อหาในบางมาตรา --- หลังจากการมีการเลือกตั้งตามกฏหมายรัฐธรรมนูญใหม่ พรรคพลังประชาชน ได้รับชนะ มีเสียงข้าง มาก สามารถเป็นรัฐบาล แต่ก็ยังมี ขบวนการคนเสื้อเหลือง ที่ไม่เคารพกติกา ออกมา คัดค้าน จนมีการยึดสนามบิน ยึดทำเนียบ มีการฆ่ากัน ทำร้ายกัน รวมทั้งทั้งทำร้ายผู้รักษากฎหมาย แต่ผู้รักษากฏหมาย รักษาความถูกต้อง กลับไม่สามารถจะดำเนินการใดๆได้ เหมือนกลัวใคร ที่เป็นแบ๊คอัพอยู่เบื้องหลัง
--- หลังจากการตัดสินให้นายกรัฐมนตรีที่ได้รับเลือกตั้งมาด้วยเสียงส่วนใหญ่ ของประชาชน ออกจาก ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยคณะคน ไม่กี่คน ด้วยการเปิดพจนานุกรมตัดสินให้ผิดจากการทำกับข้าวออกทีวี ซึ่งไม่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย --- จากนั้นมีการ ยุบพรรคพลังประชาชน ที่มีเสียงเลือกตั้งมากที่สุด โดยบุคคลไม่กี่คนอีก เพื่อให้พ้นจาก การเป็นแกนนำการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหลักการ ในการยุบพรรคก็ไม่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย --- หลังเห็นระบบความยุติธรรม ในภาคส่วนต่างๆ เป็นสองมาตรฐาน หรือไม่มีมาตรฐานเลย โดยจะให้คุณกับฝ่ายของพวกเผด็จการอำมาตยาธิปไตย และให้โทษกับฝ่ายที่เรียกร้องประชาธิปไตย อย่างชัดแจ้ง --- หลังจากการฟอร์มรัฐบาลใหม่ ที่มีพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำทั้งที่มีเสียงส่วนน้อย ไม่ใช่ เสียงส่วนใหญ่โดยไปฟอร์มรัฐบาลในค่ายทหาร ทั้งที่มีกฎหมายห้ามไว้ และมีการข่มขู่ให้ ส.ส.ซึ่งตอนหาเสียง ได้รับเลือกตั้ง ซึ่งได้ชูนโยบาย ของพรรคพลังประชน ให้ตระบัดสัตย์ย้าย ข้างไปสนับสนุนพรรค ประชาธิปัตย์ โดยการข่มขู่ และเสนอผลประโยชน์ให้ เรียกว่าเป็นการ ซื้อ ส.ส. กลางสภาซึ่งเป็นวงจรอุบาทว์ และการแถลงนโยบาย ก็ไม่ได้มีการแถลงนโยบายในรัฐสภาใดๆทั้งที่กฎหมายรัฐธรรมนูญ กำหนดไว้ แต่ไปแถลงนโยบายที่ กระทรวงต่างประเทศ ซึ่งไม่มีส.ส.ฝ่ายค้าน ได้เข้าประชุมด้วย
จากนั้น การดำเนินการของรัฐบาล ก็ขัดกับนโยบายที่ตนเองประกาศไว้ เช่นบอกว่าเมื่อเป็นรัฐบาล จะลดภาษีเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อให้นำมันถูกลง แต่เมื่อเป็นรัฐบาล กลับไม่ได้ทำ แถมไปขึ้นภาษี สรรพสามิตน้ำมัน เป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำมันแพงขึ้น ทำให้ข้าวของขึ้นราคา เป็นที่เดือดร้อนโดยทั่วไป
ทั้งยังไม่ สามารถตั้งอธิบดีกรมตำรวจได้ เป็นเวลานาน เนื่องจากขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ พร้อมทั้ง ละเลยการปราบยาเสพติด ปราบปรามอบายมุขใต้ดิน สิ่งผิดกฎหมายต่างๆจึงเฟื่องฟู มีการกู้เงินมหาศาล และนำมาโกงกันในโครงการต่างๆ โดยที่ประชาชนไม่ได้ผลประโยชน์ เป็นที่รู้กันโดยทั่วไป แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ
คนที่หัวใจเป็นแดง จึงได้เริ่มทะยอย รวมกลุ่มแสดงตัว ร่วมทำกิจกรรม ต่อต้านองค์กรของพวกเผด็จการ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามต่อมสำนึก ของการต่อสู้ของแต่ละคน ตามวันเวลา และเหตุการณ์ที่ผ่านไป ในระยะแรก ยังเป็นการใส่เสื้อหลากสีอยู่ จนกระทั่ง จะมีการลงมติ ให้รับหรือไม่รับ รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ก็มีผู้เสนอ ให้ผู้ที่จะไม่รับรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ ให้ใส่เสื้อแดงเป็น สัญลักษณ์ หลังจากนั้น คนที่มีหัวใจเป็นแดง ก็นำเสื้อสีแดงมาใส่ในการรวมกลุ่มทำกิจกรรม จนเป็นที่แพร่หลาย จนเป็นสัญลักษณ์ และเรียกตนเอง ว่า คนเสื้อแดง หมายถึงว่าเป็นกลุ่มคน ที่พร้อมเจ็บ พร้อมตาย ในการต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
แต่ด้วยที่คนเสื้อแดงมีหลากหลายกลุ่ม หลายอุดมการณ์ จึงได้เรียกกลุ่มของตนเองในภาพรวมว่า “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” และเรียกชื่อย่อว่า “นปช.” โดยจะมี ชื่อกลุ่มของตนเองต่อท้าย เช่น นปช.กลุ่มแดงสยาม, นปช.กลุ่มแดงทั้งแผ่นดิน , นปช.กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย , นปช. กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ , นปช. กลุ่มอาทิตย์สีแดง..ฯลฯ นอกจากนี้ ก็มี นปช.กลุ่มคนเสื้อแดงตามจังหวัดต่างๆ เช่น นปช.กลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี , นปช.กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น, นปช. กลุ่มรักเชียงใหม่ 51..ฯลฯ และที่ต่างประเทศ ก็มีมากมาย เช่น นปช.กลุ่ม Red in Japan, นปช.กลุ่ม Red usa , นปช.กลุ่ม Thai Red Australia , นปช.กลุ่มThai Red Germany ... ฯลฯ
และเมื่อ 14 มีนาคม 2553 โดยการนำของ นปช.กลุ่มแดงทั้งแผ่นดิน คนที่มีหัวใจเป็นแดง ได้สวมเสื้อสีแดง ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เป็นจำนวนมากเป็นประวัติศาตร์ ของเมืองไทย ให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจแก่ประชาชน ซึ่งถือว่า นี่คือวิถีทางปรองดอง ของประเทศ ในแนวทางประชาธิปไตย ซึ่งประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ถือว่าเป็นวิถีทางเป็นปกติ ที่ทำกันอยู่
แต่รัฐบาลของ นายอภิสิทธื์ กลับให้ทหารเข้าทำร้าย ด้วยการสลายการชุมนุม ด้วยอาวุธสงคราม ซึ่งผิดหน้าที่ ผิดจรรยาบรรณของทหาร(เพราะหน้าที่ของทหาร คือการเข้าปราบปราบ พวกที่จะมายีดแผ่นดินยึดประเทศ พวกขบวนค้ายาเสพติด พวกตัดไม้ทำลายป่าที่มีกองกำลัง คุ้มกัน และถือหลักว่าจะไม่ทำร้ายผู้ที่ไม่ถืออาวุธ ประชาชนโดยทั่วไป) ซึ่งคนเสื้อแดงมาเรียกร้องนี้ มาตามวิถีทางของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติไว้ให้ทำได้ ซึ่ง ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ไร้อาวุธ เสียชีวิตร่วมร้อยศพ (ทั้งการยิงประชาชนมือเปล่า ในวัด ซึ่งเป็นเขตอภัยทาน ) และบาดเจ็บร่วมสองพันคนตามคลิ๊ป วิดิโอที่เผยแพร่ โดยทั่วไป หากท่านยังไม่เคยชมให้ท่านเข้าไปยังเวบไซด์ http://www.thaiaccountability.org/?lang=t
รวมทั้งใส่ร้ายว่าผู้ร่วมชุมนุมเหล่านี้ คือผู้ก่อการร้าย พวกก่อความวุ่นวาย เผาบ้านเผาเมือง (ขอให้ท่านลำดับเหตุการณ์ว่า ทหารเข้าล้อมปราบ ฆ่าประชาชนนี้ เกิดก่อน เหตุการณ์เผาศูนย์การค้า และศาลากลางจังหวัด โดยทหารได้เริ่มฆ่าประชาชน มือเปล่าไร้อาวุธ ที่ชุมนุมโดนสงบ มาตั้งแต่ วันที่ 10 เมษายน 2553 และเริ่มฆ่าอีกครั้ง ตั้งแต่ วันที่ 13 พฤษภาคม 2553 ศพแล้วศพเล่า เรื่อยมา และรุนแรงที่สุด วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 โดยทหาร เอาสิทธิ์อะไรไปฆ่าประชาชน มือเปล่า เพราะคนเรามีสิทธิ์ตายได้ ต้องด้วยสาเหตุโรคภัยไข้เจ็บ ชรา วิสามัญฆาตกรรมที่สมควรแก่เหตุ หรือการตัดสินของศาล ให้ประหารชีวิต ด้วยคดีที่ถึงที่สุดแล้ว และฎีกาขอประราชทานอภัยโทษถูกยก เท่านั้น)
ซึ่งแกนนำ ได้กล่าวยุติ สลายการชุมนุม และเข้ามอบตัว ตั้งแต่ช่วงบ่ายโมง ผู้ชุมนุมที่อยู่ต่างจังหวัดกลับบ้านไม่ได้ ต่างหลบเข้าไปอยู่ในวัดปทุมวนาราม http://www.youtube.com/watch?v=9LglHnb8S1w จากนี้ สถานที่ชุมนุม ก็อยู่ในการควบคุมของทหารหมดแล้ว รวมทั้งสถานที่ราชการต่างจังหวัด ก็อยู่ในการดูแลของตำรวจ แต่ทว่าเหตุการณ์ การเผาสถานที่ต่างๆนั้น กลับถูกเผา ในตอนเย็น แต่ปัจจุบันนี้ หลักฐานต่างๆเริ่มทยอยออกมาแล้วว่า การเผาสถานที่ต่างๆเหล่านี้ ต่างก็มีเงื่อนงำ ดูได้จาก
http://www.youtube.com/watch?v=S20vQYLT0Sw
http://board.banrasdr.com/showthread.php?tid=10464
แต่เหตุการณ์เหล่านี้ หาได้สยบคนเสื้อแดงไม่ กลับทำให้เกิดคนเสื้อแดงเพิ่มขึ้นอีกมากมาย และรวมกลุ่มกันอย่างหนาแน่น ร่วมทำกิจกรรมร่วมกันทั่วประเทศ ทุกวันที่ 10 และ 19 ได้จัดมีกิจกรรมร่วมกันรำลึก ถึงผู้เสียชีวิต และจะมีการนำผ้าแดง มาผูกโยงใย เป็นใยแมลงมุม เป็นสัญญลักษณ์ว่า คนเสื้อแดง จะยึดโยงสามัคคีกัน เพื่อต่อสู้กับความชั่วร้าย ของพวกเผด็จการอำมาตยาธิปไตย ที่พยายามครอบงำประเทศไทยอยู่ โดย
--เข้ามาแทรกแซงขบวนการยุติธรรมต่างๆ ให้บิดเบี้ยว สามารถให้คุณกับฝ่ายตนเอง ให้โทษ กับ ฝ่ายประชาธิปไตย อย่างชัดแจ้ง --แทรกแซงทหารให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง มาทำรัฐประหารรัฐบาล ที่เลือกมาด้วยเสียงส่วนใหญ่ ของประชาชน --สร้างบรรทัดฐาน ให้อำนาจตุลาการ ก้าวเลย มามีอำนาจเหนือ อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจบริหาร ด้วย ขบวนการตุลาการภิวัฒน์ --หลังรัฐประหาร สร้างกฎหมายใหม่ ให้รัฐบาลของประชาชน ไม่สามารถ เข้าไปควบคุมหรือย้ายทหารได้ กลายเป็นรัฐซ้อนรัฐ แล้วจะมีการตรวจสอบ และลงโทษเรื่องทุจริตของทหารได้อย่างไร --สนับสนุนนักการเมืองที่ชั่วร้าย เข้ามาบริหารประเทศ ด้วยวิธีการไม่เป็นประชาธิปไตย หลายครั้งหลาย คราจนเป็นเหตุให้ มีการคอรัปชั่น อย่างมากมาย จะทำผิดอย่างไร ก็จะไม่ถูกดำเนินคดี หรือดึงคดีให้ ล่าช้า ให้คดีขาดอายุความ ดังที่ท่านเห็นอยู่ คดีต่างๆจะไปค้างเติ่งอยู่ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บางคดีก็ สิ้นสุด แบบผู้คนงงไปทั้งเมือง ซึ่งในหน่วยงานต่างๆเหล่านี้ ต่างมีคนของเขาเข้าไปอยู่ทั้งนั้น บ้านเมือง เสียหาย เสียเครดิตอย่างหนัก จากการสั่งล้อมปราบประชาชนที่มาชุมนุมทางการเมือง สร้างศัตรู กับ เพื่อนบ้านรอบทิศ ทำให้ประเทศไทยจากประเทศที่เคยจะเป็นเสือตัวที่ห้า กลับมาเป็นตัวตลกแห่งอาเซียน ภายหลังจากการรัฐประหาร พ.ศ.2549 และภายใต้การบริหารของรัฐบาลฝ่ายเผด็จการอำมาตยาธิปไตย
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 18:04:39
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 09:11:05
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 08:59:37
จากคุณ |
:
ตุ๊ดตู่สวน
|
เขียนเมื่อ |
:
20 เม.ย. 55 08:58:41
A:49.49.103.97 X:
|
|
|
|
 |