 |
บัฟฟาโล่เอ๊ยยยยย....
วอลเปเปอร์พูดเรื่องรถไฟความเร็วสูง ผมถามจริงๆเถอะ มันมีความรู้เรื่องรถไฟความเร็วสูงหรือเปล่า ???
หรือแม้แต่รถไฟธรรมดาๆมันเคยนั่งหรือเปล่า ???
ที่สำคัญ พรรคแมงสาปอยู่มา 60 กว่าปี ร่วมรัฐบาลมาแทบทุกยุค ทุกสมัย ทำไมไม่ผลักดันให้มันเป็นรูปธรรมมาซะตั้งนานแล้วละ ???
พอปูมันตั้งท่าจะทำงาน ก็มาตีสำนวนโวหารด่าเขาซะอย่างงั้น
การบริหารการรถไฟ มันไม่ง่ายหรอกนะครับ หากเรายังมีนักการเมือง, สหภาพ รฟท. และ ผู้บริหารที่มือไม่ถึง
สหภาพคือแหล่งรวมไดโนเสาร์ ทีมีผลประโยชน์แอบแฝงในแง่ของการเมือง
ในอนาคตอีกไม่นานนี้ คาดว่า Unesco จะประกาศให้ รฟท. เป็นมรดกโลกที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ครับ
ผมเป็นคนรักรถไฟ หลงเสน่ห์รถไฟ นั่งมาหัวเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
นั่งตั้งแต่หัวลำโพง ทะลุไปยัน KL ข้ามฝั่งเข้าไปสิงคโปร์มาแล้วหลายรอบ พอไปเปรียบเทียบกับม้าเหล็กของเพื่อนบ้านแล้วน้อยใจครับ
น้อยใจที่เมืองไทยมีนักการเมือง และ สหภาพฯ ที่แสนห่วย
การ "แปรรูป" มันไม่ง่ายหรอกครับ ตราบใดที่ยังมีสหภาพ เพราะนั่นคือ "กำแพง" มหึมา
ถ้ามันง่ายจริงๆป่านนี้รัฐบาลก่อนหน้านี้เขาคงทำกันไปแล้ว
อินเดียเคยมรีรถไฟที่ห่วยในระดับตำนาน แต่เขากัดฟันกลืนเลือด ยอมเจ็บครั้งเดียว เขาฮึดแปรรูป จัดการบริหารเสียใหม่
จนตอนนี้รถไฟเมืองโรตีสามารถทำกำไร และเริ่มมีชื่อเสียงในการให้บริการแล้ว
ในบางสาย เช่น สาย"ราชธานี" คุณจะต้องจองกันเหงือกบวมกว่าจะได้นั่ง
ของไทยเรายังไม่มีอะไรเปลี่ยนครับ ยำเนื้อ และ ข้าวผัดรถไฟที่แสนชืด ยังเป็นเมนูนิยม
ส่วนรถไฟเมืองผู้ดีก็ใช่ย่อย
สมัยที่ "นางสิงห์เหล็ก" มากาเร็ต แธ็ทเชอร์ เป็นใหญ่ที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิ่ง นางได้กระทำการในแบบที่ชายอกสามศอกยังต้องอาย
แธ็ทเชอร์สั่งแปรรูปกิจการที่ล้าหลัง เป็นไขมันถ่วงประเทศ สหภาพก็สหภาพเถอะ... มาเจอนางสิงห์เหล็กเข้า ห ง อ ห ม ด ล า ย ไ ป เ ล ย !!!!!!!!!!!!
แต่ที่ประเทศสารขัณฑ์ที่รักของเรา หากคุณคิดจะแปรรูปการรถไฟแล้วละก็ คุณจะเจอข้อหา "ขายชาติ" ในทันที
บรรดาแกนนำสหภาพไดโนเสาร์ทั้งหลาย จะประสานเสียงกันว่า "นี่คือสมบัติของ ร.5"
แต่พวกมันคงลืมไปว่า พระองค์ท่านคงไม่มีพระประสงค์ให้เราย่ำอยู่กับที่แน่ๆ
เรามีขนส่งระบบรางเป็นประเทศในลำดับต้นๆของเอเชีย แต่ผ่านไปร้อยปี ชาวบ้านเขาไปถึงไหนแล้ว ส่วนเรากลับถอยหลังเข้าคลอง การแปรรูปไม่ได้หมายถึงการขายกิจการให้เอกชนไปทั้งหมด 100% แต่เป็นการจัดการระบบการบริหารให้พ้นจากการทำงานเช้าชามเย็นชาม
แปรรูปแล้วรัฐอาจมีสัดส่วนในการถือหุ้นเท่าไรก็ว่ากันไป รัฐจะถือเท่าไร ,เอกชนจะผ้าป่าสามัคคีอีกเท่าไร..มันมีสัดส่วนอยู่ครับ
ที่ไหนๆเขาก็ให้ความสำคัญกับขนส่งระบบรางทั้งนั้น เพราะสามารถขนคนเดินทางได้จำนวนทีละมากๆ และช่วยลดภาระการนำเข้าน้ำมันของชาติได้
ยังไม่ต้องคิดถึง "รถไฟความเร็วสูง" หรอกครับ เอาแค่รถไฟที่เรามีอยู่วิ่งเข้า-ออกให้ตรงเวลาก่อนก็พอ เพราะรถไฟความเร็วสูงนั้นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก แต่ผมก็เชื่อว่าหากเปิดให้เอกชนมาลงทุน ก็มีคนเอาแน่นอน
แหมมม...บ้านเมืองอื่นเขาสร้างกันโครมๆ แล้วบริหารกันกำไรจนสะดือบวม เอกชนเขาไม่โง่ลงทุนในโครงการที่มองแล้วจะเจ๊งหรอกครับ
เราอาจจะกำหนดไปเลยว่า เขาต้องจ่ายค่าเวนคืน ค่าวางราง วางระบบ ค่าขบวนรถ โดยเขาจะได้สัมปทานกี่ปี เมื่อครบระยะสัมปทานแล้วก็จะตกเป็นของรัฐโดยอัติโนมัติ
ส่วนวิธีกำหนดค่าโดยสาร ก็อาจต้องโยงไปถึงตัวสัมปทานเพื่อจูงใจเอกชน
โดยหลักการให้สัมปทานก็ต้องเปลี่ยนใหม่... วิธีคิดแบบเก่าต้องเลิกให้หมด...คิดใหม่ซะบ้าง
จากที่รัฐเคยคิดแต่ว่า "ใครจ่ายสัมปทานให้รัฐสูงสุด ก็จะได้ดำเนินกิจการ" เปลี่ยนเป็น "ใครให้ผลประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ก็จะได้สัมปทาน"
ผลประโยชน์สูงสุดที่ว่า ก็คือราคาค่าโดยสารที่ประชาชนรับได้ครับ
ส่วนเรื่องค่าโดยสารที่ว่ากันว่าแพงไปจะไม่มีคนขึ้น อันนั้นผมมองว่าไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ เพราะรถไฟปกติก็ยังมีอยู่ รถไฟความเร็วสูงคุณจะเอามาวิ่งบนรางปกติไม่ได้อยู่แล้ว มันจะต้องเวนคืน และวางราง วางระบบใหม่ กันทั้งหมด
การวางรางจะต้อง "ตรง" ให้มากที่สุด เพื่อที่รถไฟจะได้ใช้ความเร็วได้อย่างเต็มที่ ทางโค้ง จุดตัดกับรถยนต์ จะต้องมีให้น้อยที่สุด อาจต้องทำสะพานข้าม หรือทำอุโมงค์ลอดก็ต้องทำ
ที่สำคัญรถไฟความเร็วสูงไม่ได้จอดบ่อยครับ จาก กทม.อาจไปจอดนครสวรรค์ พิษณุโลก อุตรดิถต์ ลำปาง แล้วเชียงใหม่เลย
ส่วนรถไฟปกติก็ทำให้มันตรงเวลา คนที่เบี้ยน้อยหอยน้อยก็ยังได้ใช้บริการอยู่
ที่ญี่ปุ่นเคยมีกรณีเกิดอุบัติเหตุทาวรถไฟ สาเหตุเพราะรถไฟขบวนดังกล่าวเกิดการล่าช้าไปประมาณ 5 วินาที
แม่นแล้วครับ...คุณๆอ่านไม่ผิดหรอก...5 วินาที
คนขับเห็นดังนั้นเลยเร่งความเร็วเพื่อชดเชย 5 วินาทีที่เสียไป จนรถเกิดการเหวี่ยงตัวในช่วงที่เข้าโค้งและเกิดอุบัติเหตุ เหตุครั้งนี้ทำให้ผู้ว่ารถไฟ และ รมต.ที่ดูแลลาออกจากตำแหน่งครับ
นักการเมืองไทยเห็นข่าวนี้แล้วหัวเราะกันใหญ่ ค่าที่ว่านักการเมืองญี่ปุ่นทำไมหน้าบางกันเหลือเกิน
ยังไม่นับกรณีของ สส. และ สว. ที่สภาฯให้สิทธิ์ในการใช้บริการรถไฟ ในการกลับภูมิลำเนาเพื่อลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่
แต่ พณ หัวเจ้าท่านเหล่านี้ก็แทบไม่เคยมาใช้บริการรถไฟเลย ส่วนใหญ่จะนั่งกันแต่เครื่องบิน เพราะสภาจ่ายค่าตั๋วให้คนเหล่านั้นครับ
เมื่อไม่เคยมาสัมผัสรถไฟ แล้วมันจะเข้าใจคนใช้รถไฟได้อย่างไร ???
แต่ไม่ว่าจะค่าตั๋วรถไฟ หรือ เครื่องบิน นั่นก็คือเงินภาษีของคุณๆที่รักทั้งหลายครับ
กลับมาที่รถไฟความเร็วสูง ใครที่มีเงินแต่ไม่อยากนั่งเครื่องบินก็นั่งรถไฟความเร็วสูงซะ
หาก กทม.-เชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ผมว่าคงมีหลายคนเปลี่ยนจากเครื่องบินมานั่งรถไฟ
เพราะเครื่องบินอาจจะใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แต่หากรวมเวลาที่คุณต้องออกจากบ้านไปสนามบิน ไปเช็คอินก่อนเวลาตามที่สายการบินกำหนด มันก็ถึงไม่ต่างกันเท่าไร
แต่รถไฟนั้นพาคุณเข้าไปถึงในเมืองเลย ในขณะที่สนามบินจะอยู่นอกเมืองทุกสนามบิน รวมเวลาแล้ว ผมว่าสูสีกันมากจริงๆ
แต่ก็นั่นแหละ...สหภาพมันไม่ยอมหรอก
ยกตัวอย่างกรณีที่ทุกวันนี้ รฟท.ให้เอกชนมาสัมปทานเดินรถในบางสาย เขาต้องจ่ายค่าสัมปทานให้รัฐ และต้องมีค่าประกอบการต่างๆ แต่ทำไมรถด่วนพิเศษของเอกชนถึงสามารถทำกำไรได้ แถมยังมีอาหาร ของว่าง ผ้าเย็น เสิร์ฟอีกต่างหากด้วย
ส่วนรถในสายอื่นๆที่ดำเนินการโดย รฟท.กลับบอกว่าขาดทุน
เอาหัวแม่ทีนคิดก็คงพอมองออกกันนะครับ..ไม่ต้องถึงขนาดสมองหรอก..
ทุกครั้งที่สหภาพประท้วง ผมชอบสนับสนุนการประท้วงของสหภาพครับ เพราะเป็นโอกาสอันดีที่รัฐจะ "ไล่ออก" ให้หมด
ถือโอกาสนี้เอาเหลือบพวกนี้ไปให้พ้นๆซะเลย แล้วสังคายนาการรถไฟเสียใหม่ทั้งหมด
ยิ่งหากคุณๆได้รู้เห็นว่าคนอย่างอดีตแกนนำสหภาพบางคน ว่าร่ำรวย ล่ำซำ ขนาดไหนแล้ว...หึหึหึ...คุณๆคงหายสงสัยเลย ว่าทำไมพวกนี้ถึงไม่ยอมให้มีการแปรรูปการรถไฟแห่งประเทศสารขัณฑ์
นักการเมืองอกสามศอกของบ้านเรา หากทำไม่ได้ ก็กรุณาอายผู้หญิงอย่างมากาเร็ต แธ็ทเชอร์ บ้างเถอะครับ !!!!!
เสียดายภาษีที่จ่ายไปทุกเดือนจริงๆ......ฮ่วยยยย...
แม้มันจะแย่แค่ไหน ผมก็ยังรักรถไฟไทย แต่ขอสาปส่ง ผู้บริหาร ,นักการเมือง และ สหภาพฯ
นักการเมืองอย่าง "วอลเปเปอร์" นั้น ควรที่จะต้องย้อนไปตั้งคำถามในพรรคของตนเอง ว่าที่ผ่านๆมานั้นเป็นทั้งแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมาตั้ง 3 สมัย แถมยังได้เปฌนพรรคร่วมรัฐบาลมาหลายต่อหลาย ครม.
แล้วมัวแต่ทำอะไรอยู่ ถึงไม่ลงมือทำให้เห็นเป็นรูปธรรม
พอพรรคใหม่ๆอายุงานไม่มากอย่างพรรค "เพื่อแม้ว" มาลงมือทำ ถึงขั้นอิจฉาตาร้อน ออกมาเล่นงานปู ในแบบที่ตัวเองก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องรถไฟจริงๆ
โถ.....แมงสาป.....
จากคุณ |
:
ตุ้ม (Toom McCartney)
|
เขียนเมื่อ |
:
20 เม.ย. 55 15:55:22
A:180.183.116.182 X:
|
|
|
|
 |