ความคิดเห็นที่ 1 ....จากราชวงศ์เซี่ย ซัง ฉิน ฮั่น เว่ย จิ้น สุย ถัง ซุ่ง หยวน หมิง มาถึงราชวงศ์ชิง  อันเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีน จากราชวงศ์พระร่วง  อู่ทอง  สุพรรณภูมิ  กลับมาอู่ทอง กลับไปราชวงศ์สุพรรณภูมิ กลับไปราชวงศ์สุโขทัย  แล้วต่อมาคือราชวงศ์ปราสาททอง ราชวงศ์บ้านพลูหลวง แล้วมาราชวงศ์จักรี เรื่องราวในยุทธจักรของพงศาวดาร " จีน "  ตลอดเวลาต่างเต็มไปด้วยการช่วงชิงอำนาจ     ไม่มีว่างเว้นการแสวงหาอำนาจ  ไม่ว่าจะทางลับหรือทางแจ้ง คำว่า " ไร้พิษ ไม่ใช่ชาย "   " การศึกไม่เบื่อหน่ายกลอุบาย " ต่างยังดำรง คงอยู่ หรือแม้แต่วรรคทองของโจโฉที่ว่า " ข้าไม่ฆ่ามัน  มันก็ฆ่าข้า  ผิดตรงไหน ? " จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:55:50 A:118.172.66.129 X:

ความคิดเห็นที่ 2 อดีตกาลอันยาวนานที่ผ่านมา การศึกไม่ได้ชิงกันเพียงด้วยกำลัง ไม่เช่นนั้นลิโป้คงเป็นใหญ่ในแผ่นดินไปแล้ว จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:57:21 A:118.172.66.129 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ในกระบี่เย้ยยุทธจักร ห้าสำนักกระบี่ อันประกอบด้วย ฮ่วงซัว ฮั้วซัว ซงซัว เห็งซัว ไท้ซัว   รวมกันเป็นสหพันธ์ ฉากหน้า แม้ " ปรองดอง " แต่ในจิตใจ ต่างมุ่งหวังที่จะเป็นใหญ่และกลืนกินสำนักต่างๆที่เหลือเพื่อสยบไว้ใต้อำนาจ   ตามสำนวนกำลังภายในยุคชอบราเดอร์ที่ว่า " ใครตามข้ายัง ใครขวางข้าตาย " จ้อแนเซี้ยง แห่งซงซัว  งักปุกคุ้ง แห่ง ฮั้วซัว   คนเหล่านี้ต่างไม่เลือกวิธีที่จะได้มาซึ้งอำนาจ  จนถึงกับยอม " ตอน " อวัยวะ ตัวเอง เพื่อฝึกปรือ สุดยอดคัมภีร์  กระบี่พิชิตมาร ที่จารึกในผ้ากาสาวพัตร์ เล้าเจี่ยฮวง เค๊กเอี๊ย หนึ่งพิณหนึ่งขลุ่ย ร่วมกันบรรเลง บทเพลง " ยิ้มเย้ยยุทธจักร "   คนทั้งสอง หนึ่งธรรมะ หนึ่งอธรรม เพราะมีใจ " ปรองดอง " จึงเลือกที่จะขอถอนตัวออกจากยุทธจักร  บุณคุณ ความแค้น นับแต่นี้ไม่ถามหา  ชืดชาชื่อเสียงจอมปลอมในบู๊ลิ้ม   ด้วยสายตาที่มองการณ์ไกล เห็นว่าการปรองดองนี้ ต้องได้พบกับอุปสรรค  เล้าเจี่ยฮวงและเค๊กเอี๊ย เลือกที่จะถอนตัวเอง  ออกจากวังวน  ไม่ลากครอบครัวญาติพี่น้องลูกเมียหลานเหลนเข้าสู่ปลักตมที่ผ่านมา ปัญหามันไม่ใช่อยู่ที่ว่า  คนทั้งสองคบหากันแล้ว ปัญหามันจะจบ ? สุดท้าย คนทั้งสองก็ตกตายอย่างอนาจ  ด้วยสาเหตุที่ว่า ต่างคนต่างมี " คุณธรรมน้ำมิตร "  กับสหาย แต่ลืมไปว่า ในประวัติศาสตร์ ที่ฝ่ายมา  ไม่เคยมี ที่ศัตรูจะมี คุณธรรม ต่อศัตรู จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:04:53 A:118.172.66.129 X:

ความคิดเห็นที่ 4 รัฐ วุยก๊กหรือก๊กเว่ย จ๊กก๊กหรือก๊กสู่  ง่อก๊กหรือก๊กหวู ไม่ใช่อยู่ในสภาวะ ต่างคนต่างอยู่ ไม่ว่าจะในใจลึกๆหรือในใจตื้นๆ ต่างอ่านกันออกว่า ต่างฝ่ายต่างพยายาม ที่จะรุกรานอีกฝ่าย     การสะสมกองกำลังพลนายกองขุนศึกฝ่ายบู๊   ควบคู่  " เข้มข้น " ไปกับการสะสมกุนซือเสนาธิการฝ่ายบุ๋น ยกตัวอย่าง เล่าปี่บากหน้าไปกราบขอพบ ขงเบ้งถึงสามครั้ง  เพื่อที่จะเติมเต็มความคิดการณ์เป็นใหญ่ในวันข้างหน้า เล่าปี่สำนึกว่าตนนั้นด้อยสติปัญญาพยายามหาผู้มีสติปัญญามาเป็นกุนซือ เพราะรู้ว่าการมีสามทหารเอก กวนอู เตียวหุย จูล่ง ไม่เพียงพอกับการตั้งตัวเป็นใหญ่ เขายังขาดมันสมองใหญ่ในการกำหนดแผนรบและครองแผ่นดิน เขาแตกต่างจากโจโฉที่มีความสามารถในการรบและการวางแผนรบด้วยตัวเองได้ ขณะที่เล่าปี่ไม่มีในสิ่งที่โจโฉมี จึงต้องหาคนมากระทำการแทน การเพียรพยายามไปเยือนกระท่อมหญ้าของขงเบ้งที่เขาโงลังกั๋งถึง 3 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับกุนซืออย่างมาก เพราะก่อนหน้าเขาเห็นว่าการรบอย่างมีแผน กับการรบอย่างไร้แผนนั้น ผลลัพธ์แตกต่างกันอย่างไร แม้แต่ชีซีและสุมาเต็กโช ยังให้การยกย่องขงเบ้งอย่างสูง ซึ่งขงเบ้งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง  งานแรกที่สนอง คือเสี้ยมให้เล่าปี่ ยึดเกงจิ๋วของเล่าเปียว ญาติเล่าปี่นั้นเอง  ( ฮา ) จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:12:22 A:118.172.66.129 X:

ความคิดเห็นที่ 5 " ข้าจะทรยศคนทั้งโลกก็ได้ แต่ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทรยศข้าแม้แต่คนเดียว " - โจโฉ ดังนั้น เมื่อโจโฉได้ยินเพื่อนจะทำอาหารให้ นึกว่าจะมาฆ่าตัวเอง เลยชิงตัดหน้าฆ่าทั้งครอบครัวของเพื่อนซี๊  สมญานาม " นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา "  น่าจะเป็นความจริง และนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิด อิอิ.. เหมือนกรุงธนบุรี  ถูกเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แว๊กกกก .. จากคุณ : มารร้ายวัวน้อย เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:14:17 A:171.7.220.17 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ....จากราชวงศ์เซี่ย ซัง ฉิน ฮั่น เว่ย จิ้น สุย ถัง ซุ่ง หยวน หมิง มาถึงราชวงศ์ชิง  อันเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีน จากราชวงศ์พระร่วง  อู่ทอง  สุพรรณภูมิ  กลับมาอู่ทอง กลับไปราชวงศ์สุพรรณภูมิ กลับไปราชวงศ์สุโขทัย  แล้วต่อมาคือราชวงศ์ปราสาททอง ราชวงศ์บ้านพลูหลวง แล้วมาราชวงศ์จักรี เรื่องราวในยุทธจักรของพงศาวดาร " จีน "  ตลอดเวลาต่างเต็มไปด้วยการช่วงชิงอำนาจ   อดีตกาลอันยาวนานที่ผ่านมา   ไม่ว่าจะเป็นลูกหักพ่อ พี่แย่งน้อง อาชิงหลาน เมียยึดอำนาจผัว แม่บงการลูก มเหสีฆ่านางสนม  มีให้เห็น มีให้อ่านให้ศึกษากันอย่างไม่รู้จักจบ  จักสิ้น ที่สำคัญ อ่านแล้วดันจะเอาเป็นเยี่ยงเป็นอย่าง เอามาเลียนแบบเสียอีกพวกนักการเมือง การทหาร ทั้งหัวหงอก หัวดำ  ( ฮา ) ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ทั้งตงฟานปุป้ายและท่านผู้นำอ้อก๊ก สืบสาวบรรพบุรุษขึ้นไปแล้ว ไม่ปรากฏว่า เป็นญาติพี่น้องกัน แต่อย่างใดเลย แต่เป็นศัตรูกันครับ       ที่กำลัง รบกันด้วย  อุบาย............ ................... ขอน้อมคารวะครับ   พี่ๆทุกๆท่านที่นับถือเสมอมาครับ จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:17:34 A:118.172.66.129 X:

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีครับคุณอาร์ต กระบี่เย้ยยุทธจักร เป็นเรื่องที่ผมอ่านน่าจะเกินสิบรอบ ตัวละครในเรื่อง  ท่านกิมย้งบอกว่า  เป็นตัวแทนของนักการเมืองทั้งนั้น ซึ่งมันก็จริง  บทบาทของแต่ละคนๆ  ถ้าเอาไปสวมให้นักการเมืองหรือพวกข้าราชการระดับสูงๆ   "เป๊ะ" ที่ฮิตสุดคือ  งักปุ๊กคุ้ง วิญญูชนจอมปลอม    ที่ บุคลิกดูดีมีสกุล พูดจามีหลักการน่าเชื่อถือ  ที่ไหนได้ กลับ"ดีแต่พูด"  (เหมือนใครหว่า  ฮาาาา )   งักปุ๊กคุ้งกลับเป็นตัวร้ายที่สุด  ทั้งขโมยคัมภีร์ ใส่ร้ายลูกศิษย์  ฆ่าลูกศิษย์ตัวเอง  ฯลฯ เรื่องนี้  สะท้อนการเมืองให้เห็นชัด ว่า ไม่ว่าอย่างไร  คนเราก็หลีกเลี่ยง  คำว่า  แก่งแย่งชิงอำนาจไม่พ้นครับ... "ยอดยุทธยอมสละเพื่อทุกสิ่งช่วงชิงความเป็นใหญ่ ตั้งแต่โบราณถึงปัจจุบันเหล่าจอมยุทธต้องห้ำหั่นเพราะคำว่าอำนาจ สุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดได้ครอบครองอำนาจที่แท้จริง สิ่งเที่ยงแท้คือความไม่เที่ยง ครอบครองความยิ่งใหญ่สุดท้ายก็เหลือเพียง ความว่างเปล่า อำนาจทำให้มนุษย์เสียสติ แต่ไหนแต่ไรจะมีคนสักกี่คนที่ปลงทุกสิ่ง ให้อิสระแก่ตนเอง และยิ้มเย้ยยุทธจักร" ปล.  อย่างไรก็ตาม  ในยุทธภพทอแลแลนด์ ขณะนี้  ผมก็ยังเอาใจช่วย อ้อก๊กอยู่ครับ จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:22:07 A:113.53.45.153 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ขอน้อมคารวะครับ ท่าน มารร้ายวัวน้อย   ที่นับถือ   เสียงร้อง หรือเสียงหัวเราะ ของพี่ท่าน ที่ร้องว่า  แว๊กกกก .. นี้ ผู้น้อยพึ่งจะเคยได้ยิน นับว่าเป็นที่แปลกหู แปลกตาอย่างยิ่งครับ ( อมยิ้ม ) ด้วยที่ผ่านมา เคยได้ยินแต่เสียงหัวเราะของนางเอกที่ หัวเราะว่า  คิกคิก ส่วนฝ่ายมารจะหัวเราะว่า เหอ เหอ   ส่วนหัวเราะ ฮ่า ฮ่า  น่าจะเป็นเรื่องหัวเราะของ เฒ่าทารก จิวแป๊ะทง ในมังกรหยกครับ ผู้น้อยขอกำนัลตอบแทนท่านด้วย คำคมจากสามก๊กอันเป็นคำพูดของจูล่งที่ว่า " จนยากแต่มิใช่เห็นเงินทองก็ตาลุก ชาวเสียงสานต้องการดื่มเกียรติ " เป็นวาทะสามก๊กที่ปฏิเสธการปูนบำแหน็จรางวัลจากการออกศึกสงครามของ เจียงกุน จูล่งครับ จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:32:31 A:118.172.66.129 X:

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านยังเหนื่อย เขียนคงเหนื่อยกว่า ยุทธภพเจ้าปัญหา เหนือฟ้ายังมีฟ้า ข้าน้อย มิใช่นักท่องยุทธภพ จึงขอหลบอ่าน ขอส่งสาร คารวะซินแส สักหนึ่งจอก                         จากคุณ : กาแฟดำขม เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:41:34 A:125.27.97.162 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่เกี่ยวการเมืองนะ แต่ผมชอบเรื่องนี้มาก เก้ากระบี่เดียวดาย ที่เล่งฮู้ชง(ตัวเอก) ฝึกได้โดยผู้เฒ่าชอบอัธยาศัยที่อ่อนน้อม เป็นเพลงกระบี่ ที่แปลกมาก  ยิ่งคู่ต้อสู้มีเพลงกระบี่เหนือกว่าเท่าใด นอกจาก จะรับได้ ยังแปลงมาผนวก กับเพลงกระบี่ตน เอาชนะได้ จากคุณ : Bangchak เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:50:33 A:171.99.177.175 X:

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับคุณอาร์ต มีเรื่องเดียวที่คาใจผมมาจนป่านนี้ แล้วลุงกิมย้งแกก็ไม่เล่าต่อให้จบสักที ตอนที่ ยิ่มอั้วเกี้ย เคยประกาศต่อหน้าจอมยุทธ บนเขาเสียวสิกฮง วัดเส้าหลิน ว่า ในชีวิต มีคนที่นับถือสามคนครึ่ง และ มีคนที่ไม่นับถือ อีกสามคนครึ่ง คนที่นับถือสามคนครึ่งแรก ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว(1.ตงฟางปู้พ่าย(ตังฮึงปุกป่าย) 2.นักพรตฟงชิงหยาง(ฮวงเชงเอี้ยง) 3.หลวงจีนฟางเจิ้ง(ปึงแซ) 4.เจ้าสำนักชงซี(ชงฮือ)เต้าหยิน ที่ได้รับคำนิยมครึ่งเดียว แต่อีกสามคนครึ่งให้หลัง คนแรกที่ทราบคือ ประมุขจ้อแน่เซี้ยง พอจะไปถึงคนที่ 2 ก็โดนตัดบทพอดี... และก็ไม่มีใครทราบมาจนทุกวันนี้ ไม่ทราบว่า มีใครพอจะทราบจากปากของลุงกิมฯ บ้างหรือเปล่า ครับ ว่า อีก สองคนครึ่งที่เหลือ เป็นใครกันแน่? ปล.ซี้ซั้วเดาเอา อันดับถัดมา น่าจะเป็น งักปุกคุ้ง เพราะไม่ชอบหน้ากันมาก่อน อีกคนครึ่งที่เหลือ จะเดายังไงก็เหลือวิสัย ครับ จากคุณ : จาน ชาม ช้อน ส้อม เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:52:21 A:203.144.144.162 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ขอน้อมคารวะครับพี่ท่าน  อุบลแมน ที่นับถือครับ ชื่อของคน เงาของไม้   วันเวลาผ่านไป พี่ท่านยังคงบุคลิกภาพที่สุขุม นุ่มนวลของผู้เป็นปราชญ์ไว้อย่างเหมือนเดิม ขอได้รับการคารวะสุราจากผู้น้อยครับ หัวข้อ ยิ้มเย้ยยุทธจักร ของกระทู้นี้ คือหลุมพรางอย่างหนึ่ง ที่มุ่งหวังจะให้พี่ท่านพบเห็น ด้วยพอทราบว่าพี่ท่าน ศึกษา " ผู้กล้าหาญคะนอง "  ในชื่อเดิม หรือ " กระบี่เย้ยยุทธจักร " ในชื่อปัจจุบัน   หรือ " เดชคัมภีร์เทวดา " ในชื่อภาพยนต์  อย่างลึกซึ้ง ความจริง แม้แต่ระดับท่านกิมย้ง ผู้ประพันธ์ ยังคิดหาตอนจบ ของเรื่อง เพื่อแก้ไข ความขัดแย้ง ระหว่าง  เหล็งฮู้ชง ผู้นำฝ่ายธรรมะ   กับ ยิ่มอั้วเกี้ย ประมุขพรรคมาร   ผู้นำฝ่ายอธรรม ไม่ออก ทั้งๆที่ เหล็งฮู้ชงคือ   บุตรเขย หรือลูกเขยของ ยิ่มอั้วเกี้ย นั่นเอง แต่คล้ายว่า ฝ่ายธรรมะ กับ ฝ่ายอธรรม ไม่สมควรที่จะอยู่ร่วมโลก นั่นคงเพราะ คนที่เขียนหนังสือ มีตรรกะอย่างหนึ่งคือ  เขียนออกมาตาม หลักที่ควรจะเป็นจริง อันเป็น ความจริงของโลก ที่อิงกับทางธรรมครับพี่ท่าน ท่านกิมย้งก็คงคิดแล้ว คิดอีก  ว่าจะเขียนตอนจบอย่างไร   เหล็งฮู้ชงถึงจะไม่ต้องรบราฆ่าฟัน กับ ยิ่มอั้วเกี้ย พ่อตา   ผู้เป็นบิดาของ ยิ่มเอี่ยงเอี้ยง สตรีที่ตนเองรัก สุดท้าย ท่านกิมย้ง หาทางออกได้อย่างหมดจด งดงาม  และที่สำคัญ เป็นทางออกที่อิง " แก่นแท้ " ของความเป็นมนุษย์ ตอนจบของ ยิ่มอั้วเกี้ย  พี่ท่าน อุบลแมนคงทราบดีครับว่า " ความตาย "   เท่านั้นที่แก้ปัญหาในเรื่อง ที่ท่านผู้นำอ้อก๊ก หวั่นวิตกเวลาจะเดินทางกลับมา ก็ตรงข้อนี้ล่ะครับพี่ท่าน   เพราะตงฟานปุป้าย  เวลานี้ เหมือนอยู่ดีๆ   ก็มีกระบวนการมาลบล้างให้ว่า ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง การก่อการของบังเมื่อ กันยา ปี 49       หลังจากนั้น   ตงฟานปุป้ายจะยิ่ง  " อยู่เบื้องหลัง "   อย่างแนบเนียนกว่าเดิมครับ เพราะที่ผ่านมา คนจับได้   แต่อนาคตเล่า   ทำอย่างไรคนจะจับไม่ได้ ? ภาพที่ปรากฏออกสู่สังคมทุกวันนี้  บ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่า    ขิงแก่ยังคงเผ็ดร้อน  ตราบใดที่ตงฟานปุป้ายไม่ใช่ตะเกียงที่ไร้น้ำมัน   ท่านผู้นำอ้อก๊ก ก็ไม่ใช่ไม่มีการข่าว   ที่ท่านไม่ไว้วางใจก็เรื่องนั้นแหละครับ   ขอพี่ท่าน อุบลแมนถนอมสุขภาพด้วยครับ ..................... อาร์ต จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:55:05 A:118.172.66.129 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ลึกล้ำด้วยวรยุทธ บู้ลิ้มราชดำเนินสมควรแล้วที่ให้ประลองวรยุทธกันได้เช่นนี้ จากไปนานนับแต่ครั้งที่สี่เสาก๊ก กุมกบิลเมือง ก็มิได้ย่างกรายเข้ามาอีก กลับมาคราวนี้ สมใจยิ่งนัก ผู้น้อยขอน้อมคารวะเหล่าผู้อาวุโสด้วยความเคารพยิ่ง จากคุณ : เหนื่อยนักก็พักก่อน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 00:15:10 A:171.98.6.231 X:

ความคิดเห็นที่ 14 จากที่เคยอ่านงานของ กิมย้ง มาหลายเรื่อง ชอบเรื่อง นี้ที่สุด กระบี่เย้ยยุทธจักร หรือ จอมยุทรเจ้าสำราญ ก็แล้วแต่ว่าใครเป็นผู้แปล เรื่องนี้อ่านมาไม่ต่ำกว่า 9-10 รอบ ดูหนัง ก็ไม่รุ้กี่เวอร์ชั่น ชอบแนวคิดของผู้แต่งที่ตีแผ่ ความจริงของสันดานคน ว่าบางคนทำตัวดี วิเศษวิโส กว่าผู้อื่นอย่าง งักปุ๊กคุ้ง ยัง พฤติกรรมซ่อนเร้น ที่น่ารังเกียจ ไม่เหมาะสม กับฉายาที่ได้รับ “กระบี่วิญญูชน"  ดังใครบางคนที่เรารู้จักกันดี จากคุณ : Observe99 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 00:17:42 A:182.53.249.227 X:

ความคิดเห็นที่ 15 โหดห่าเหวคะนองเดชอิทธิฤทธิ์ อภิสิทธิ์หลงผิดผยองใหญ่ กระชับพื้นที่แบบเวรตระไล ยิงคนตามอำเภอใจตะบวักตะบวย อัป เปรมปรีย์สีกบาลกลากกินหัว ใครขวางป๋าต้องกลัวจะถูกหวย เทพเทือกคอก ศิริโชคหอก เทพไทกวย กรณ์กู้มาโกงกินกันรวยสะดือบาน บัญญัติแก่แล้วแก่เลยกระโหลกกะลา ไตรรงค์ควรจูงพากลับบ้านไปเลี้ยงหลาน ชวนบอกแต่ยังไม่ได้รับรายงาน เล่นการเมืองกันจนคลานจะเข้าโลง ความชั่วมีความดีไม่เคยปรากฏ เช้าชามเย็นชามหมดทั้งขโยง ดีแต่พูดจนลิงหลับเป็นชั่วโมง จับแพะชนแกะโยงเป็นสันดาน มาร์คเองก็คงใกล้หมดวาระ คดีความน่าจะถึงประหาร จากนี้คงขึ้นศาลกันเหงือกบาน หากติดคุกก็นาน จนหัวโต ( ฮา ) ............................... ขอน้อมคารวะครับ   พี่ท่าน   กาแฟดำขม  ที่นับถือครับ จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 00:17:58 A:118.172.66.129 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ยินดีที่กลับมาเขียน ด้วยความระลึกถึงอย่างยิ่ง จากคุณ : ผู้ผ่านทาง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 01:14:01 A:223.205.138.107 X:

ความคิดเห็นที่ 17 จำตอนที่ฝ่ายเล่งฮู้ชงพลิกกลับมาเอาชนะตงฟางปุ๊ป้ายได้ไหมครับ ไม่ได้เอาชนะด้วยวิธีขาวสะอาดนะครับ เพราะเยิ่นอิ๋งอิ๋งจับแฟนหนุ่มของตงฟางปุ๊ป้ายเป็นตัวประกัน จนตงฟางทำอะไรไม่ถูก หาทางช่วยแฟนจนตัวเองพลาดท่าโดนรุมสกรัมจนตาย แค่สี่รุมหนึ่งก็ว่าโกงแล้ว นี่ยังโคตรโกงจับตัวประกันอีก ช่างเหมือนกับบางพรรคที่จับมือ พธม ศาล อำมาตย์ มารุมสกรัมลุงหมักกับสมชายโดยมีสนามบินกับทำเนียบรัฐบาลเป็นตัวประกัน แล้วปล้นอำนาจไปจนได้นั่นเอง ผมก็งูๆปลาๆครับ แต่ก็อยากมีส่วนร่วมกับกระทู้ แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 55 04:00:39 จากคุณ : Crimson Tide เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:53:36 A:223.24.51.144 X:

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องราวในยุทธภพล้วนลึกลับ ต่างลวง ต่างพราง จอมยุทธต่างวัยย่อมต่างความคิด เพลงอาวุธที่ฝึกปรือแต่ละยุคย่อมมิเหมือน เคล็ดวิชาย่อมแตกต่าง อาจคล้ายคลึง มิน่าเชื่อ ในพันทิป เหล่าผู้กล้าวีรชนรุ่นใหม่ล้วนสามารถตระหนักรู้ทัน ในกระบวนท่าของทุกสีสัน  กำหนดแนวทางตอบโต้ได้ดุดัน เฉียบพลัน เป็นบุญตาของผู้เฒ่ายิ่ง แม้นว่าชีวิตหาไม่ก็มิเสียดายแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า จากคุณ : เล่าฮูแคนอิสาน (ธนุสน้อย) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 08:09:44 A:1.46.63.22 X:

ความคิดเห็นที่ 19 เพราะ วรรคทองของโจโฉที่ว่า " ข้าไม่ฆ่ามัน  มันก็ฆ่าข้า  ผิดตรงไหน ? " เลย ทำให้ กรุงธนบุรี เป็นราชธานีสยามเพียง 15 ปี     ถ้าลองไปหา ประวัติศาสตร์ตุรกี มาอ่าน จะพบว่า กฎมณเทียรบาลสมัยหนึ่งเคยกำหนดไว้ว่า  เมื่อขึ้นครองราชย์  สุลต่าน สามารถสั่งประหารญาติพี่น้องเพศชายได้  และ ทุกรัชกาลก็สั่งกุดหัวหมด   เพื่อตัดปัญหาชิงบัลลังก์   แต่มีสุลต่านองค์หนึ่งไว้ชีวิตน้องชายร่วมอุทร เชื่อว่ายังไงก็ไม่แย่งราชสมบัติ    แต่ในที่สุด ก็ถูกน้องชายโค่นจริงๆในเวลาต่อมา จากคุณ : พิจารณ์รัฐกิจ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 09:31:14 A:171.6.216.219 X:

ความคิดเห็นที่ 20 โต่วจี่โจยซานปง........ได้ซำนี่หล่ะ!!!! จากคุณ : absolutely thai เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 09:39:30 A:178.199.40.232 X:

ความคิดเห็นที่ 21 ที่เทียบกับตัวละครในยุทธจักรจีนได้คงเป็น พรรคของ มาร์คปุ๊กคุ้ง (งั้กปุ๊กคุ้ง) ที่ชอบทำดีและแสร้งเป็นสุภาพบุรุษ ทั้งที่จริงๆแล้ว จิตชั่วถ่อยสามานย์ ใส่ร้ายป้ายสีคนดีอย่างพระเอกแบบเนียนๆ และคนทั้งในและนอกพรรค ที่เป็นคนดี คนซื่อต่างพากันดูไม่ออก และโทษพระเอก .... ถ้าพรรคของมั๊กปุ๊กคุ้งขึ้นมามีอำนาจ มันก็น่ากลัวปานชะนี้ !!!! แล......(อย่างที่เคยๆ) จากคุณ : oneshot เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 11:04:35 A:183.89.251.33 X:

ความคิดเห็นที่ 22 คห#15 ทั่นอาร์ต โอ้โหหห ฝีปากสุดย๊อดดดดดดดดดดดด เอาไป 2 หัวใจละกาน คิกคิก คห#19 โอวววว โหดได้ใจมั่กๆ พี่น้องยังฆ่ากันได้ เขาไม่มีความรักใคร่ใยดีกันบ้างหรือไร แล้วอย่างนี้ถ้าไม่ใช่พี่น้อง เช่นถ้าต้องฆ่าประชาชนสักพันสองพันนี่ คงจะไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดไรเลยสิเนาะ จากคุณ : Ensign เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 11:20:55 A:203.114.116.34 X:

ความคิดเห็นที่ 23 ขอน้อมคารวะครับพี่ท่าน Bangchak  ที่นับถือ  ผู้น้อยเอง ก็มีใจรักชอบ ผลงานเรื่องนี้ของท่านกิมย้งมากครับ บทของท่านผู้เฒ่า ฮวงเช็งเอี้ยง ที่ซ่อนกายอยู่หลังผาสำนึกผิด  เป็นตัวละครที่ผู้น้อยมีความชื่นชมท่านหนึ่งอย่างยิ่งในเรื่องนี้ครับ แม้จะปรากฏกายออกมาน้อยไม่มากนัก แต่มีน้ำหนักมาก  พอเหมาะ พอควร ที่สำคัญเป็นบุคลิกภาพของคนเป็น " ผู้ใหญ่ "  ที่เป็นตัวอย่างให้ เหล็งฮู้ชง เคารพนับถืออย่างหมดหัวใจ ซึ่งไม่ง่ายนัก ที่จะมี " ผู้ใหญ่ " อย่างนี้ ไม่ว่าจะในโลกสมมุติ โลกอดีต หรือโลกปัจจุบัน  ไปจนถึงอนาคตครับ ท่านฮวงเล่าซิงแซท่านนี้ ไม่ยึดถือขนบธรรมเนียมคร่ำครึ  เป็นที่ถูกใจเหล็งฮู้ชง ที่ปล่อยตัวปล่อยใจ ไม่สำรวม สิ่งที่คนทั้งสองมีคือ ธาตุแท้ทรนง และคุณธรรมประจำใจ ผู้น้อยชอบตอนที่ ท่านฮวงเช็งเอี๊ยง สอนกระบวนท่าให้เหล็งฮู้ชง ตอนหนึ่งที่ว่า "....หรือไม่รู้จักลากกระบี่ลงมา "   ตรงตามแก่นแท้ของกระบี่ที่ว่า เรียนรู้กระบวนท่า  แล้วลืมกระบวนท่า  ใช้ออก รั้งเข้าตามอำเภอใจ กระบี่อยู่ที่ใด ? กระบี่อยู่ที่ใจ เก้ากระบี่เดียวดาย  หลายคนเข้าใจผิดว่าเก้ากระบี่เดียวดายมี 9 กระบวนท่า จริงๆ แล้วเก้ากระบี่เดียวดายไม่ใช่ท่ากระบี่ แต่เป็นเคล็ดกระบี่ 9 เคล็ด 1. เคล็ดทำลายกระบี่ 2. เคล็ดทำลายดาบ 3. เคล็ดทำลายทวนและกระบอง 4. เคล็ดทำลายโซ่และฉมวก 5. เคล็ดทำลายแส้ 6. เคล็ดทำลายฝ่ามือ 7. เคล็ดทำลายเกาทัณฑ์ (อาวุธลับ) 8. เคล็ดทำลายลมปราณ 9. เคล็ดไร้ท่า ( กระบี่อยู่ที่ใจ  ) อย่างที่บอกว่าเก้ากระบี่เดียวดายเป็นเคล็ดวิชา ไม่มีกระบวนท่าตายตัว ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้ว เคล็ดทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายเพื่อหาจุดอ่อนในจุดอ่อนนั่นเอง ความหมายของจุดอ่อนในจุดอ่อนก็คือ จุดอ่อนที่ไม่สามารถละเลยได้ ซึ่งตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า ทุกกระบวนท่ามีจุดอ่อน จะมากน้อยขึ้นกับประสบการณ์ของผู้ใช้ เมื่อมองเห็นจุดอ่อนในจุดอ่อนเราก็สามารถจู่โจมจุดนั้น ผลก็คือคู่ต่อสู้ต้องป้องกันตัว ระหว่างป้องกันตัวก็จะมีจุดอ่อนเกิดขึ้นอีก เราก็โจมตีจุดอ่อนนี้อีก ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนชนะ สรุปง่ายๆ ทุกกระบวนท่าสามารถทำลายได้ และเก้ากระบี่เดียวดายเป็นเคล็ดวิชาทำลายแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ถ้าคู่ต่อสู้ใช้ 1 ท่าเก้ากระบี่เดียวดายก็มีเพียง 1 ท่า ถ้าคู่ต่อสู้ใช้ 100 ท่าเก้ากระบี่เดียวดายก็มี 100 ท่าเช่นกันครับ ผู้น้อยก็จำมางูๆปลาๆครับพี่ท่าน Bangchak ที่นับถือ ขอน้อมคารวะครับ ( ขออนุญาตแก้ไข ลบไฟล์ภาพนะครับ   ภาพใหญ่ไปครับ ) แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 55 13:35:27 จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 13:03:36 A:110.77.204.133 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ขอน้อมคารวะครับพี่ท่าน จาน ชาม ช้อน ส้อม  ที่นับถือครับ ขอโทษอย่างยิ่งที่ผู้น้อยตอบช้า คืนวาน ผู้น้อยก็มุดเข้าผ้าห่ม เป่าโคมดับไปแต่ยามสองแล้วครับ เห็นคำถามท่านพี่ ก็ได้แต่แลบลิ้น เป็นคำถามที่ยากมากครับ ผู้น้อยขออนุญาตระลึกถึงเหตุการณ์ ยามที่ เหล็งฮู้ชง ซ่อนตัวอยู่หลังป้ายขวางแล้วมีผู้คนจำนวนหนึ่ง เข้าประตูโบสถ์ ในนั้นมี ซือแป๋ซือบ้อของเหล็งฮู้ชง และเจ้าอาวาสเลี้ยวลิ้มยี่ ท่านปึงเจ่งไต้ซือ ตอนนี้เหล็งฮู้ชง ฟังจากเสียงลมหายใจ เบื้องล่าง  เหล็งฮู้ชง จำแนกออกว่ามี สิบคน ที่เข้ามาครับ ซือแป๋ ซือบ้อ ท่านปึงเจ่งไต้ซือ  ชงฮือเต้าเจียง  เทียนมึ้งเต้าหยิน  อื้อชังไฮ้  จ้อแนเซี้ยง ส่วนอีกสามคน เหล็งฮู้ชงไม่ทราบว่าเป็นใคร ข้อนี้ ผู้น้อยวิเคราะห์จากยามที่ยิ่มอั้วเกี้ย กล่าวถึง แต่ละคนอย่างละเอียด พบว่ามี เคี่ยงคุนเจกเกี่ยม ( กระบี่จักรวาล ) แห่งคุนลุ้น  เก้ยปังจู ( หัวหน้าพรรคแซ่เก้ย ) แห่งพรรคกระยาจก  และมกไต้ซิงแซ ครับ นี่คือสามคนที่เหลือ หากตามสติปัญาอันน้อยนิดของผู้น้อย   ขออนุญาตทายว่า   บรรดาบุคคลสามคนครึ่ง ที่ยิ่มอั้วเกี้ย ไม่นับถือเลื่อมใส น่าจะเป็น จ้อแนเซี้ยง งักปุกคุ้ง อีกคนหนึ่งน่าจะเป็น เก้ยปังจูแห่งพรรคกระยาจกครับ   สังเกตจากคำพูดเปิดเผยออกเฮี่ยงมุ่งเทียน ที่กล่าวต่อมาในเหตุการณ์วันนั้น เวลานั้นว่า " ฟังว่าฑูตบัวเขียวกับฑูตบัวขาวในพรรคกระยาจก แม้ไม่แซ่เก้ย แต่ล้วนเป็นลูกชู้ของเก้ยปังจู " ยิ่มอั้วเกี้ยน่าจะรังเกียจ พฤติกรรมอย่างนี้ของ หัวหน้าพรรคกระยาจก  ที่แม้คนทั้งสิบจะมีศักดิ์ศรี เสมอใกล้เคียงกันในยุทธจักร   แต่ปังจูผู้นี้ ไม่น่านับถือเสื่อมใส ส่วนอีกครึ่งคน   ผู้น้อย คิดว่า น่าจะเป็นมกไต้ซิงแซ กับกรณีของ  เล้าเจี่ยฮวงกับเค้กเอี๊ย ที่มกไต้ซิงแซไม่แบ่งแยกเรื่องราวให้ชัดเจน  ที่สำคัญไม่ปกป้องคนในสำนัก ที่คิดว่าเป็นท่านนี้  เพราะทื่เหลืออีกคนคือ  เคี่ยงคุนเจกเกี่ยม ( กระบี่จักรวาล ) แห่งคุนลุ้น  นั้น น่าจะเป็นคนที่ ยิ่มอั้วเกี้ย พูดถึงสามคนที่เหลือว่า " ในสามคนครึ่ง ที่เราไม่นับถือเสื่อมใส ท่านก็ไม่อยู่ในจำนวนนี้ ท่านฝึกวิทยายุทธ์อีกสามสิบปี เราอาจไม่นับถือเสื่อมใส " ผู้น้อยวิเคราะห์ตามเหตุการณ์ ในเรื่องดังนี้ครับพี่ท่าน  จาน ชาม ช้อน ส้อม ขอน้อมคารวะครับ จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 13:34:35 A:110.77.204.133 X:

ความคิดเห็นที่ 25 ขอน้อมคารวะ พี่ท่าน เหนื่อยนักก็พักก่อน ครับ เสรีภาพ การเขียน การแสดงความคิดเห็น ที่โดนปิดกั้นด้วยเหตุผลอย่างสุภาพ จากเวบมาสเตอร์ ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ว่าในยุคนั้นคือยุคของ คุณอภิสิทธิ์  หัวหน้าพรรค ปชป. ครับ คุณสาทิตย์ควบคุมกำกับดูแลสื่อ  และยังมีทหาร ดูแลกำกับซ้อนอีกหนึ่งอย่างเข้มแข็ง เข้มงวด สั่งซ้ายหัน ขวาหัน  ( ฮา ) แต่วันเวลาเหล่านั้นได้ผ่านไปแล้ว ถือว่าเป็นฝันร้ายตื่นหนึ่ง  บอร์ดราชดำเนินที่นี่ เป็นสถานที่รวมผู้มีความรู้ความสามารถอันมากมาย  อย่างที่ผู้น้อยเคยเขียนไว้ว่า " ต่างชุมนุมมังกร ซ่อนพยัคฆ์ "   เคยมีผู้กล่าวเอาไว้ว่า   เมื่อเรานำเงินเหรียญมาแลกกัน  เราก็จะได้กลับไปคนละเหรียญ แต่หากเรานำความรู้มาแลกกัน   เราก็จะได้ความรู้มากขึ้นกลับไปครับ สารขัณฑ์ประเทศ นามสมมุติยุทธจักรแห่งนี้  อะไรๆก็ดีไปหมด เสียดายและน่าหดหู่ใจ ที่ความเจริญรุดหน้า ยังล้าหลังเพื่อนบ้าน เหตุสำคัญมาจาก นักการเมือง การทหาร เพียงไม่กี่หยิบมือ ที่เอาแต่ทะเลาะวิวาท แก่งแย่งชิงอำนาจ  แย่งกินงบประมาณ โดยมีประเทศ มีประชาชนเป็นตัวประกัน ผู้น้อยขอน้อมคารวะพี่ท่าน เหนื่อยนักก็พักก่อน ครับ จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 13:56:14 A:110.77.204.133 X:

ความคิดเห็นที่ 26 บทเพลง ยิ้มเย้ยยุทธจักร ....ทะเลหัวเราะ กระทบสองฟากฝั่งเรือ ยามนี้เราลอยคออยู่ท่ามกลางคลื่นทะเล มีแต่ยามนี้...ยามนี้เท่านั้น สวรรค์หัวเราะกับโลกที่สับสนวุ่นวาย ใครจักเป็นผู้ได้ ใครจักสูญเสีย ฟ้าเท่านั้นที่รู้ ภูเขาหัวเราะ ฝนตั้งเค้ามาแต่ไกล จะกี่คลื่นกี่ฝน เมือผ่านไป โลกก็ยังดำเนินต่อไปเช่นเดิม มิใช่หรือ เสียงสรวลจางจางของสายลม แผ่วหายไปกับความเงียบงันที่่เปล่าเปลี่ยว มิตรภาพที่ล่วงผ่านไป ทิ้งไว้แต่งแต้มความโศกเศร้า ยิ้มหัวให้กับชีวิตที่อ้างว้าง ลอยคอในทะเลแห่งความเปล่าเปลี่ยว ยามนี้สิ่งปลอบประโลมจิตใจก็มีแต่ยิ้มเย้ยให้กับชีวิตเท่านั้น.... ...................... ขอน้อมคารวะครับพี่ท่าน  Observe99 ที่นับถือครับ จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 14:19:01 A:110.77.204.133 X:

ความคิดเห็นที่ 27 ขอน้อมคารวะครับ พี่ท่าน ผู้ผ่านทาง  ที่นับถือ ที่คุ้นเคยกันมานานครับ วันเวลาที่ผันผ่านไป เท่าที่ความทรงจำอันเป็นพื้นฐานของมนุษย์ยังมีอยู่ ปฏิเสธไม่ได้ว่า " การเมือง " ของประเทศนี้ ตื่นเต้น เร้าใจ อย่างยิ่ง คละเคล้าไปด้วยความทุเรศ และ ขยะแขยง ผะอืดผะอม  อย่างยิ่งในเวลาเดียวกัน เป็นการเมือง อันเป็น มหากาพย์ที่ยาวนาน และไม่มีท่าทีว่าจะจบลงได้ในเร็ววันนี้   คนบางคนเคยผ่าน 14 ตุลา ใครบางคนเคยผ่าน 9 ตุลา ใครบางคนเคยผ่าน 15 พฤษภา ใครบางคนเคยผ่าน 13 เมษา และใครบางคนล้มหายตายจากไปกับวันเวลาและเหตุการณ์เหล่านี้  คนบางคนเสียพี่ไป คนบางคนเสียน้อง บางคนเสียเพื่อน  บางคนเสียผัว ไปอย่างไม่มีวันกลับ ไปกับอุดมการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมานี้ ระยะเวลาเป็นหลายสิบปี ไม่น่าเชื่อว่า บ้านเมืองเรายังไม่ไปไหน ไม่เพียงเดินหน้า มิหนำซ้ำยังถอยหลัง ตัวละครทางการเมือง การทหาร เพียงไม่กี่คนที่เป็น คีร์แมนสำคัญ  ก็ยังคงอยู่ อาจจะมีล้มหายตายจากไปบ้าง ก็ล้วนตายอย่างอู้ฟู่ด้วย มรดกทรัพย์สิน ที่ทิ้งไว้ให้คนอยู่เบื้องหลังแย่งชิงกัน ส่วนประชาชนตาดำๆ ก็ได้แต่มองตาปริบๆครับ พี่ท่านว่า ทหารเหล่านี้ทำมาหารับประทานอย่างไร ถึงมีเงินเป็นพันๆล้าน ผู้น้อยอยากจะทราบจริงๆว่า ระหว่าง คุณทักษิณ   กับ คุณมาร์ค  ใครจะมี อนุสาวรีย์  ในที่สาธารณะครับ แต่ก็พอทายออกครับว่า ท่านนายกฯทักษิณ ส่วนคุณ เปรมนั้น คงไม่ต้องทายครับ   เพราะคงสร้างได้แต่ในค่ายทหาร ( ฮา ) ผู้น้อยขอน้อมคารวะครับ พี่ท่าน ผู้ผ่านทาง  ที่นับถือ ที่คุ้นเคยกันมานานครับ จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 14:37:28 A:110.77.204.133 X:

ความคิดเห็นที่ 28 ขอน้อมคารวะครับพี่ท่าน  Crimson Tide  ที่นับถือ ผู้น้อยต้องขออนุญาตรินสุราคารวะ น้ำใจพี่ท่าน  ที่ร่วมพูดคุย สรวลเสเฮฮากันครับ หลังจากฉากเหตุการณ์ ที่ ตังฮึงปุกป่าย พ่ายแพ้แก่เหล็งฮู้ชง ยิ่มอั้วเอี้ยและพวก  เพราะยิ่มเอี่ยงเอี้ยงจับตัว เอี้ยเน้ยเต้งแล้วทรมานเพื่อก่อกวนสมาธิของตังฮึงปุกป่ายนั้น คนทั้งหลายก็ออกมายอมรับครับว่า หากสู้กันตัวต่อตัว  ไม่สามารถที่จะต่อสู้รับมือกับ ตังฮึงปุกป่ายได้  แสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ ลูกผู้ชาย ที่กล้าทำ กล้ารับครับพี่ท่าน Crimson Tide อย่างที่พี่ท่าน Crimson Tide ว่าครับ    พรรค ปชป. เคยเสียเงินทอง เสียเวลา จ้างคนทำวิจัยหาข้อมูล ข้อบกพร่อง ที่ต้องแก้ไขพรรค การทำงานของพรรค และของหัวหน้าพรรค แต่สุดท้ายเมื่อ " ความจริง " ของรายงานการทำวิจัยปรากฏออกมา ก็ไม่เป็นที่ยอมรับ ของมาร์ค หัวหน้าพรรค ด้วยความมีจิตใจที่คับแคบ   ที่จะยอมรับความจริงถึงการ " แพ้ซ้ำซาก "  ในการเลือกตั้งทุกๆครั้งที่ผ่านมา มาร์คไม่ยอมรับความจริง  ดื้อดึง ตะแบง เอาสีข้างเข้าถู ข้างๆคูๆ จีบปากจีบคอพูด เถียงคำไม่ตกฟาก  ( ฮา ) ความจริงผมว่า ปล่อยให้พรรคนี้ เขาเป็นพรรค ท้องถิ่นภาคใต้ไปอย่างนี้ก็ดีครับ ( ฮา ) ขอน้อมคารวะครับพี่ท่าน  Crimson Tide จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 14:54:39 A:110.77.204.133 X: