ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนการปรับรัฐมนตรีไม่กี่วัน จตุพร และสุริยะใส ไปออกรายการทีวีรายการหนึ่ง  บอกว่าคนทั้งสองนั้นคือ " เพื่อนสนิท " กันมาก    ส่งผลสะเทือนอย่างใหญ่หลวงต่อคนทั้งสอง เฉกเช่นเล้าเจี่ยฮวงคบหากับเค๊กเอี๊ย ในกระบี่เย้ยยุทธจักร   สุริยะใสนั้นถึงกับบ่นว่าตัวเองโดน บรรดา " แม่ยก " อันที่ไม่ค่อยจะมี หรือมีก็น้อยนิดอยู่แล้วนั้น เกิดอาการเคือง ทำให้กระเทือนถึงสถานะ เพราะลำพังก็ไม่ได้ทำมาหากินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอยู่แล้ว ( ฮา ) ส่วนจตุพรนั้น ความไว้เนื้อเชื่อใจลดระดับลงฮวบ ดูจากการที่ ณัฐวุฒิโผล่พรวดมาเสียบตำแหน่ง  ทั้งๆที่อาวุโสรอง  จนจตุพรถึงกับ ออกอาการหลุดออกมาว่า " ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ก็ไม่ตาย "   แต่มีใครบางคน คิดว่า ที่จตุพรไม่ได้เป็นรัฐมนตรี น่าจะมีรายการ " คุณขอมา " จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 21:15:13 A:118.172.95.97 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ....... "แค่เด็กเมื่อวานซืน ........  ริอ่านตีเสมอเทียบบ่าเทียบไหล่"...... ได้ยินมาจากคนอื่นน่ะ     ห้ามฟ้องครูอังคณาเด็ดขาด จากคุณ : วิหคน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 21:18:25 A:223.205.19.32 X:

ความคิดเห็นที่ 3 "อำนาจ" ละมังครับ? "เซี่ยงเปรมกิมฮ้ง" ก่อตั้ง "กิมจี๊ปัง" หวังครองยุทธภพ กฎเกณฑ์ ย่อมเป็นสิ่งสูงสุด เมื่อกฏเกณฑ์ถูกละเมิด อำนาจย่อมเสื่อมโทรม (ตาสว่าง-อันนี้ผมแถมให้เอง อิอิ) ปัญหาเดียวกันก็คือ กิมจี๊ปังหากประมุขมิใช่ เซี่ยงกัวกิมฮ้ง ก็ย่อมล่มสลายลง แม้เซีี่ยงกัวเซี่ยวเซียนก็มิอาจกอบกู้ขึ้นได้ มิใช่เพราะเอี๊ยบไค หากแต่เป็น "แม่นางกระพรวนทอง" ต่างหาก ผิดพลาดขออภัย และขอคารวะมา ณ ที่นี้ หล่ยๆ จอกเลยครับ จากคุณ : ธุดงค์ผ่านมา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 21:18:51 A:115.87.124.89 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ศูนย์รวมอำนาจนั้น ทุกยุคทุกสมัย เหมือนดาวฤกษ์ที่ดาวเคราะห์วิ่งเข้ามาโคจรรอบ     " บ้านจันทร์ส่องหล้า " บ้านสี่เสา " ก็ไม่แตกต่างกัน ยุคสมัยหนึ่ง จาตุรนต์ถึงกับไปหัดไดร์กอล์ฟ เพื่อจะมาร่วมก๊วนออกรอบร่วมกับท่านผู้นำ  รวมทั้งคน " วงใน "  เช่นเลขาในสมัยนั้น สุริยะ เฮียเพ้ง  ฯลฯ บ้านจันทร์ส่องหล้าแบ่งแยกการบริหารออกเป็นหลายสาย อันประกอบด้วยสายนายใหญ่ท่านผู้นำอ้อก๊ก  สายฮูหยินอ้อ สายคุณแดงดูแลทางเหนือ  สายตี่ตี๋พายัพดูแลทางอิสาน   สายม่วยจื้อปู ( น้องสาวอันประเสริฐ )และทีมงานดูแลภาพลักษณ์ผู้นำ มีเอกเทศบ้างคือ เหลิมกิมไซ ( ราชสีห์เหลิมขนทอง ) ที่ขอดูแลมณฑลทางอิสานและทางเมืองหลวงบางส่วน  ท่านผู้นำอ้อก๊กไม่ว่า แต่ที่ว่าคือการพยายามกางมุ้งซ้อนมุ้งของนายมิ่งขวัญ จึงเป็นสาเหตุที่มิ่งขวัญโดนดีดออกไปวงนอกที่ผ่านมา      หลายสายงานเหล่านี้แตกแขนงแยกย่อยออกควบคุมดูแล สายทหาร สายตำรวจ สายการเงินการคลัง สายพลังงาน สายธุรกิจโทรคมนาคม  สายธุรกิจอสังหริมทรัพย์  ฯลฯ   กลุ่มนี้มีชื่อเรียกลับหลังว่า กลุ่มอำนาจใหม่ จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 21:29:42 A:118.172.95.97 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนตงฟานปุป้าย ถึอตัวเองเป็นศูนย์รวมอำนาจอย่างแท้จริง  สปอร์ตไลท์ฉายจับ คนสนิทรอบข้างที่ผ่านมา มักเป็นตัวแปรทางการเมือง ที่ " เข้าขา " กัน และที่สำคัญคือ " เปิดงาน " ก่อน     ยกตัวอย่างเช่น  มือก่อม๊อบอันดับหนึ่ง ภูติเกรียน   อดีตเป็นเลขาส่วนตัว  ปีศาจคาบไปป์   นี่ก็อดีตเลขาส่วนตัว สุขุม ลึกซึ้งงานมวลชน ฉายาอีกฉายาหนึ่งคือ หน้าแหลมฟันดำ  เก่งงานใต้ดินหาตัวจำยาก ที่สำคัญสำนักตั๋วแลกเงินอันดับหนึ่งของบู๊ลิ้ม คือฐานการเงินการคลังทุกๆอย่าง สังเกตจากทุกๆครั้งที่มีการก่อการยึดอำนาจ  คนของสำนักตั๋วแลกเงินนี้จะเข้ามานั่งกำกับการเงินการคลังทุกยุค หน่วยงานที่อ้างปาวๆว่า องค์กรอิสระนั้น ที่แท้อิสระแต่ปาก  นี่คืออิทธิพลอันคับฟ้าของตงฟานปุป้าย ไม่พักต้องเอ่ยถึง กองทัพทั้งหมด  ที่ขึ้นตรงต่อมันอย่างจงรักภักดี  ที่โต๊ะทำงานมันถึงกับมีลายชื่อนายทหารแต่ละรุ่น   แต่ละคน แต่ละทัพทั้งสามทัพที่จุ่มหมึกเขียนภู่กันไว้ในระดับรองๆลงมาว่า ใครควรจะขึ้นในอนาคต เล่าลือกันว่า เวลาไปรดน้ำดำหัว  หากใครโดนตงฟานปุป้ายเอ่ยทัก หรือตบหลังตบไหล่แปะๆ ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ  เพราะนั่นหมายถึง อนาคตอันรุ่งเรืองในตำแหน่งหน้าที่การงาน   สังเกตจากการประลอง " พาวเวอร์เพลย์ " ในกองทัพ ดูได้จาก อดีต ผบ.ทบ. แต่ละคน ใครที่ " จบสวย "   คือคนของมัน    เครือข่ายขุมกำลังน่ากลัวนี้  มีชื่อเรียกลับหลังว่า " อำนาจเก่า " จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 21:37:53 A:118.172.95.97 X:

ความคิดเห็นที่ 6 มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง ซึ่งมักจะยกย่องกันเองว่าตนเองเป็นสัตว์ประเสริฐกว่าสัตว์ชนิดอื่น แต่ความจริงมนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ร่วมเพศโดยหันหน้าเข้าหากัน มนุษย์ยังแยกย่อยออกเป็นหลายประเภท หลายสปีซี่ส์  แต่มีสปีซี่ส์หนึ่งที่พิสดารกว่ามนุษย์ด้วยกันเอง   มนุษย์ชนิดนี้เรียกว่า  " นักการเมือง " .......................................................... ขอน้อมคารวะครับพี่ๆที่ระลึกถึงทุกๆท่าน จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 21:48:24 A:118.172.95.97 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ขอน้อมคารวะครับ พี่ท่าน วิหคน้ำเค็ม ที่นับถือ ข้อความของท่านที่ว่า ... "  "แค่เด็กเมื่อวานซืน ........  ริอ่านตีเสมอเทียบบ่าเทียบไหล่" ทำให้ผู้น้อย ครุ่นคิดคำนึงถึง บิ๊กซัน  บิ๊กจิ๋ว บิ๊กสุ  ครับ จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 21:52:13 A:118.172.95.97 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ขอน้อมคารวะครับพี่ท่าน ธุดงค์ผ่านมา  ที่นับถือ ( ขอแก้ไขลบไฟล์ภาพประกอบครับ ) แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 00:43:34 จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 22:05:28 A:118.172.95.97 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนที่เซี่ยงกัวกิมฮ้ง ประจัญหน้ากับ ลี้คิมฮวง ครั้งแรก ต่อหน้าชาวบู๊ลิ้ม โกวเล้ง บรรยายว่า ในดวงตาของเซี่ยงกัวกิมฮ้ง ต่างรู้สึกว่า มีไฟนรกที่พร้อม แผดเผาทุกสิ่ง แต่ในดวงตา ของ ลี้คิมฮวง ราวกับมหาสมุทร ที่พร้อมดับไฟร้อนทุกสิ่ง ในวันนั้นไม่มีการต่อสู้กัน(ทางยุทธ มีแต่ทางจิตวิทยา) แต่ภายหลังนั้น มีคำโจษจัณฑ์กันว่า ทั้งลี้คิมฮวงกับเซี่ยงกัวกิมฮ้งเป็นบุคคลประเภทเดียวกัน ถ้าลี้คิมฮวงไม่ใช่ลี้คิมฮวง ก็จะเปลี่ยเป็นเซี่ยงกัวกิมฮ้ง หาก เซี่ยงกัวกิมฮ้งไม่ใช่เซี่ยงกัวกิมฮ้ง ก็จะเปลี่ยนเป็นลี้คิมฮวง ทั้งคู่ต่างมากด้วยสามารถ เพียงแต่แนวคิดต่างกัน จากคุณ : Bangchak เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 22:39:19 A:171.99.177.175 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ขอน้อมคารวะครับ พี่ท่าน  Bangchak  ที่นับถือครับ ขอน้อมรับ ดังที่พี่ท่านว่ามาครับ สุดยอดฝีมือ เมื่อถึงระดับที่ใกล้เคียงกัน มักจะไม่แตกต่างกัน  การตัดสินแพ้ชนะ ไม่เพียงวัดกันด้วยกำลังภายในหรือกระบวนท่า แต่ความอ่อนล้าหรือฮึกเหิมของจิตใจมีส่วนสำคัญยิ่งนัก อีกเรื่องคือแม้กำหนดนัดวันต่อสู้ระหว่างคนทั้งสอง ยังไม่มาถึง  แต่ความจริงการต่อสู้ได้เริ่มขึ้นแล้วทางอ้อม ซึ่งภาพรวมไม่ว่าการทำลายสมาธิ หรือการทำให้คู่ต่อสู้หลงทาง พะวักพะวงกับคนรัก หรือการทำให้อีกฝ่ายอ่อนล้าเรี่ยวแรง  (  เป็นการ ต่อสู้ทางด้านกลอุบาย ) ก็ตรงกับคำคมที่ว่า   เมื่อพิชิตใจลงได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กระบี่ หากแต่การพิชิตใจ มีหลายแนวทางครับ คำถาม  คำหนึ่ง ที่ผู้อ่าน " ฤทธิ์มีดสั้น " มักจะถามกันในใจเสมอๆ นั่นคือว่า ลี้คิมฮวง   เข้าด่านตงง้วนมาทำไม ? ( ข้อนี้ไม่มีนัยยะอะไรถึงท่านผู้นำอ้อก๊กอะครับ ) ....................... ผู้น้อยเห็นถึงความสับสนวุ่นวาย อันเป็นมหากาพย์อันยาวนานบนแผ่นดินนี้ ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีขุมกำลัง อันน่ากลัว และประชาชนต่างก็เรียกได้ว่า ตกอยู่ระหว่างช้างสารชนกัน กับคำถามข้อสงสัย ว่าเหตุใด อันเป็นสาเหตุ ที่ทำให้คนทั้งสองต้องบาดหมางกัน ซึ่งจะได้เข้าใจไข้ และใช้ยาได้ถูกกับโรคครับ ที่พี่ท่าน "  ธุดงค์ผ่านมา " ว่าคือการแย่งชิง อำนาจ   นั้นผู้น้อยเห็นด้วยครับ แต่หากปรองดองกัน แล้วจะมี " สภาพ " อย่างไร ? อะไรคือสาเหตุที่แท้จริง  เพราะ หลายปีมานี้ " ข่าวลือ " ต่างๆ มากมายเหลือเกิน ในเมื่อที่ไป ที่มา หรือ " ธาตุ " ของสองคนนี้แตกต่างกันยิ่งนัก ไม่ว่าจะฝ่ายหนึ่งมาจากการเลือกตั้ง ฝ่ายหนึ่งมาจากการแต่งตั้ง ฝ่ายหนึ่งฝักใฝ่ระบอบประชาธิปไตย  ส่วนอีกฝ่ายตรงกันข้าม ขอน้อมคารวะครับพี่ท่าน ทั้งสอง พี่ท่าน Bangchak  และพี่ท่าน ธุดงค์ผ่านมา  ครับ จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 01:10:16 A:118.172.95.97 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ขออนุญาตเสริม ความเห็นพี่ท่าน Bangchak อีกสักเล็กน้อยครับ ความจริงเกรงอกเกรงใจอย่างยิ่ง ด้วยเกรงว่าจะเสียเนื้อหากระทู้และเกรงใจท่านผู้อ่าน ทุกๆท่าน แต่ด้วยความเคารพนับถือ พี่ท่าน ที่ตีโจทย์ คู่ต่อสู้ใน " ฤทธิ์มีดสั้น " อย่างยอดเยี่ยม ผู้น้อยว่า ขีดระดับความสามารถ ทางวิชาบู๊  ของคนทั้งสองนั้น ความจริงไม่แตกต่างกัน  ดูได้จากการจัดระดับ ในทำเนียบยอดฝีมือของ แป๊ะเฮี่ยวเซ็งที่จัดลำดับไว้ดังนี้ครับ ยอดฝีมือในตำราวิจารณ์อาวุธของแป๊ะเฮี่ยวเซ็ง 1. กระบองฟ้าเทียนกีหรือกระบองสมปรารถนา (เทียนกีเล่านั้ง)ซุนแป๊ะม่อ 2. ห่วงหงส์มังกร (เล้งหงษ์ฮ้วง)  เซี่ยงกัวกิมฮ้ง (หัวหน้าพรรคกิมจี้ปัง หรือพรรคเหรียญทอง) 3. มีดบินของลี้น้อย (เซี่ยวลี้ปวยตอ)  ลี้คิมฮวง 4.กระบี่เหล็กซงเอี้ยง (ซงเอี้ยงทิเกี่ยม) 5. หอกเงิน - ลู่ฮงเชย (เจ้าน้อยหอกเงิน) 6. แส้อสรพิษหรือแส้เทพยดา (เปี้ยงซิ้ง) 7. ไม้เท้าเหล็กเทวราชหรือกวาดทั้งกองทัพ (กิมกังทิไกว้) - จูกั้วกัง กระบวนท่าเน้นแข็งแกร่งแต่ผู้ใช้พลิกแพลง 8. ไม่มีการกล่าวไว้ 9.  หัตถ์อสูรเขียว (แชม้อชิ้ว)  อีเข่า 10. ขลุ่ยหยก - เง็กเซียว (ปรากฏตัวออกมาใน เหยี่ยวเดือนเก้า ภาค สามของชุดฤทธิ์มีดสั้น) ใช้ขลุ่ยหยกแทนอาวุธได้หลายชนิด ................... ทั้งเซียงกัวกิมฮ้ง และ ลี้คิมฮวง ระดับฝีมือ ลำดับติดกัน เป็นที่รับรู้ในยุทธจักร แต่ผู้น้อยว่าที่คนทั้งสองต่างกันคือ ระดับของจิตใจครับ อันบ่งชี้ จุดจบของแต่ละคนในเรื่อง และแปลกอย่างยิ่ง   ที่ผ่านมา ทุกยุคทุกสมัยของท่านที่อ่าน " ฤทธิ์มีดสั้น " จบ ต่างลงความเห็นกันว่า  คนอย่าง ลี้คิมฮวง   ไม่มีจริง และไม่มีอีกแล้ว  นับว่าเป็นที่น่าเสียดายครับพี่ท่าน หากแต่คนอย่าง เซียวกัวกิมฮ้ง ยิ่งมา ยิ่งมีมาก จากคุณ : อาร์ต โฟล์คสวาเกน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 01:27:29 A:118.172.95.97 X:

ความคิดเห็นที่ 12 หล่อจริงไรจริง!?!? จากคุณ : absolutely thai เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 01:34:26 A:178.199.40.232 X:

ความคิดเห็นที่ 13 พี่อาร์ตวิเคราะห์ได้น่าอ่านครับ ติดตามมานาน จากคุณ : ปีสุดท้าย เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 09:34:33 A:101.108.182.87 X:

ความคิดเห็นที่ 14 ............ จากคุณ : หนึ่งจุดแดง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 10:59:35 A:171.4.103.214 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ข้าขอคารวะท่านจอมยุทธทั้งหลาย ขออภัย ที่ยาจกตัวเหม็นอย่างข้าบังอาจคลานเข้ามานั่งเทียบเสมอกับเหล่าจอมยุทธหลายท่าน ณ ที่นี้ ข้าเพิ่งเริ่มต้นท่องไปในยุทธภพได้ไม่นาน เพื่อจดบันทึกเรื่องราวอันสำคัญของยุทธภพ จากทิศอุดรลงไปให้ถึงสุดทิศทักษิณ บังเอิญข้าผ่านมาที่โรงเตี้ยมแห่งนี้ และก็บังเอิญได้ยินเหล่าจอมยุทธถามถึง" บูรพาไม่แพ้" ได้ยินท่านทั้งหลายที่มีคำถามต่างๆถึง บูรพาไม่แพ้ เพราะเรื่องราวของบูรพาไม่แพ้ ตงฟางปู้ป้าย ที่ข้าจดบันทึกเอาไว้เมื่อปีเฉียนเหนียน(ปีก่อน) ไม่ค่อยตรงกับเรื่องราวที่ข้าได้ยินที่นี่ ตามบันทึกที่ข้าจดไว้จากปากคำของ "เค็กเอี้ยง"ก่อนตายไม่กี่วัน เค็กเอี้ยงเล่าว่า ตงฟางปุ๊ป้าย แอบเรียนคัมภีร์พิศดารสำเร็จ จึงยึดอำนาจพรรคผาไม้ดำจับประมุขมารไปขังไว้ใต้ทะเลสาบ ส่วนบริวารในพรรคถูกบีบให้สวามิภักดิ์ด้วยยาพิษหนอนกินไส้ เรื่องราวในยุทธภพจึงสงบเงียบลงทันทีหลังจากนั้น ส่วนประมุขตงฟาง ก็ขังตัวเองไว้ในห้องลับผาไม้ดำกับคนรัก  ปีหนึ่งจะออกมาเพียงแค่นำยาแก้พิษให้บริวาร หรือเค็กเอี้ยงโกหกข้า? เรื่องราวในยุทธจักรที่ท่านถาม น่าจะเป็นเรื่องราว เจ้าสำนักหัวซาน งั๊กปุ๊กคุ้ง กับ เล่งฮู้ชงมากกว่า กระบี่ผู้ดี แซ่งั๊ก คนนี้แหละ ที่ข้ากำลังจดบันทึกอยู่ ขออภัยท่านจอมยุทธ ข้าชักไม่แน่ใจเรื่องที่บันทึกไว้ ข้าจะรีบเดินทางไปถามความจริงจากท่านอดีตประมุขผาไม้ดำที่ใต้ทะเลสาบซีหวู๋ ว่า ตอนนี้ธิดาท่านประมุข อิ๋งอิ๋ง อยู่ที่ไหน?(อ้าว!!!!ไปโน้นเลย) คารวะท่านจขกท  ข้าขอบังอาจนั่งอยู่ใต้ถุนโรงเตี้ยมแห่งนี้สักสองชั่วยาม เพื่อบันทึกเรื่องราวที่ข้าได้ยินจากพวกท่านที่นี่ (เอ๊ะ! แท่นฝนหมึกอยู่ไหนหว่า??) จากคุณ : ธุลีดิน (รังสรรค์) เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 14:59:56 A:101.109.17.49 X: