 |
ขอโทษขุนค้อน ทำสภาเสื่อม ณัฏฐ์ยันไม่ออก
กมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎร เค้นสอบหลายฝ่ายหามือปล่อยภาพโป๊กลางรัฐสภา แต่ส่อเค้าวืดรู้ตัวมือส่งภาพฉาว ด้าน ณัฏฐ์ บรรทัดฐาน กราบขอโทษขุนค้อนปมเปิดมือถือดูรูปโป๊ จนเป็นต้นเหตุทำให้สภาฯ เสื่อม แต่ยืนยันจะไม่ลาออก...
ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร มีนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ ทำหน้าที่เป็นประธาน เพื่อพิจารณากรณีการเกิดภาพโป๊ที่จอทีวีพลาสม่า ในห้องประชุมรัฐสภา ระหว่างการประชุมรัฐสภา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระสอง เมื่อวันที่ 18 เม.ย.
โดยเชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เจ้าหน้าที่บริษัทแอลจี อิเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เจ้าหน้าที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) มาให้ข้อมูล โดยนายคัมภีร์ ชี้แจงกรรมาธิการว่า จากการสอบสวนพบว่า ภาพไม่เหมาะสมที่เกิดบนจอทีวีในห้องประชุมรัฐสภา มาจากสมาร์ทโฟนของซัมซุง 3 รุ่น แต่ไม่สามารถตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ ที่ส่งภาพโป๊มายังจอทีวีได้ เนื่องจากตัวเก็บข้อมูลในจอทีวี เป็นการเก็บข้อมูลชั่วคราว เมื่อมีการปิดเครื่อง ข้อมูลก็ถูกลบไปหมด จึงตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ไม่ได้ ส่วนผลสอบเจ้าหน้าที่ในห้องควบคุม ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งภาพโป๊
ด้านนายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ผอ.ฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชี้แจงว่า ทีวีรุ่นดังกล่าว เป็นจอแอลอีดี รุ่น 6500 สามารถส่งภาพและเสียงทางอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ แท็บเล็ตได้ โดยใช้เทคโนโลยีดีแอลเอ็นเอ แต่ต้องใช้สัญญาณที่เป็นเครือข่ายเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ตัวบันทึกข้อมูลในจอทีวีพลาสม่านั้น ไม่สามารถจัดเก็บเบอร์โทรศัพท์ ที่ส่งสัญญาณมายังจอทีวีได้ จะบันทึกไว้เพียงไอพี แอดเดรสเท่านั้น แต่เมื่อปิดจอทีวี ข้อมูลดังกล่าวก็จะหายไปเช่นกัน ส่วนวิธีป้องกันไม่ให้ข้อมูลไม่เหมาะสมไปปรากฏบนจนทีวี มี 2 วิธี คือ 1. แยกระบบเน็ตเวิร์กออกจากกัน เพื่อไม่ให้แชร์รูปถึงกันได้ 2. ปิดตัวโปรแกรมแชร์ภาพที่อยู่ในจอทีวี
ขณะที่ นายจักรกฤษ โศธิธาดาเจริญ ตัวแทนบริษัท กสท จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า ไม่ได้มีเฉพาะสมาร์ทโฟนของซัมซุงที่สามารถส่งภาพไปยังจอทีวีได้ แต่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่น เช่น แอปเปิล ก็ส่งสัญญาณภาพไปยังจอทีวีได้เช่นกัน แต่ภาพโป๊ที่เกิดขึ้นปรากฏภาพที่มีอยู่ในเฉพาะระบบของซัมซุงอยู่ จึงสันนิษฐานว่า ภาพดังกล่าว มาจากสมาร์ทโฟนของซัมซุง
ทั้งนี้ หากจะตรวจสอบต้นตอจากไอพี แอดเดรส เป็นเรื่องลำบาก ต้องไปไล่พิสูจน์ ตั้งแต่ต้นทางว่า เอเจนซี่คนใดเป็นผู้นำเข้าโทรศัพท์มือถือที่มีไอพี แอดเดรส ที่ใช้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งต้องตรวจสอบในทางลึก ใช้เวลานาน และค่อนข้างยาก
จากนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ พยายามสอบถามว่า หากมีการส่งรูปโป๊มาจากนอกรัฐสภา มายังห้องประชุมสภา จะมีรัศมีในการส่งสัญญาณภาพได้หรือไม่ ซึ่งนายจักรกฤษ ชี้แจงว่า ปกติการส่งสัญญาณไวไฟมีรัศมีการส่ง 50 เมตร หากไม่มีสิ่งกีดขวาง แต่ตัวส่งสัญญาณไวไฟในพื้นที่รัฐสภา มีกว่า 70 จุด ดังนั้น หากอยู่ในรัฐสภาสามารถส่งสัญญาณถึงกันได้ทั้งหมด จึงสันนิษฐานว่า จุดที่ส่งภาพโป๊มา คงมีรัศมีไม่เกินขอบรั้วรัฐสภา แต่หากจุดที่ส่งอยู่นอกรั้วรัฐสภา คงต้องไปทดลองวัดระยะรัศมีดูก่อนว่า สามารถส่งได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ได้ถามย้ำว่า บุคคลที่อยู่ด้านนอกรัฐสภา ก็สามารถส่งสัญญาณได้ใช่หรือไม่ หากใช้เครือข่ายสัญญาณเดียวกัน ซึ่ง นายจักรกฤษ ชี้แจงว่า ทำได้ แต่ความเร็วในการส่งภาพนั้นอาจช้า
นายไพจิต ศรีวรขาน ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวเสริมว่า อยากให้มีการตรวจสอบว่า ภาพโป๊ที่ถูกส่งมายังห้องประชุมสภาฯ มาจากตัวส่งสัญญาณไวไฟของรัฐสภาตัวใดใน 70 จุด เพื่อนำไปสู่การหาตัวคนส่งภาพ และขอฝากให้บริษัทแอลจีฯ ไปช่วยปรับปรุงวิธีการจัดเก็บข้อมูลในจอทีวี ไม่ใช่พอปิดเครื่อง ข้อมูลทุกอย่างก็หายหมด
นอกจากนี้ ขอให้กองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ช่วยสอบสวนประเด็นดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคคลอื่นมองว่า การสอบสวนครั้งนี้มีการฮั้วกัน
จากนั้นกรรมาธิการฯ ได้เรียกนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ มาชี้แจงกรณีการเปิดภาพโป๊ดูในห้องประชุมรัฐสภา พร้อมกับเชิญสื่อมวลชนออกจากห้อง โดยนายณัฏฐ์ ใช้เวลาชี้แจงประมาณ 30 นาที ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า มาชี้แจง 2 ประเด็นคือ 1. กรณีถูกสงสัยว่า เป็นผู้ส่งภาพจากโทรศัพท์มือถือไปยังจอทีวี ในห้องประชุมสภาฯ ซึ่ง ชี้แจงว่า ไม่ได้ทำ เพราะไม่ได้ใช้โทรศัพท์รุ่นที่สามารถส่งภาพไปยังจอทีวีได้ 2. ความไม่เหมาะสมกรณีการเปิดภาพโป๊ระหว่างการประชุมรัฐสภา ซึ่งชี้แจงว่า มีเพื่อนส่งภาพดังกล่าวเข้ามา เมื่อเปิดดูก็ลบทิ้งทันที ไม่ได้ดูเพื่อความบันเทิง คิดว่า การใช้โทรศัพท์ โดยพิมพ์ข้อความตอบโต้กัน ซึ่งไม่ใช่การพูดคุยกัน ไม่เป็นการรบกวนการประชุม แต่ในหลักการเป็นเรื่องไม่สมควรทำ ก็ขอโทษในประเด็นนี้
โดยหลังการชี้แจง กรรมาธิการฯ ไม่ติดใจทั้ง 2 ประเด็น ส่วนตัวอยากให้ยุติการนำประเด็นนี้ไปตอบโต้ทางการเมืองได้แล้ว เพราะทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาลออกมาตอบโต้กัน รู้สึกไม่สบายใจ เสียใจ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ได้ไปกราบขอโทษ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เป็นการส่วนตัว เพราะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในสภาฯ และได้ไปกราบขอโทษผู้ใหญ่ทุกคนที่ทำให้เกิดเหตุวุ่นวาย ซึ่งผู้ใหญ่ให้คำแนะนำว่า ให้ระวังการใช้โทรศัพท์มากขึ้นด้วย ส่วนตัวพร้อมเดินหน้าทำงานในฐานะเป็น ส.ส.ต่อไป ไม่ลาออก.
โดย: ทีมข่าวการเมือง
26 เมษายน 2555, 14:55 น. http://www.thairath.co.th/content/pol/255878
จากคุณ |
:
มาลัยดำ
|
เขียนเมื่อ |
:
26 เม.ย. 55 16:06:15
A:223.206.200.32 X:
|
|
|
|
 |