(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 1 พฤษภาคม 2555)
สงสัยไหมว่า ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งเดินทางไปประเทศลาวนั้น
ได้พูดอะไรให้คนที่นั่นฟังกันบ้าง
เพราะข่าวคราวที่ปรากฏ มีแต่รดน้ำดำหัวขอพร ไม่ปรากฏ
เนื้อข่าวเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูด
ทั้งๆ ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยประกาศตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งว่า
"ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ดังนั้น เมื่อมีโอกาสจะได้ฟัง
พ.ต.ท.ทักษิณพูด
เนื้อหาจึงน่าสนใจ
เหตุนี้เองจึงรบกวนเพื่อนสื่อมวลชนที่เดินทางไปลาวในช่วงเวลานั้น
ขอแบ่งปันข่าวสารมาเล่าสู่กันฟัง แต่เนื่องจากเนื้อหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ
พูดมีความยาวพอสมควร จึงต้องตัดต่อบางส่วน เพื่อให้การนำเสนอกระชับ
และต่อไปนี้เป็นแนวคิดที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดที่ประเทศลาว....
"....โลกยุคใหม่นี้ อยากได้มากจะได้น้อย อยากได้น้อยจะได้มาก
คนโลภมากอยู่ไม่ได้แล้วในโลกนี้ คนใจกว้างจะอยู่ได้ คนปิดตัวเอง
ก็อยู่ไม่ได้ คนเปิดตัวเองจะมีเพื่อนเยอะขึ้น ดูเหมือนจะได้น้อยลง
แต่ได้มากขึ้นเพิ่มขึ้น
ภาษีก็เหมือนกันดูเหมือนจะเก็บน้อยลง แต่ฐานภาษีมัน
ขยายมากขึ้น คนจะเข้าสู่ระบบมากขึ้น วันนี้ประเทศไทย
มีเศรษฐกิจใต้ดิน เศรษฐกิจนอกระบบเยอะมาก หลายรูป
แบบ ถ้าประเทศไทยไม่ย้อนกลับไปเหมือนกับก่อนมี
การปฏิวัติ เศรษฐกิจใต้ดินจะแข็งแรงมาก แล้วเป็นอันตราย
ต่อระบบประชาธิปไตย
เหมือนกันครับ ทุกประเทศวันนี้ต้องปรับตัวอย่างเดียว
ศักยภาพการผลิตเป็นเรื่องสำคัญ การผลิตต้นทุนถูก
เป็นเรื่องสำคัญ แล้วอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย
ยกตัวอย่าง ข้าวโพดที่ลาวผลิตได้ถูกกว่าไทยเยอะ
แล้วต่อไปสินค้าก็ต้องไหล กระทรวงพาณิชย์ไทยต้อง
คุยกับกระทรวงพาณิชย์ลาวว่า จะทำอย่างไรเมื่อสินค้า
มันจะไหลเข้าหากันอย่างมีระบบ โดยไม่ต้องไปผ่าน
ระบบใต้ดิน เพื่อส่งเสริมคนกระทำผิดกฎหมาย ฉะนั้น
รัฐบาลทุกประเทศต้องใกล้ชิดกันมากขึ้น รัฐมนตรีทุก
กระทรวงต้องมีการพบปะพูดคุยกันบ่อยๆ
ถ้าจำได้สมัยผมยังทำหน้าที่อยู่ ผมได้ประชุม ครม.ร่วมกับ
หลายประเทศในอาเซียน เพื่อให้รัฐมนตรีรู้จักกันและทำงาน
ร่วมกัน เพราะมองเป็นคนละประเทศไม่ได้เราเป็นภูมิภาค
เดียวกัน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน และผมก็บอกว่าเรา
ต้องใจกว้าง โดยเฉพาะประเทศไทยมีเศรษฐกิจที่ GDP
เมื่อรวมกันกับ ลาว เขมร พม่า ไทย
GDP รวมกันแล้วเป็นของไทยสัก 90 เปอร์เซ็นต์
ฉะนั้น ไทยต้องใจกว้าง ต้องส่งเสริมให้ประเทศเพื่อนบ้าน
แข็งแรง ผมหวังว่า โครงการที่วางไว้นั้นจะได้รับการสานต่อ
วันนี้ทั้งโลกกำลังให้ความสนใจพม่า หลังจากที่ออง ซาน ซูจี
ได้เข้าเลือกตั้งแล้ว ประเทศทั้งหลายจะทยอยมา ขนาดอังกฤษ
กับอเมริกา รัฐมนตรีแอบไปพม่า ผ่านไทยแต่ไม่แวะ
เพื่อต้องการคุยกับพม่าให้เห็นว่าเขาพร้อม
วันนี้ขอให้เข้าใจว่า ถ้าจะยืนได้ จะเป็นคนที่มีคนสนใจ
ท่านต้องแข็งแรง ถ้าท่านอ่อนแอก็ไม่มีคนสนใจ เพราะ
การเมืองระหว่างประเทศวันนี้เป็นเรื่องของผลประโยชน์
ทางเศรษฐกิจกับยุทธศาสตร์ทางการเมือง และเพื่อ
ความมั่นคงเท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่น"
นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูด แต่เนื้อหายังไม่หมด
แค่นี้ ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่อยากนำเสนอ
แต่เนื้อที่สัปดาห์นี้หมดแล้ว จึงขอยกเนื้อหาที่เหลือไปไว้
สัปดาห์หน้าอีกสักสัปดาห์หนึ่งครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1335858962&grpid=&catid=02&subcatid=0200
อ่านแแล้ว ก็จะรู้ว่า วิสัยทัศน์ของคุณทักษิณนั้น ล้ำหน้าฝ่ายตรงกันข้าม
หลายช่วงตัว เคยฟังคุณอภิสิทธิ์ ที่เป็นนักวิชาการ เป็นอาจารย์
เป็นนายกรมต.พูดอะไรดีๆ แบบนี้บ้างไหม ลาวเขาฟังแล้ว
คนไทยก็มาอ่านต่ออีกรอบ
น่าเสียดาย ที่ไม่มีสื่อไหน ให้ความสนใจสาระดีๆ แบบนี้
เสียดายทรัพยากรบุคคลท่านนี้ ที่สูญเสียไปเพราะความขัดแย้ง