ความคิดเห็นที่ 1 ภาพประกอบ 1 จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 19:58:45 A:58.8.233.80 X:

ความคิดเห็นที่ 2 สรุปการกู้ยืมเงินในประเทศสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ( 2 ปี 7 เดือน ) 2552 กู้ยืมเงินในประเทศสุทธิ = 522,589 ล้านบาท 2553 กู้ยืมเงินในประเทศสุทธิ = 420,802 ล้านบาท 2554 (ม.ค.-ก.ค.) กู้ยืมเงินในประเทศสุทธิ = 16,050 ล้านบาท สรุป 2 ปี 7 เดือน กู้ยืมเงินในประเทศสุทธิ = 959,441 ล้านบาท หมายเหตุ ถ้าตัวเลขติดลบคือ คืนเงินที่กู้ ที่มา : รวบรวมมาจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย http://www2.bot.or.th/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=38&language=TH จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 20:00:22 A:58.8.233.80 X:

ความคิดเห็นที่ 3 จากตารางข้อมูลในปี 2553 จะเห็นว่า มีการกู้ยืมเงินจากแหล่งต่างในประเทศ 420,802 ล้านบาท ข้อ 7 กู้ยืมในประเทศสุทธิ = 420,802 ล้านบาท เพื่อนำไปชดเชยดุลเงนสดที่ขาดดุล 265,893 ล้านบาท และใช้คืนหนี้ต่างประเทศ 2,463 ล้านบาท ข้อ 6 การชดเชยดุลเงินสด 6/= 265,893 ล้านบาท ข้อ12 กู้ยืมต่างประเทศสุทธิ = -2,463 ล้านบาท ที่เหลือกลายเป็นเงินคงคลัง 152,446 ล้านบาท ข้อ15 เงินคงคลังในปี 2553 = -152,446 ล้านบาท จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 20:11:01 A:58.8.216.157 X:

ความคิดเห็นที่ 4 สรุป 2 ปี 7 เดือนของรัฐบาลอภิสิทธิ์ กู้มา 959,441 ล้านบาท เพื่อชดเชยดุลเงินสดที่ขาดดุล และใช้คืนเงินกู้ต่างประเทศอีกนิดหน่อย ที่เหลือก็กลายเป็นเงินคงคลังโดยอัตโนมัติ ซึ่งเงินคงคลังเพิ่มขึ้นจากตอนที่เข้ามา 217,367 ล้านบาท ไม่ได้เกิดจากการบริหารจนเศรษฐกิจดี ทำให้มีรายได้มากกว่ารายจ่ายอะไร แต่เงินคงคลังเหลือเยอะ เพราะกู้มามากกว่าที่ต้องใช้ก็เลยเหลือ เหมือนคนไปกู้เงินมา 1 ล้านบาท แล้วใช้ไป 5 แสนบาทเหลือ 5 แสนบาท แล้วมาคุยว่าทำงานเก่งมีเงินเหลือ 5 แสนบาท แต่ไม่พูดถึงยอดหนี้ที่กู้มาทั้งหมด และการหาเงินใช้หนี้คืนในอนาคต จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 20:12:34 A:58.8.216.157 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมกู้น้อยจัง สรุป 2 ปี 7 เดือน กู้ยืมเงินในประเทศสุทธิ = 959,441 ล้านบาท ถ้าจำไม่ผิด พรกกู้ 800,000 ล้านบาท งบขาดดุล 2 ปีติดต่อกัน 800,000  ล้านบาท อย่างน้อย 1.6 ล้านล้านบาท มั่วหรือเปล่า? จากคุณ : aumstar เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 20:13:51 A:101.109.98.169 X:

ความคิดเห็นที่ 6 แปลกใจไหม ทำไมผลกำไรธนาคารในประเทศ กำไรกันระเบิดเถิดเทิง ก็เพราะไปมาร์ค ไปช่วยกู้เงินแบ็งค์พวกนี้ไว้   พูดง่ายๆ เอาเงินรายได้ประเทศไปแจกแบ้งค์ เหมือนผลต่างตอบแทน แล้วประชาชนได้อะไร และแบ็งค์เหล่านี้ เคยคิดจะลดดอกเบี้ยเงินกู้ไหม ผมไม่เคยได้ยินนนะ แล้วดอกฝากล่ะ คิดจะเพิ่มขึ้นไหม ก็มีแต่จะคงไว้ หรือลดลง แต่ไปแอบเก็บเกี่ยวรายได้จากการที่ มาร์ค ไปกู้มาเก็บ ดอกเบีี้ยจากการกู้มาเก็บที่ต้องจ่ายคิดเป็นเงินเท่าไร ตกลงใครได้ ใครเสียครับ อยากให้นักเศรษฐศาสตร์ 63 คนที่บอกว่ารัฐบาล เพื่อไทย ยอดแย่ แต่ไอ้ที่รัฐบาลที่แล้ว แอบแจกเงินให้แบ็งค์ไทยนี่ไม่แย่ กว่าหรือ เงินฝากไม่ปล่อยกู้เอกชน ดันไปปล่อยก็รัฐเอา ไปเก็บโชวตัวเลข จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 20:23:49 A:58.8.216.24 X:

ความคิดเห็นที่ 7 แค่นี้ก็สุดจะเคลียร์แล้วครับ คงซุกไว้ที่ไหนสักที่ หรืออย่างไร ก็ต้องตามแกะต่อไป นี่เอาข้อมูล แบ้งค์ชาติมาให้ดู แค่นี้ก็เคลียร์กัน ไม่ไหวแล้ว จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 20:26:00 A:58.8.216.24 X:

ความคิดเห็นที่ 8 โหเยอะนะนั้น กว่าจะเคลียร์หมดใช้เวลากี่ปี่นะเนี้ย จากคุณ : นพนครพิงค์ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 20:28:14 A:101.109.19.189 X:

ความคิดเห็นที่ 9 หรือซุกไว้ในปี 54 เพราะงบประมาณปี 54 มาร์คเป้นคนตั้ง จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 20:31:15 A:58.8.216.24 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ไอ้พรรคนี้มันหาเงินเป้นซะที่ไหน เก่งแต่กู้ครับ สมัยทักษิณทำงบประมาณ โดยหาเงินมาได้โดยไม่ต้องกู้เขามาบริหาร แต่หลังจากปฏิวติมา .ประเทศไทยเป้นหนี้แทบจะขายประเทศกินแล้วครับ จากคุณ : ปวดตับจริงๆ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 20:42:54 A:124.121.1.11 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ดูผลประกอบการแล้ว ปี49 ปีที่ปฏิวัติ ดีที่สุด กู้ในประเทศน้อย การใช้คืนต่างประเทศเยอะ และคืนเข้าคลังด้วย  ดีอยู่ปีเดียวเอง แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 55 21:01:46 จากคุณ : badboysII เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 20:59:25 A:110.168.41.224 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ถูกต้องครับ รบ.ที่แล้วกู้มา แล้วใช้ไม่หมดครับ เพราะเศรษฐกิจ ฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดครับ เลยไม่จำเป้นต้องเอาเงินกู้ที่เหลือ นำไปกระตุ้นเศรษฐกิจครับ จากคุณ : เอ (gunthaporn) เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 20:59:40 A:58.9.219.189 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ประสาทและ แปดแสนล้านมันไม่ใช่เงินเงินกู้ปีละแปดแสนล้าน แต่มันออกเป็น พรก สี่แสนล้าน ที่ใช้ในปีงบประมาณนั้น เพราะมันเรื่องฉุกเฉิน กับ พรบ อีก สีแสนล้าน ที่เป็นงบผู้พันข้ามปีตามไทยเข้มแข็ง รวม แปดแสนล้านตามที่เห็นนั่นแหละ แล้วก็มันไม่ใช่กู้มา ล้าน ใช้ไป ห้าแสน เหลือ ห้าแสน เป็นเงินคงคลัง เวลาทำงบประมาณ เค้าต้องประมาณการรายได้ แล้วตั้งงบค่าใช้จ่าย ถ้าเศรษฐกิจแนวโน้มมั้ยแย่ ประมาณการรายรับมันก็ต่ำ แต่งบต้องตั้งไว้สูงเพื่อลงทุน + กระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจมันฟื้นดีขึ้น รายรับจริงปลายปีมันก็มากเกินประมาณการรายรับ มันเลยเข้ามาเป็นเงินคงคลัง ไปขุดตัวเลขมาก็หัดทำความเข้าใจตัวเลขที่มาที่ไปด้วย ปล แล้วปูมันกู้ไปเท่าไหร่เนี่ยปีนี้ หึหึ งบ54 ใช้กรอบวงเงินของเดิม แล้วปูผ่านงบทีหลัง หลังเลือกตั้งนะ เข้าใจซะใหม่ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 21:03:16 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 14 ข้อ 9 10 11 นี่เป็นพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนั้นเลยครับ ดอกแพงกว่า กู้ต่างชาติ เยอะ เพราะไม่กล้าไปเจรจาขอกู้กับใคร เลยต้องกู้กันในประเทศ แล้วมีการอ้างว่ากู้ในประเทศไม่ต้องเป็นทาสทางการเงินของใคร  โครงการรถไฟฟ้า เส้น บางซื่อ บางใหญ่ ก็เกือบโดนเอาเงินกู้คืน คนที่ไปเจรจาขอก็ก็รัฐบาลทักษิณ รัฐบาลที่แล้วเหมือนกับ พวกกู้เงินล้านมาวางบนขันหมาก เช่ารถเบนซ์มารับส่งคู่บ่าวสาว ยังไงยังงั้นเลย จากคุณ : นายสบายสบาย เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 21:04:17 A:125.25.121.215 X:

ความคิดเห็นที่ 15 พูดเฉพาะการกู้เงิน กู้ในประเทศโดยออกพันธบัตรดีกว่ากู้ต่างประเทศครับ อย่างน้อยดอกเบี้ยก็ตกอยู่่ในมือประชาชนคนไทยเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ไหลเข้าสู่มือฝรั่งเหมือนกู้ต่างประเทศครับ จากคุณ : badboysII เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 21:08:45 A:110.168.41.224 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ก็ตกใจ กู้มาแล้ว จะให้มาร์คทำไงละ มาร์คไม่รู้หนิว่ายุโรปจะพื้นตัวเร็วจนไม่กระทบประเทศไทย โยนลงนโยบายโกงแข็มแข็ง ใช้ไม่หมดก็เก็บเข้าคลัง แบ่งๆให้พรรคร่วม โยนเงินเข้าระบบมหาศาลแบบนี้ เงินเฟ้อสิครับนายจ๋า คงไม่ต้องบอกนะว่าของแพงเพราะอะไร จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 21:21:35 A:49.48.92.41 X:

ความคิดเห็นที่ 17 จขกท อธิบายได้เห็นภาพมีตัวเลขประกอบ คห.13 จะค้านก็หาอะไรที่กล่าวอ้างได้อย่างน่าเชื่อถือหน่อย ตอบลอยๆ แบบนี้เห็นมาเบื่อและ จากคุณ : บอกก็ไม่รู้ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 21:22:20 A:27.130.108.194 X:

ความคิดเห็นที่ 18 #17 รุงเทพฯ 11 มิ.ย. - นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือนพฤษภาคม 2553 โดยรัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 2.76 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้า 2.7 พันล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิสูงกว่าเป้าหมายกว่า 2.1 แสนล้านบาท หรือร้อยละ 23.2   http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/66021.html "8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิสูงกว่าเป้าหมายกว่า 2.1 แสนล้านบาท" พอมั้ย มีตัวเลขประกอบ แต่มันอธิบายผิด เบื่อเหมือนกัน จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 21:30:16 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 19 อ่ะ เอาไปอีก ในช่วง ๗ เดือนแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๔ (ตุลาคม ๒๕๕๓ – เมษายน ๒๕๕๔) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 917,538 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 117,511 ล้านบาท หรือร้อยละ ๑๔.7 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ ๗.2) เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าเป้าหมาย ๖๒,509 ๓๗,๑๙๙ ๗,๑๗๘ และ ๑๐,๑๕๖ ล้านบาท ตามลำดับ http://www.fpo.go.th/FPO/modules/Content/getfile.php?contentfileID=843 จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 21:32:43 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 20 คห 18 ใครเข้าใจเขาอธิบายบ้าง แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 55 22:28:42 จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 22:27:24 A:49.48.92.41 X:

ความคิดเห็นที่ 21 โห ต้องขนาดต้องย่อยแล้วป้อนให้ถึงปากเลยหรอ http://www.bb.go.th/bbhome/viewextf.asp?x=1&p=/FILEROOM/CABBBIWEBFORM/DRAWER29/GENERAL/DATA0000/00000044.PDF&m=%A7%BA%BB%C3%D0%C1%D2%B3%E2%B4%C2%CA%D1%A7%E0%A2%BB งบประมาณประจำปี 2553 ตอนทำร่างงบประมาณ ประมาณการรายได้ 1.35 ล้านล้านบาท จัดทำงบประมาณรายจ่าย 1.7 ล้านล้านบาท ประมาณรายได้มายังไง ทำไม 1.35 ไปอ่านเอา รายจ่ายจำแนกยังไงรายจ่ายประจำเท่าไหร่ ลงทุนเท่าไหร่ ไปอ่านเอา พอได้ประมาณการรายรับ + งบประมาณรายจ่าย มันขาดดุล ก็ต้องกู้มา 3.5 แสนล้าน นั่นตอนต้นปี พอมันมีการอัดเงินกระตุ้นเข้าไป เศรษฐกิจมันฟื้นดี การจัดเก็บรายได้ก็ดีตาม ตาม#18 7 เดือนสูงกว่าเป้า 2.1 แสนล้าน ทั้งปี 3.7 แสนล้าน เงินที่จัดเก็บรายได้มากกว่าเป้า ก็กลับเข้ามาเป็นเงินคงคลัง แล้วตัวเลขก็สรุปออกมา้ ณ สิ้นปีเป็นตารางใน #1 ก็แค่นั้น จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 23:01:19 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 22 Dark Archon แล้วกับข้อมูลที่ผมวงแดงไว้ มีความเห็นอย่างไร อธิบายตามความเข้าใจคุณนะ ไม่ต้องตัดแปะ แล้วที่เงินคงคลังติดลบคุณมีความเห็นอยางไร เอาตามความเข้าใจองคุณนะ อย่าตัดแปะ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 55 23:02:02 จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 23:01:45 A:58.11.111.235 X:

ความคิดเห็นที่ 23 คห 21 เงินที่จัดเก็บรายได้มากกว่าเป้า ก็กลับเข้ามาเป็นเงินคงคลัง  >>แล้วรายจ่ายที่มากกว่ารายได้ละครับ  เงินคงคลังมาจากไหน?? จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 23:15:16 A:49.48.92.41 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ผมว่าก็พูดไปเคลียร์แล้วนะ เงินกู้ก็ส่วนเงินกู้ กู้มาชดเชยการขนาดดุลงบประมาณ ตอนทำ พรบ งบประมาณสองปี งบไปไทยเข้มแข็ง 1.43 ล้านล้าน เป็นเงินกู้ ตาม พรบ + พรก 8 แสนล้าน + กับชดเชยขาดดุลอีก เท่าไหร่่จำไม่ได้ ก็ในวงสองก้อนนี้ด้วย พอกู้ไปเพื่อลงทุน + กระตุ้นเศรษฐกิจ เศรษฐกิจฟื้น เงินก็ไหลกลับเข้ามามากกว่าประมาณการ มันก็ไปอยู่ในส่วนเงินคงคลัง ทำให้การใช้เงินไม่มีการดึงออกไป แต่ไหลเข้ามา การใช้เงินคงคลังก็ติดลบ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนบริหารงบในปีต่อไปจะทำยังไง ถ้าตั้งงบขาดดุล ก็เอาตรงนี้มาใช้ได้ ไม่ต้องกู้ หรือจะเอาไปจ่ายหนี้เงินกู้ก็ได้ ตาม พรบ เงินคงคลัง คนได้อานิสงค์ก็คนบริหารงบปีถัดๆมาไง จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 23:16:01 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 25 #23 ไปเปิดอ่านวิธีจัดทำงบประมาณสิที่แปะไว้ให้สิ รายได้ = รายรับ + เงินกู้ รายจ่าย ก็ = รายจ่าย เมื่อรายรับ + เงินกู้ > รายจ่าย ส่วนที่เหลือก็เข้าเป็นเงินคงคลัง จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 23:18:23 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 26 ไอ้เรื่องสูงกว่าเป้า ไม่ต้องมาคุย ถ้าตั้งเป้าไว้ต่ำ กว่าความเป้นจริง มันก็ดูเป็นบวกได้ เอาแบบเปรียบเทียบ งบประมาณ กับ  ผลดำเนินการจริงละกัน ทำไมมันต่างกัน มากมาย แสดงว่าตั้งเป้าไว้แล้วทำไม่ได้ใช่หรือ ไม่เช่น ตั้งงบ ปี 52ว่าจะมี รายรับ 1.95 ล้าน ล้าน แต่รับจริง 1.48 รายจ่าย 1.95 ล้าน ล้าน แต่จ่ายจริง 1.85 ส่วนต่างเลยต้องกู้มาโปะมากขึ้น หรือไม่ จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 23:22:19 A:58.11.111.235 X:

ความคิดเห็นที่ 27 สรุปว่า เก็บเงินเข้าคลัง แล้วกู้มาชดเชยงบขาดดุล เพื่อ? จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 23:24:57 A:49.48.92.41 X:

ความคิดเห็นที่ 28 #26 บร๊ะแล้ว hamburger crisis 2551-2552 แล้วถ้าปี 2552 จัดเก็บรายได้ไ้ด้ 1.48 ล้าน แล้วจะให้ตั้งประมาณการรายรับไว้เท่าไหร่? จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 23:32:26 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 29 #27 อธิบายมาตั้งนาน ยังไม่เข้าใจอีกอ่ะ เค้ากู้มาก่อนเพื่อลงทุน + กระตุ้น รายรับมันกลับมามากเกินประมาณการทีหลัง มันเลยค่อยเข้าคลัง จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 23:33:46 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 30 Dark Archon ถ้าเป็นตามที่คุณอธิบาย ก้ยิ่งมองว่า มั่ว แล้วมาตั้งสูงเพื่อเจตนาอะไร  ? ทั้งที่รู้ว่า มีปัญหา Sub Prime อันนี้รู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว แต่เท่าที่ข้อมูลที่ผมเห็น ไม่ใช่ ประเด็นนี้ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 55 23:56:00 จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 23:54:43 A:58.11.70.141 X:

ความคิดเห็นที่ 31 เข้าใจแล้วครับ กู้ขาดดุล 9.4แสนล้าน โดยเสียดอกเบี้ย หักเงินคงคลัง 2.1แสนล้าน โดยไม่ได้ดอกเบี้ย แปลกว่าอภิสิทธิ์ สร้างหนี้ทั้งหมด 7.3แสนล้านใช้มะ จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 55 23:55:47 A:49.48.92.41 X:

ความคิดเห็นที่ 32 มันเป็นการสร้างรายรับหลอก เพื่อตั้งรายจ่ายให้สูงได้ อย่างมีเหตุผล โดนสมมุต GDP จนเวอร์ เป้าหมายก็ ตั้งไว้แต่แรกแล้วไม่ใช่หรือว่า จะกู้ จนได้รับตำแหน่ง รมต นักกู้ระดับโลก จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:00:05 A:58.11.70.141 X:

ความคิดเห็นที่ 33 ตั้งอะไรมาสูงครับเพ่ ประมาณการรายรับ 2552 (ต.ค. 51 - กย 52) = 1.58 ล้านๆ งบประมาณรายจ่าย 2552 = 1.853 ล้าน อันไหนสูง? ถ้ารายจ่ายสูง ก็แหงสิพี่ เค้าต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ประมาณการรายรับ 2553 (ต.ค. 52 - กย 53) = 1.35 ล้านๆ งบประมาณรายจ่าย 2553 = 1.75 ล้าน พี่ว่าตัวไหนสูง แล้วตัวไหนที่พี่ว่าควรจะสูง และเพราะอะไร? ประมาณการของสำนักงบครับเพ่ http://www.bb.go.th/bbhome/page.asp?option=content&dsc=%A7%BA%BB%C3%D0%C1%D2%B3%E2%B4%C2%CA%D1%A7%E0%A2%BB&folddsc=29001 ประมาณการสำนักงบ คือตอนประมาณการต้นปีเพื่อทำงบ ส่วน MoF/FPO ตัวเลขจริงที่เกิดจากการดำเนินตามนโยบายเรียบร้อย ตอนปลายปี จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:00:20 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 34 #31 2 ปี 7.3 แสนล้าน แต่พี่ปูของพี่ ปีนี้ปีเดียวออกพรก กู้เงิน 4 แสนล้านนะพี่ หึหึหึ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:01:55 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 35 #32 ตั้งรายรับหลอกอะไรพี่ พี่ไปดูประมาณการรายรับดิพี่ตรงไหนตั้งไว้สูง แต่ตัวเลขที่พี่เอามา มันรายรับจริงปลายปีครับ มันถึงไหลกลับมาเป็นเงินคงคลังไง ถ้้าตั้งรายรับไว้หลอกๆให้สูง แล้วเงินแมวที่ไหนมันจะไหลกลับมาเข้าคลังล่ะคร๊าบบบ จะคิดอย่างนั้น พี่ก็จมอยู่แบบนี้ต่อไปเหอะ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:04:49 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 36 เอ้่าดูข้อมูล แล้วคุณคิดยังไง จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:27:40 A:58.8.135.239 X:

ความคิดเห็นที่ 37 ไอ้วิกฤต น่ะ มันปี 50-51 http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%8C บวก พันธมิตรยึดสนามบินไล่รัฐบาล มาร์คมาต่อ ก็ตั้ง รายจ่ายไว้ เพราะคาดว่ารายได้จะสูง มองในแง่ ดีเกินไป รายได้มัน้ลยพลาดเป้า ต้องกู้เพิ่มจากประมาณการ ส่วน ปี 53 รู้ตัวเลยตั้งรายรับไว้ต่ำ เวลาจัดเก็บรายได้ ออกมาสุงกว่า เป้าเลยเอามาคุย แต่ทั้งงหมด มันไม่ได้ตอบคำถามเลยว่า เพราะเหตุใด ถึงตั้งเป้าพลาด กันขนาดนั้น จนต้องกู้สูงกว่าประมาณการ นี่คือคำถาม ยอมรับหรือไม่ว่า ไม่ใช่มืออาชีพเลยถ้าทำงานแบบนนั้น จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:36:13 A:58.8.135.239 X:

ความคิดเห็นที่ 38 ีพี่เข้าใจอะไรผิดป่าวค๊าบบบบบบ ทำไมเอา 1.48 ล้านๆ ไปเทียบกับ 1.95 ล้านๆ ละค้าบบ 1.48 ล้านๆ (รายได้จริง) มันต้องเทียบกับ 1.60 ล้านๆ (ประมาณการรายได้) สิค๊าบบบ พี่ลองเอาประมาณการรายได้ 1,604,639.5 + เงินกู้ 347,060.5 มันจะได้ 1,951,700 เป๊ะๆเลยค๊าบบบบบ ส่วนรายได้จริง 1.725 ของปี 53 มันต้องเทียบกับ ประมาณการ 1.350 ล้าน สิค๊าบบ ส่วนต่างรายได้จริงกับประมาณการ มันเลยไหลเข้าคลังไงค๊าบบบบ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:40:47 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 39 บอกได้เลย ถ้าตั้งงบกันแบบนี้แล้วมาทำงานที่บริษัทแล้วอธิบายความ ล้มเหลวแบบนี้  เงินเดือนเดือนสุดท้ายก่อนถูกไล่ออก อาจะไม่ได้รับ ด้วย ซ้ำไป เจ็งทั้งสองปี จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:42:59 A:58.8.135.239 X:

ความคิดเห็นที่ 40 ผมว่าพี่กลับไปทำความเข้าใจตารางนี้ใหม่ดีกว่านะพี่ พี่เข้าใจผิดไปเยอะเลย อ้อ แล้วถ้าจะให้ดี พี่ไปดูว่า พรบ งบประมาณ 2552 (ตค 2551 - กย 2552) มันผ่านสภาไปวันไหน ใครตั้งงบประมาณ ก่อนดีกว่านะค๊าบบบ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:44:36 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 41 ผมว่า ไม่น่าเข้าใจยากนะ รัฐตั้งสมมุตฐานว่า รายรับ เท่ากับ รายจ่าย แต่ Actual รายจ่าย มันมากกว่ารายรับไง ผมไม่ได้แสดงทั้งหมด เพียงแต่เทียบให้ดู ว่า ถ้า มัน dif กันขนาดนี้ รายจ่ายมันจะลงตัวก็ด้วย การกู้ เพิ่ม คุณกำลังพยายามจะอธิบาย Balance แต่้ผมพย่ายามชี้ว่า อะไรมัน Dif ไปจาก Budget บ้าง ให้ดูรายการที่ แบ็งค์ชาติทำไว้ เขาก็ชัดเจนนะ รายรับคุณได้เท่าไร รายจ่ายคุณได้เท่าไร ที่เหลือ ก็ควักจากไหนมาลงเพิ่ม จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:48:37 A:58.8.135.239 X:

ความคิดเห็นที่ 42 พี่ จะอธิบาย diff กับ budget แล้วพี่เทียบกะ budget รึเปล่าละพี่? จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:50:15 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 43 เพราะการที่ตั้งรายรับไว้ต่ำไปหรือป่าว ที่ไทยต้องกู้เงินโดยไม่จำเป็น และเสียดอกเบี้ยไปฟรีๆ จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:58:06 A:49.48.92.41 X:

ความคิดเห็นที่ 44 Revenue budget 52 1.60 ล้านๆ Actual 1.48 ล้านๆ แล้ว revenue budget 53 ควรจะต้องตั้งเท่าไหร่ครับ? subprime มันลากยาวไป 2010 (2553 ปลายปี นะครับ) เลยปีงบประมาณ 2553 ไปอีกนะครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Subprime_mortgage_crisis จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:03:34 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 45 รายจ่ายปี52  1.8 ล้านๆ บวก ขึ้นภาษีสรรพสามิต และน้ำมัน  รายรับมันต้องสูงสิ ใช้มะ จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:13:12 A:49.48.92.41 X:

ความคิดเห็นที่ 46 วิกฤติ ที่อเมริกา พื้นตัวเร็วครับ ผลกระทบที่ไทยน้อยมาก จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:16:47 A:49.48.92.41 X:

ความคิดเห็นที่ 47 คุณไปเอาข้อมูล สรุปของสำนักงานพ็ฒนาเศราฐกิจและการพานิชย์ เขาสรุปรายไตรมาสไว้ชัดเจน บ้านเรามีปํญหาหนักแค่ช่วง 50-51 พอ 52 ก็เริ่มฟื้น ที่พื้นเพราะ ตลาดส่งออกเราหันมาทางเอเชีย ไม่ได้ พึ่งทางยุโรป เขาปรับตัวกันเอง อีกทั้งตลาดในประเทศก็ช่วยหนุน มัน ไม่เกี่ยวกับ ปี 53 เอาแค่แถวๆนี้ั ไม่ต้องไปไกล ยุโรป ตลาดมันเน่าใครก็รู้ จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:17:25 A:58.8.134.39 X:

ความคิดเห็นที่ 48 นั่นสิ สรรพสามิตน้ำมัน กลับมาเป็นรายได้เท่าไหร่? วิกฤตเมกา ฟื้นแล้วเร็ว แต่กว่าจะฟื้นก็กลางๆ-ปลาย 53 แล้วอย่างลืมว่าบ้านเรามีวิกฤตการเมืองอีกนะ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:19:11 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 49 ส่วนเรื่อง ขอ งงบประมาณ ถ้าปรับอย่างที่คุณพูด ตัวเลขมันยิ่งเลว บัดซบเข้าไปอีก กลายเป็นว่า รายได้สุง กว่าประมาณการมากๆ แต่ก็ต้องกู้อีกเป็น แสนล้านเพิ่อชดเชยรายจ่าย ผมดูตามตัวเลขนะ แล้ว นี่คือฝีมือการบริหารหรือปล่อยตามน้ำไปเรื่อย แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 55 01:35:27 จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:19:57 A:58.8.134.39 X:

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่ได้พูดถึงยุโรปซักคำเลย จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:20:01 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 51 นั่นแหละกว่าพี่จะเทียบถูกต้ว พี่จะมองว่าตัวเลขมันเลวร้าย อันนั้นก็มุมมองของพี่ แต่ถ้ามองว่าดี มันก็ดีตามที่ผมพยายามอธิบายไปไงพี่ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:23:07 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 52 เอาละ ถ้าข้อมูลมันตรงกัน เทียบถูกตัวกันแล้ว ก็ขึ้นอยู่ว่าจะมองกันยังไงแล้วล่ะ หมดหน้าที่ผมแระ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:25:00 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 53 อ้อ แถมท้ายนิดนึง พอเศรษฐกิจฟื้น จัดเก็บรายได้ดี เค้าก็ยกเลิกเงินกู้ไป 4 แสนล้านนะ http://www.moneychannel.co.th/Menu6/NewsUpdate/tabid/89/newsid491/114467/Default.aspx จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:32:22 A:14.207.161.68 X:

ความคิดเห็นที่ 54 Net ของ True ตัด ต่อเป็นสิบครั้ง นับแต่หัวค่ำ แล้ว ทำให้การPost มันกระท่อนกระแท่น ต้องขอโทษด้วย http://www.nesdb.go.th/Portals/0/eco_datas/economic/eco_state/4_53/Press%20Thai%20Q4-2010.pdf แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 55 01:36:28 จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:33:54 A:58.8.134.39 X:

ความคิดเห็นที่ 55 ใครติดตามโครงการไทยแข็มแข็งบ้าง  คุ้มค่ากับ 4 แสนล้านหรือป่าว จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:43:17 A:49.48.92.41 X:

ความคิดเห็นที่ 56 ในส่วนของรายได้ ผมยังมองว่า หลักๆก็มาจาก ภาคอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อส่งออก  ที่ถูกโดดเดีี่ยวในยุค มาร์ค สังเกตุดู มาร์คจะไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ถ้าเที่ยบ กับยุค นายกทักษิณแล้ว หนังคนละม้วน เหมือนกลับ ไปดูหนังขาวดำใหม่ การดูแลเอาใจใส่เรียกว่าทำแบบขอไปที แม้แต่ SME ก็ถูกปล่อยปะละเลย OTOP ก็ทำแบบไม่น่าเชื่อว่า จะตั้งใจทำ หาคนเดินดูงานแทบไม่เห็น แต่เวลารายได้เข้าประเทศ ดี กับอ้างเป็นผลงาน แบบนี้ไม่แฟร์กับประชาชนผู้เป็นเจ้าของเงิน ภาษี จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:46:43 A:58.8.134.39 X:

ความคิดเห็นที่ 57 พี่จะพูดยังไงก็พูดได้ ดีแต่พูด ดีแต่กู้ โดดเดี่ยว แต่สุดท้ายตัวเลขมันฟ้อง ยอดจัดเก็บรายได้สูงเป็นประวัติการ ยอดส่งออก ยอดเกินดุลการค้าพุ่งสูงสุด เศรษฐกิจพื้น GDP โต แต่หนี้มันก็โตตาม แต่ก็ค่อยๆลด คอยดูตัวเลขปีนี้ของพี่ปูของพี่ดีๆแล้วกัน ไม่ใช่อยู่ๆ ดุลการค้าขาดดุล ยอดส่งออกวูบ GDP Growth เติบโตลดลง ยอดกู้หนี้ใหม่ในปี พุ่ง ยอดหนี้ต่อ GDP พุ่งต่อไปอีก (ทั้งๆที่มีเงินคงคลังไว้ให้ทำงบขาดดุลไม่ต้องกู้เป็นแสนล้าน แล้วยังเอา หนี้กองทุนฟื้นฟูเป็นล้านๆไปหมกไว้ที่อื่นอีก) หุหุ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 07:55:24 A:1.20.0.160 X:

ความคิดเห็นที่ 58 สุดท้าย มันก็อยู่ที่ยอดส่งออกอยู่ดี ซึ่ง เป็นศูนย์รวมของคำตอบทั้งปวง การกระตุ้นตลาดในประเทศ มันแทบ ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าการควบคุม อัตราเงินเฟ้อ แต่ เงินเฟ้อ มันก็ไม่ใช่มองเป็นด้านลบอย่างเดียว มันสะท้อนสองมุม  มอกว่าเศรษฐกิจในด้านดี มันกำลังเดินไปข้างหน้า มันกำลังฟื้นดีขึ้นก็ได้ ของแพง บางครั้งมันมองได้สองทาง ทางหนึ่ง เศรษฐกิจโตมากขึ้น supply มันไม่พอ demand ไม่ใช่อยู่ๆ มันเพิ่มขึ้นโดยไม่มีเหตุผล แต่อย่าเอาไปเทียบกับสนมั ปชป ทำน้ำมันปาล์มขาด แบบ นั้น มองยังไงก็คือการรวมกันโกง สำหรับ ผลงานของรัฐบาล ผมไม่ได้มองว่า ใครทำอะไร ผมมองว่า สิ่งที่ทำมันเข้าท่าไหม ใคร Action เพื่อ Support อะไร แล้วมันตรงจุดไหม วันที่มาร์คเข้ามา มันไม่เคยสนใจภาคธุรกิจส่งออกอย่างจริงจัง ไม่ต้องถามครับ ไปเปรียเทียบการActionดูได้ ระหว่างมาร์คกับ ท่าน นายกทักษิณ มันต่างกันเห็นๆ ที่ผมรู้เพราะ ผมก็กำลังทำมา หากินกับธูรกิจส่งออก ผมพูดได้ มีข้อแตกต่างมากมาย จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 09:55:23 A:58.8.145.67 X:

ความคิดเห็นที่ 60 เพลียกับวิธีคิดกับ GDP ของพี่คราวก่อนมาทีนึงแล้ว จะมามั่วกับเงินคงคลังอีกแล้วหรือครับ หลังๆ มาออกทะเลไปเรื่องถึงน้ำมันปาล์ม ซะแล้ว ยอดส่งออก ยังไงๆ โดยรวมผมก็เห็นว่ามาร์คโตกว่า ตอนนี้เยอะนะ แล้วไหงไปเทียบไกล สมัยทักษิณละครับท่าน ปัจจัยและปัญหาต่างกันเยอะเลย แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 55 16:53:40 จากคุณ : โป๊งเหน่ง_NB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 16:47:41 A:124.121.79.195 X:

ความคิดเห็นที่ 61 ถ้าอภิสิทธิ์บริหารดีจริง แต่ทำไมรัฐบาลปัจจุบันทำงานยากละครับ คอยมาแก้ปัญหา ซึ่งก็ยังแก้ไม่ได้ จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 18:46:14 A:223.204.53.46 X:

ความคิดเห็นที่ 62 โป๊งเหน่ง_NB ยังไม่จบ อ้ะว่ามา แนะนำด้วย GDP ผมคิดอย่างไร ? อะไรที่คุณว่าผิด อะไรที่คุณว่าถูก เอ้าผมยกมาให้ ว่าไปซิ http://www.nesdb.go.th/Default.aspx?tabid=95 แกะกล่องออกมาเลย พวกคุณอยู่ที่ไหนไปรวบรวมมาให้หมด วันนี้ ทั้งคืน ขอทุ่มให้กับ GDP คุณโป๊งเหน่ง ห้ามนอนนะ มาลุยกัน พร้อมแล้วเริ่มเลย แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 55 20:26:32 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 55 20:25:49 จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 20:22:19 A:110.168.200.207 X:

ความคิดเห็นที่ 63 #61 พี่ปูทำเน่าเองแล้วยังไปโทษคนอื่นอีก - เอาอยู่ เอาจนวอดวายมิดโรงงาน ของผลิตไม่ได้ก็ไม่มีส่งออก ก็ขาดดุล - เอาอยู่ เอาจนวอดวายมิดโรงงาน GDP ก็ติดลบ - 15,000 ต่อตัน แล้วจะขายแมวที่ไหน พม่า อินเดีย เวียดนามยิ้มแก้มปริ ภาษีตรูเอาไปรับจำนำข้าว = ภาษีตรูเอาไปส่งเสริมความร่ำรวยให้คน พม่า อินเดีย เวียดนาม - ด่าคนอื่นดีแต่กู้ แต่พี่ปูแกก็กู้ไม่น้อยหน้า จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 22:50:30 A:171.7.146.29 X:

ความคิดเห็นที่ 64 เรื่องน้ำท่วมเปิดใจชะบ้าง เขื่อนมันเต็มจะให้น้ำมันไหลไปไหนละครับ หยั่งรู้อนาคตได้ก็ระบายน้ำทิ่งตั้งแต่เดือน พค แล้วครับ นโยบายประกันราคาของพี่มาร์ค ก็เอาภาษีตรูไปชดเชยเหมือนกัน และโดนโรงสีกดราคาอย่างหนัก  ส่งเสริมความร่ำรวยให้กับโรงสี แต่ชาวนาไทย จน เรื่องกู้เร่งด่วน ป้องกันน้ำท่วมไม่ชอบหรอ หรือว่างบไทยแข็มแข็งมีประโยชน์กว่า? จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 55 01:48:11 A:223.204.53.46 X: