#26 จ๋า
ที่คุณแสดงมา ถูกต้องจ้ะ แต่ยังไม่สมบูรณ์ หลักการการแบ่งแยกของคำว่า Meta ออกจากคำว่า Natural คือ อะไรที่เป็นการพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ หรือมีทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์รองรับ ถือว่าว่าเป็น Natural
แต่เนื่องจาก คุณ ศรัทธา ตั้งประเด็น เรื่อง เมตา เพื่อค้นหาสัจธรรมสมบูรณ์ ที่ว่าสรรพสิ่งเกิดจากอะไร หากยังไม่ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ หรือ ไม่สามารถทดสอบได้ทางวิทยาศาสตร์ ถือว่าเป็น Meta ทั้งสิ้น
เมื่อเปิดประเด็นขึ้นต้นมาด้วย Meta แล้ว ... เดี๊ยนจึงจำเป็นต้องแยกออกจากฟิสิกส์กายภาพจ้ะ... ส่วนทางการเมืองก็เป็นการแยกออกจากราชาธิปไตยที่สอนคนให้งมงายเรื่องลัทธิเทวสิทธิ์ เช่น เจ้าชายจอห์นของอังกฤษ กล่าวว่า ตนเองได้รับอาณัติจากสวรรค์ ฮ่องเต้จีน จักรพรรดิญี่ปุ่น หัวหน้าเผ่าในแอฟริกา ล้วนใช้ความเชื่อในแนวเมต้าฟิสิกส์ในการปกครองประชาชน
ส่วนประชาธิปไตยนั้น เกิดขึ้นมาภายหลังยุคฟื้นฟูวิทยาศาสตร์แล้ว และเข้าสู่ยุคเหตุผลกับอุตสาหกรรม ซึ่งแม้ว่าจะมีข้อบกพร่อมอยู่มาก แต่ก็ยังดีกว่าการเชื่ออย่างหลงงมงาย เพราะประชาธิปไตยนั้น เชื่อในเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่จะอยู่ร่วมด้วยกันโดยสันติ
และจากการวิจัยด้านชีววิทยาสมัยโบราณ พบว่า มนุษย์อยู่รอดมาได้ ก็ด้วยการช่วยเหลือกันเป็นหมู่คณะ แบ่งกันอย่างเท่าเทียม และเพิ่งมาถูกลดทอนให้กลายมาเป็นไพร่ทาสในสมัยศักดินาที่ใช้ลัทธิเทวสิทธิืมาหลอกลวงให้มนุษย์มีความแตกต่างกันทางชนชั้นนี่เอง ประมาณ 7,000 ปี มานี้แหละ และประเทศอื่นๆเพิ่งจะปลดแอกเมื่อร้อยสองร้อยปีที่ผ่านมานี้เอง
สำหรับโลกยุคใหม่ ผู้ที่ครองอำนาจนานหลายสิบปี แล้วส่งต่ออำนาจให้คนใกล้ชิด ก็เป็นรูปแบบเผด็จการ นี่เอง ดังปรากฎใน เกาหลีเหนือ และไทย นะจ๊ะ
>>>เรียนเชิญ ศรัทธาดาวน์_7 เข้ามาสนทนาเรื่องการเมืองกับเมต้าฟิสิกส์ ( อย่าปอดแหก ) <<<
