ความคิดเห็นที่ 1 เสียดายกิ๊ฟหมด ไม่งั้นจะให้ tarthewise ซะหน่อย เห็นมะ คุณคิดดีๆก็คิดได้.. จากคุณ : Trunnion เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 12:19:36 A:202.183.183.177 X:

ความคิดเห็นที่ 2 จริง ๆ แล้วมันถูกทุกข้อนั่นแหละครับ ๑. เป็นธรรม เพราะปัจจุบันข้าราชการมีระบบธรรมาภิบาลกำกับ (เป็นกฎหมาย, พ.ร.บ.การบริหารบ้านเมืองที่ดี) การจะแต่งตั้ง โยกย้ายใคร จะต้องมีการพิจาณาคุณสมบัติต่าง ๆ ตามระเบียบ หากไม่ถูกต้อง ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ฟ้องตามลำดับชั้น และฟ้องศาลปกครองได้ ต้องถือว่าส่วนใหญ่มีความเป็นธรรมตามกฎหมาย ๒. ความไม่เป็นธรรมมีส่วนน้อย (แต่มักเป็นเฉพาะตำแหน่งที่มีอำนาจ) มีสาเหตุหลายประการ     ๒.๑ การแทรกแซงจากนักการเมือง อันนี้มีได้ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายค้านนั่นแหละ ฝ่ายค้านแทรกแซงโดยอาศัยอิทธิพลความเป็นคนกว้างขวาง ส่วนฝ่ายบริหารมีอำนาจสั่งการบีบให้ข้าราชการสั่งการตามลำดับชั้นได้     ๒.๒ การแทรกแซงจากระบบอุปถัมภ์ อันนี้เป็นส่วนใหญ่ของระบบราชการไทยเลยก็ว่าได้ ในระดับเล็ก ๆ ไม่ค่อยมีปัญหามากนั้น เพราะคนถูกข้ามหัวมันเล็กจนร้องไปก็ไม่มีใครได้ยิน แต่ที่เป็นปัญหาคือ ระดับใหญ่ ๆ ซี 7 ซี 8 ขึ้นไป คนที่จะผ่านตะแกรงระบบธรรมาธิบาลได้ ต้องผ่านการประเมินของคนในระบบอุปถัมภ์เดิมซึ่งก็คือผู้สยบกับระบบอุปถัมภ์นั่นเอง ถามว่าใครอุปถัมภ์ ตอบว่ามีเยอะตั้งแต่วังจนถึงนักเลงท้องถิ่น     ๒.๓ กฎระเบียบไม่เอื้ออำนวย กฎเกณฑ์บางอย่างมันล้าสมัย บางทีก็เขียนไว้ดีอยู่หรอก ที่มักปิดท้ายว่าทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหัวหน้าส่วนราชการ เพราะถ้อยคำมักง่ายพวกนี้แหละที่เปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจใช้ดุลยพินิจโดยลำเอียงอยู่เสมอ     ๒.๔ ค่านิยมขององค์กร เพราะข้าราชการเป็น Red Tape มีระเบียบวิธีตามกฎหมาย จึงต้องทำตาม หากใครมีวิสัยทัศน์ไกล มองเห็นสิ่งที่จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดได้ จะฉีก Red Tape ไม่ได้ เพราะจะถูกเล่นงานทางวินัย เติบโตในสายงานไม่ได้ หากสยบกับระบบก็ต้องเป็นประเภทเช้าชามเย็นชาม หากทนไม่ได้ก็ต้องลาออก การโยกย้ายมักไม่เอาวิสัยทัศน์มาคิด แต่มักจะเอาความสยบสมยอมมาคิดมากกว่า     ๒.๕ อื่น ๆ เช่น ความเข้าใจผิด การใช้อำนาจไม่เป็นธรรม การกดดันจากคนในท้องถิ่น ฯลฯ ขอถามกลับว่า เมื่อรู้แล้วคุณจะเอาไปทำอะไร เพราะคุณไม่มีอำนาจไปห้ามนักการเมืองโยกย้ายข้าราชการประจำได้ (เช่น รมต.โยกย้าย ปลัด, รอง ปลัด ฯลฯ) และไม่ควรห้ามด้วย, คุณไม่มีอำนาจไปห้ามระบบอุปถัมถ์ได้ (รวมทั้งเสียงกระซิบจาก...) คุณไม่มีอำนาจแก้กฎหมายได้ ฯลฯ หรือคุณทำได้? จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 12:39:15 A:61.91.175.245 X:

ความคิดเห็นที่ 3 อดีตเคยรับราชการมาก่อนครับ ซึ่งก็เป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปในวงการราชการแล้วน่ะครับ ว่า "ค่าของคน อยู่ที่คนของใคร" เท่านี้เองครับ แต่ผมก็รับได้ครับ           เพราะเราบังเอิญเกิดมามีบุญน้อยเท่านั้นเอง ระบบราชการก็เหมือนกันระบบธุรกิจนั่นแหละครับ คือ ระบบต่อทุน ใครที่ทำผลประโยชน์ให้กับองค์กรณ์และก็ผู้บังคับบัญชาได้มากเท่าไร คนนั้นก็จะมีโอกาสไต่เต้าขึ้นไปได้เร็ว และสูงขึ้น โดยเฉพาะระบบทหารนะครับ เขาจะมีระบบล้างเลือดขึ้นมาด้วยน่ะครับ หรือพูดง่ายๆ ก็คือระบบคู่บารมีไงครับ เมื่อเจ้านายคนนี้ไปคนใหม่ก็ขึ้นมาแทน แล้วก็จะต้องสร้างคนของตัวเองขึ้นมาอีก แต่ถ้าเลือดเก่าใครก็ตามที่สามารถเข้ากับเจ้านายคนใหม่ได้เหมือนกับ เจ้านายคนเก่าละก้อจะสามารถไต่ขึ้นไปต่อได้อีกเรื่อยๆ น่ะ เพราะเจ้านายแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ชอบก็ไม่เหมือนกัน การทำงานก็ไม่เหมือนกัน ผู้ที่อยากจะก้าวหน้าก็จะต้องเป็นคนที่มีจิตวิทยาในการทำงานสูงไปด้วย รู้ทิศทางของกระแสน้ำสามารถทำตัวให้ไหลไปตามกระแสได้ไม่แข็งขืนก็จะก้าวต่อไปได้ไกลยิ่งขึั้นน่ะครับ ทำหน้าที่ของตัวเองตอนนั้นๆ ให้ดีที่สุด เหมือนกับ ธาริต เพ็งดิษฐ์ ไงล่ะครับ          เพราะอย่างนี้ไงครับ ระบบอุปถัมถ์ถึงได้ไม่หมดไปจากประเทศไทยได้น่ะ เช่นกันพวกปากว่าตาขยิบนักธุรกิจทั้งหลาย ที่ต่างออกมาเรียกร้องเรื่องการคอรัปชั่นน่ะ นั่นแหละพวกนี้แหละตัวสำคัญล่ะ ข้าราชการไม่ได้เป็นคนเรียกร้องค้าเซ็นนะครับ แต่พวกที่อยากจะได้งานนั้นเขามายื่นให้ต่างหาก เมื่อตัวเองไม่ได้งานนั้นก็จะออกมาโวยวายล่ะว่า มีการฮั้วการประมูลกัน ทั้งที่ตัวเองก็มีการใส่ใส้เล่นเส้นเล่นสายไปเหมือนกันนั่นแหละ          ทักษิณทำถูกแล้วครับ ที่จะเปลี่ยนระบบราชการให้เป็นธุรกิจน่ะ เพราะธุรกิจนั้นปัญหาการคอรัปชั่น หรือได้โต๊ะระบบอุปถัมถ์นั้นจะมีระบบตรวจสอบที่เข้มแข็งกว่าราชการน่ะครับ ซึ่งตรงนี้ราชการนั้นเขาถึงรับทักษิณไม่ได้ไงล่ะครับ เหมือนอย่างรัฐวิสาหกิจ การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยไงล่ะครับ พอออกจากระบบรัฐวิสาหกิจแล้วเป็นไงบ้างล่ะครับ การบริการดีขึ้นผิดหูผิดตาเลยใช่ไหมครับ ตรงข้ามกับการรถไฟแห่งประเทศไทยที่สหภาพหลายๆ คนเป็นแกนนำเสื้อเหลืองต่อต้านการเข้าสู่ระบบธุรกิจของทักษิณไหมครับ ขาดทุนมาโดยตลอด และรัฐบาลก็ต้องเอาเงินเข้าไปชดใช้ทดแทนเป็นค่าเงินเดือน และโบนัสของพนักงานมาโดยตลอดน่ะ จากคุณ : เฒ่าเกเร เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 12:54:53 A:118.172.2.247 X:

ความคิดเห็นที่ 4 คุณศาลายา ขอบคุณความเห็นของคุณมากครับ คุณเป็นข้าราชการหรือเรียนมาทางรัฐศาสตร์ หรือ รปศ. หรือ กฎหมายหรือเปล่าครับ ^^ หากใครทำงานในส่วนราชการด้านการปฏิบัติประเด็นศึกษานี้จะมีประโยชน์ได้แค่อธิบายรูปแบบการเมืองของการแต่งตั้งและโยกย้ายของส่วนราชการใดส่วนราชการหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้มีประโยชน์ถึงระดับเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาได้ เพราะเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอื่นในระดับเหนือองค์การ คือกฎหมายและระเบียบทางการบริหารงานบุคคลต่างๆ (ใหญ่ที่สุดคือโครงสร้างสังคมไทยที่มีวัฒนธรรมในลักษณะอุปถัมภ์ของไทย) แต่ผมคิดว่าหากคุณทำงานในส่วนราชการระดับนโยบายที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ. ผมว่าพอที่จะเสนอแนวทางแก้ปัญหาได้ จากคุณ : tarthewise เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 12:56:14 A:180.183.124.236 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบพระคุณคุณเฒ่าเกเรครับ ผมเห็นว่าการปฏิรูประบบราชการครั้งหลังสุดช่วยให้ระบบบริการของรัฐดีขึ้นได้ แต่ยังไม่สามารถทำให้การบริหารงานบุคคลของส่วนราชการภาครัฐเป็นไปอย่างเป็นธรรม (หรือดังเดิมคือเป็นไปตามระบบคุณธรรม ปัจจุบันคือ ความเป็นธรรม (Fairness) ของ Democratic Governance Paradigm) ได้ แม้จะมีโครงสร้างกฎหมายใหม่ขึ้นมาคือพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ที่กำหนดให้มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ขึ้นมาเพื่อเป็นองค์กรควบคุมระบบการบริหารงานบุคคลภาครัฐให้เป็นไปตามหลักคุณธรรมโดยเฉพาะ แต่ตราบใดที่วัฒนธรรมของระบบราชการไทยยังเป็นเหมือนเดิมปัญหานี้ก็แก้ไม่ได้ จากคุณ : tarthewise เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 13:05:06 A:183.89.59.218 X:

ความคิดเห็นที่ 6 เสียดายที่วันนี้ไม่มีเวลาที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนแล้วครับ จากคุณ : tarthewise เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 13:31:20 A:183.89.59.218 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ฝ่ายการเมือง รมต  ย้ายปลัดได้คนเดียวเท่านั้น       แต่ระดับ รองปลัด อธิบดี รองอธิบดี ลงไป เป็นอำนาจของ    ปลัดกระทรวง    หากการเมืองเข้ามาล้วงลูกก็ ต้องสั่งผ่านปลัด   หากปลัดแข็งจริงๆ ไม่มีแผลให้เปิด  ไม่ยอมฝ่ายการเมืองก็ได้ แต่ก็มองหน้ากันไม่ติด   งานก็ติดขัด  ไม่เดิน  ทุกวันนี้ก็เลยเกิดการประนีประนอม     คนของนักการเมืองบ้าง   คนที่ขึ้นมาตามความรู้ความสามารถบ้าง    คนวิ่งเต้นบ้าง เพื่อนร่วมรุ่นบ้าง   ผู้ใหญ่ฝากฝังบ้าง   จิปาถะ  เต็มไปหมด     หากคุณเป็นข้่าราชการที่ทำงานไปเรื่อยๆ ไม่โดดเด่นอะไร   ไม่วิ่งตำแหน่ง   ก็อาจได้เลื่อนขั้นไปตามปรกติ บางปีอาจชะงัก    เพราะตำแหน่งน้อยกว่าคน  ระบบก็ต้องสนองตอบนักการเมือ   งเพราะเขามาโดยการเลือกตั้งต้องทำ    นโยบายของพรรคที่สัญญากับประชาชนไว้   แต่ปลัดกระทรวงก็ต้องการมือ ในการทำงานที่รู้ใจสั่งงานได้ดังใจ  มาทำงานสนองตนเองเหมือนกัน    การย้ายข้าราชการมีปัจจัยประกอบหลายอย่าง      ไม่ใช่แค่นักการเมืองอย่างเดียว เพียงแต่ข่าวที่ออกมาทางสื่อก็ลงที่นักการเมืองก่อน     แต่ข้อเท็จจริงเท่าที่พบเห็น    คนที่จบมาพร้อมกันเพื่อนกัน  ความสามารถใกล้เคียงกัน   ระยะเวลาต่อมา เพื่อนกันคนที่วิ่งบ้าง  ได้อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าเพื่อนที่ทำงานไปเรื่อยๆตลอด  เห็นเช่นนี้หลายกรณีแล้ว จากคุณ : ชยารมภ์ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 13:49:33 A:124.122.113.11 X: