PANTIP.COM : P12218214 กระทู้โหวต>> ท่านคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญมีสิทธิ์รับคำร้องเองในมาตรา68โดยไม่ผ่านอัยการสูงสุดหรือไม่ []

ความคิดเห็นที่ 5

อัยการ มีหน้าที่เป็น ทนายแผ่นดินครับ

ถ้าอัยการ ไม่รับฟ้อง นั้นหมายความว่า อัยการ ไม่ยอมเป็นทนายให้ ให้โจทย์คือ ประชาชน คนที่ร้อง หลักการนี้เป็นหลักการทั่วไป แบบกรณีพญ.ผัสพร รายนั้น อัยการไม่รับฟ้อง แต่พ่อเขาฟ้องเอง ตอนหลัง อัยการจึงขอมาเป็นโจทย์ร่วม จนคดีชนะ เข้าใจหรือยัง

ตรงกันข้าม ถ้าตีความเป็นตัวอักษรแบบพวกคุณ อัยการ ต่างหากที่จะไร้ค่า เพราะจะทำหน้าที่เพียงไปรษณีย์ ที่ไม่ว่าจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยอัยการก็จะต้องส่งคำร้องแบบเลี่ยงไม่ได้ การอัยการยกคำร้อง และรัฐธรรมนูญถ้าเกิดตีความแบบนี้อัยการนั้นแหละที่จะต้องถูกถอด

ที่เพื่อไทยกำลังโวยอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่อำนาจของศาล แต่การตัดสินใจของศาลต่างหาก ว่าเข้าข่ายหรือไม่ ผมว่า เรื่องอำนาจของศาลมันควรจะจบไปได้แล้ว ที่ศาลต้องตีความอย่างนี้ เพราะมันเป็นข้อความกฏหมายในหมวด 3 ที่ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพประชาชน ก็ต้องตีความให้มันเรื่องของสิทธิ์ เลิกเหอะ ถ้าจะพูด ก็พูดเรื่องหลังดีกว่าว่าเรื่องนี้มันเข้าหรือไม่เข้า เกียวไม่เกี่ยว อันนี้แค่รับ เพราะศาลอาจจะตัดสินว่าไม่ผิดก็ได้ จะโวยวายไปเพื่ออะไร???

ในกรณีเปรียบเทียบ กับกรณียุบพรรคปี 2550 ตาม รธน2540

ขอยกข้อความมาครับ

ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า กรณีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 (มาตรา 68 ปัจจุบัน) มิได้ให้สิทธิผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ยุบพรรคการเมืองได้โดยตรง และการขอให้ยุบพรรคการเมืองตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ก็เป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองโดยจะต้องดำเนินการผ่านอัยการสูงสุดเสียก่อน ดังนั้น ผู้ร้องจึงไม่อาจยื่นคำร้องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้ดำเนินการ

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12208166/P12208166.html

ดูเน้นๆครับ

พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ก็เป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองโดยจะต้องดำเนินการผ่านอัยการสูงสุดเสียก่อน

หากจะอ้างก็ต้องดูเนื้อหาให้หมดด้วยครับ อำนาจการส่งยื่นยุบพรรคศาลบอกว่าเป็นของ กกต. ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง เรื่องยุบพรรคที่มาจาก พรบ.ประกอบ บุคคล ที่จะพูดใน ม.68 ในที่นี้จึง หมายถึง กกต. ที่มีหน้าที่โดยตรงเท่านั้นครับ แต่ คนล่ะเรื่องกับการออกรัฐธรรมนูญ ที่ขัดกับ ม.68 ซึ่งไม่ได้ระบุว่า บุคคลเป็นใครดังนั้นจึงตีความได้ว่าเป็นประชาชนทุกคน

ดังนั้น

ต้องไปดูว่า บุคคล ใน ม.63 กรณีนั้น คือใคร 63 กรณีนั้น คือ กกต. ไม่ใช่ ประชาชน เพราะคุณต้องดูข้อความต่อมาด้วยว่า ใครเป็นผู้มีอำนาจ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ผมยังไม่ได้ไปดูในพรบ.นั้นว่าให้สิทธิ์แค่ไหน แต่จำได้ว่า พรบ.วางขั้นตอนอยู่แล้วว่าให้ กกต. ส่งไปให้อัยการเท่านั้น 63 ในตอนนั้น จึงให้สิทธิ์ การยุบพรรคไว้่แค่นั้่น

แต่ 68 ในกรณีนี้ เราไม่ได้มี "คณะกรรมการตรวจสอบการออกพระราชบัญญัติและแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา" ที่มีพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญรองรับ บุคคลใน มาตรา 68 จึงหมายถึง ประชาชนทั่วไปคนไหนก็ได้ที่เป็นคนไทย การตีความจำเป็นต้องกว้างกว่าอยู่แล้ว เพราะ ไม่ได้มีตัวกำหนดเพิ่ม ว่า "ให้ใคร" "ทำอะไร" การใช้ 68 ในที่นี้จึงต่างกันที่ "บุคคล" ว่าเป็นใคร เข้าใจหรือยัง

สรุป

สิทธิ์การฟ้องเรื่องยุบพรรค ตาม ม.63 ของ รธน.40 ตอนนั้น เป็นของ กกต. ที่มี พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เป็นตัวกำหนด ว่าให้สิทธิ์แค่ไหน คนอื่น จะใช้สิทธิ์นี้แทนไม่ได้

แต่

สิทธิ์การฟ้องเรื่องการแก้ไขรธน. ตาม ม.68 ของ รธน 50 ตอนนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ได้กำหนดหน้าที่ให้ใคร อยู่ในพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับไหนทำหน้าที่ อำนาจนี้จึงเป็นต้องเป็นของประชาชน จึงไม่มีใน รธน. ที่จะกำหนดสิทธิ์ ในการยื่น ว่าต้องผ่านอัยการเท่านั้นแบบเดียวกับ ม.63 ของ รธน.40 การตีความกฏหมาย จึงต้องอิงตามหมวด 3 ในการรับเรื่อง

การอธิบายเรื่อง สิทธิ์ในการยื่นฟ้องต่ออัยการ ในกรณี ยุบพรรค ม.63 ในรธน40 จึงเป็นเพียงการอธิบาย สิทธิ์ของผู้ที่มีหน้าที่ตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ คือ กกต.เท่านั้น ไม่ได้ตีความหมายรวมถึง ประชาชน ทั่วไป ที่จะยื่นเรื่อง การตีความการแก้ไขรธน. ไม่ได้มีพรบ.ใดกำหนดสิทธิ์ ตาม ม.68 ใน รธน.50

รวมมาจากความเห็นของผมในกระทู้นี้

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12214466/P12214466.html

จากคุณ : Angleevil

เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 55 17:13:57 A:101.51.0.50 X: