วาทะท่านวสันต์ **ตามที่เขากล่าวหา ศาลก็เห็นว่ามันก็อาจเป็นไปได้ที่จะเป็นการล้มล้างการปกครองฯไปสู่ระบอบอื่น **
|
 |
ฟังคำให้สัมภาษณ์ทางทีวี แล้ว เหนื่อย แทน พท และเสื้อ แดง
ที่คู่ต่อสู้ไม่ใช่มีแค่ ปชปเท่านั้น แต่รวมถึง ศาล ...ด้วย
เพราะทุกวันนี้ก็มีแต่ข่าว มีการ ปะทะวาจา กับศาล ทุกวัน
มิใช่ปะทะแต่เฉพาะ ปชป เท่านั้น
ปชป +ศาล สองแรงแข็งขัน แล้วจะชนะไปได้อย่างไร
----------------ลองอ่านข่าวแบบเต็มๆ ...ที่นี่..
http://thaiinsider.info/news2012b/the-news/politics/18312-1-68
ปล เวบนี้ มีเม้นต์ด่าแดงมากหน่อย แดงอดทน ฟังเขานิด
แต่แมงสาบคงชอบ
หมายเหตุ ยกมายาวมากเพื่อความสะดวก อย่าว่ากันล่ะ เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อน ต้องอ่านให้เห็นจะๆ กับตาเอง
------------------------------------
เรื่องพลิกฟ้าไม่รอ'อสส.' วสันต์ย้ำศาลมีอำนาจทำ เย้ยปูคือหัวโจกอำมาตย์ เหตุมีอำนาจสูงสุดในปท.
"ปธ.ศาลรธน." เปิดแถลงข่าวยืนยันมีอำนาจรับคำร้องไว้พิจารณา ย้อนถาม "เรื่องพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน เปลี่ยนการปกครอง" จะรอ "อสส." อย่างเดียวหรือ ย้ำ 9 ตลก.รธน.ไม่ใช่มนุษย์ทองคำ ปูดอำมาตย์ตัวจริงคือ "นายกฯ" ที่มีอำนาจสูงสดของปท. ย้อนพวกไม่เอา "อำนาจนอกระบบ" แล้วทำไมไม่เข้าสู่กติกา มาชี้แจง ด้าน "ธิดาแดง" ประกาศตั้งโต๊ะล่าชื่อถอดถอนตลก.รธน. ตั้งเป้าให้ได้ 1 ล้านชื่อ
วันที่ 6 มิ.ย. 2555 นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ ได้นัดรวมกลุ่มนปช.ให้ไปปักหลักชุมนุม พร้อมตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชนบริเวณหน้ารัฐสภา เพื่อยื่นถอดถอนคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้รัฐสภาชะลอการดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญไว้ก่อน ถือเป็นการก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ ที่ประชาชนได้ให้อำนาจมาออกกฎหมายตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมกันนี้ ในช่วงบ่ายของวันที่ 7 มิ.ย. ตนเองและแกนนำนปช.จะเข้าพบพล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการเข้าชื่อถอดถอนคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 7 คน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะได้กว่า 20,000 รายชื่อ และตั้งเป้าหมายให้ถึง 1 ล้านรายชื่อ ขณะเดียวกันแนวร่วมนปช.จะปักหลักหน้ารัฐสภา เพื่อจับจองพื้นที่ไม่ให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ามาขัดขวางการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ได้อีก
นอกจากนี้ ในวันที่ 24 มิ.ย. กลุ่ม นปช.เตรียมจัดชุมนุมรำลึก 80 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป
"ปธ.ศาลรธน." ไม่กังวล "แดง" ล่าชื่อถอดถอน ย้ำสบายใจดี-ไม่เครียด ไล่ให้ไปดูม.68 ฉบับแปลอังกฤษจะรู้ชัด
ด้านนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าว "ไอ.เอ็น.เอ็น." ถึงกรณีมีการดำเนินการเพื่อยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ไม่รู้สึกเครียด ยังสบายใจดี แม้ว่าจะมีผู้ยื่นถอดถอน หรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ โดยกรณีที่จะมีการยื่นถอดถอนนั้น สามารถทำได้ ใครจะทำอะไร ก็ทำไป ส่วนตัวไม่ได้กังวล
"ยืนยันว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสั่งให้รัฐสภาชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมได้ เพราะหากไม่ชะลอ การไต่สวนของศาลก็จะไร้ผล ทั้งนี้ผู้ยื่นคำร้องระบุในเนื้อหาว่า 'การแก้ไขรัฐธรรมนูญลักษณะนี้ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบใหม่' ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่า สมควรหรือไม่ที่จะต้องตรวจสอบ เพื่อให้ความมั่นใจต่อสังคม เพราะหากมีสภาร่างรัฐธรรมนูญแล้วพลิกประเทศจริง จะทำอย่างไร"ประธานศาลรัฐธรรมนูญระบุ
นายวสันต์ กล่าวต่อว่า เรื่องการตีความมาตรา 68 นั้น ขอให้ไปดูรัฐธรรมนูญฉบับที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ จะชัดเจนว่าการยื่นคำร้อง เป็นเรื่องของผู้ทราบ ไม่ใช่เรื่องของอัยการสูงสุด (อสส.) เพียงอย่างเดียว
"เสื้อแดง"ผูกผ้าดำที่ศาลรธน. พร้อมแสดงละครล้อเลียนตุลาการ
วันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมประจำสัปดาห์ตามปกติเพื่อพิจารณาคำร้อง และที่ได้ร้องเข้ามา และในวันนี้ได้ออกนั่งบัลลังก์กรณีพรรคพลังคกีฬา และพรรคเทียนแห่งธรรม ซึ่งเป็นพรรคเล็กที่ร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่ไม่ตอบรับการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคของพรรคพลังคนกีฬา และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเพิกถอนคำสั่งนายทะเบียนพรรคการเมืองที่สั่งให้พรรคเทียนแห่งธรรมสิ้นสภาพเป็นพรรคการเมือง
โดยระหว่างการออกบัลลังก์พิจารณาก็ได้มีกลุ่มเครือข่ายประชาธิปไตย นำโดยนายชัยนรินทร์ กุหลาบอ่ำ และคณะกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 10 คน เดินทางมาบริเวณหน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเคลื่อนไหวเรียกร้องและกดดันการทำงานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้แสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์สะท้อนการทำงานขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมแสดงละครล้อเลียนเสียดสีการทำงานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และตะโกนโห่ร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญทำงานเป็นที่พึ่งของประชาชน พร้อมทั้งผูกผ้าสีดำบริเวณทุกตัวอักษรของป้ายศาลรัฐธรรมนูญเพื่อไว้อาลัยการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังมีคำสั่งให้รัฐสภาชะลอการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ออกไปก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย พร้อมทั้งยื่นหนังสือถึงนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และองค์คณะตุลาการ เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนคำสั่งที่ให้รัฐสภาระงับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีตัวแทนของสำนักบริหารกลาง สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้รับหนังสือ ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจท่งสองห้องมาดูแลรักษาความปลอดภัย
นายสัมฤทธิ์ ไชยวงศ์ รองโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (6 มิ.ย.) นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเรื่องการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยตนเองพร้อมทีมโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ
"เสื้อแดงสงขลา" ร่วมลงรายชื่อถอดถอนตุลาการศาล รธน.
ชมรมคนรักประชาธิปไตย จ.สงขลา 52 เปิดให้สมาชิกร่วมลงชื่อถอดถอนคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีมีคำสั่งให้รัฐสภาหยุดพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กำลังจะมีขึ้นในวาระที่ 3 พร้อมกับออกแถลงการณ์ของชมรมคนรักประชาธิปไตย จ.สงขลา52 เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไข ให้บ้านเมืองสามารถเดินไปข้างหน้าตามวิถีทางระบอบประชาธิปไตยรวม 3 ข้อ คือ ให้พรรคประชาธิปัตย์ยุติการแสดงพฤติกรรมใดๆ อันเป็นการทำลายหรือขัดขวางการดำเนินการเพื่อนำประเทศชาติไปสู่การปรองดอง, เรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญทบทวนคำสั่งให้รัฐสภาหยุดการพิจารณาร่าง พ.รบ.แก้ไขรัฐธรรมนูญและกำหนดบทบาทหน้าที่ของตนเองให้เหมาะสมสอดคล้องตามแนวทางรอบบอบประชาธิปไตย, และอย่าให้มีฝ่ายใดฉกฉวยโอกาสสร้างเงื่อนไขทำรัฐประหารขึ้นอีก
นางนิษิฎภัทร วิไลรัตน์ ประธานชมรมคนรักประชาธิปไตย จ.สงขลา52 ระบุว่า จะเดินหน้ารวบรวมรายชื่อสมาชิกเครือข่ายคนเสื้อแดงในจ.สงขลา ให้ได้อย่างน้อย1 หมื่นคน เพื่อยื่นถอดถอนคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และจะดำเนินการต่อเนื่องติดต่อกัน2 สัปดาห์ และในวันพรุ่งนี้จะเดินทางเข้าร่วมกับเครือข่ายคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศที่จะรวมตัวที่ศาลธัฐธรรมเพื่อยื่นถอดถอนคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน
"ปธ.ศาลรธน." ควงทีมโฆษกแถลงข่าวนาน 1 ชั่วโมง ย้ำศาลมีอำนาจรับคำร้อง
เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยนายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ นายกมล โสตถิโภคา และนายสมฤทธิ์ ไชยวงค์ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงชี้แจงถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้สภาฯชะลอการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ออกไปก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการแถลง
โดยนายพิมล แถลงว่า สำหรับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีผู้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น ทางตุลาการฯได้ให้ความสำคัญและพิจารณาอย่างรอบคอบ รวมถึงในเรื่องของเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 2550 เพราะเกิดจากรัฐธรรมนูญ 2540 ที่มีมาตรา 63 ที่กำหนดว่าผู้รู้เห็นการกระทำที่เป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีประมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ย่อมมีเสนอเรื่องต่ออัยการสูงสุด และยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อดำเนินการวินิจฉัย สั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว โดยในการร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2540 มีการแปรญัตติไว้ว่า การกระทำดังกล่าวสามารถยื่นต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ทันที จนมาเป็นมาตรา 63 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญปี 2540 จนมาเป็นรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ 2550 เปลี่ยนแปลงเพียงคำว่า ผู้รู้เห็นการกระทำ มาเป็นผู้ทราบการกระทำ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าการดำเนินการตามมาตร 68 ของรัฐธรรมนูญ สามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ ยื่นผ่านอัยการสูงสุดและยื่นศาลรัฐธรรมนูญ จึงอยากทำความเข้าใจว่าศาลมีอำนาจในการรับคำร้องไว้พิจารณาเท่านั้น และจะต้องมีการไต่สวนให้ได้ข้อเท็จจริงว่ามีการดำเนินการตามคำร้องจริงหรือไม่ จึงไม่อยากให้นำประเด็นทางการเมืองมาโยงกับประเด็นข้อกฎหมาย
"วสันต์" ถาม "เรื่องพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน เปลี่ยนการปกครอง" จะรอ "อสส." อย่างเดียวหรือ
ขณะที่นายวสันต์ ก็ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามโดยกล่าวว่า ตามคำร้องอ้างว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นผลให้ยกเลิกรัฐธรรรมนูญ 2550 ทั้งฉบับ ซึ่งเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ให้เป็นการปกครองอย่างอื่น ข้อกล่าวหาอย่างนี้ใหญ่พอให้ศาลพิจารณาไหม เรื่องจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน เปลี่ยนแปลงการปกครอง จะให้เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดเพียงอย่างเดียวหรือ และขณะนี้ยังอยู่ในชั้นของการรับคำร้อง ซึ่งศาลไม่ได้ไปสั่งให้รัฐสภาหยุดการพิจารณา แต่มีหนังสือแจ้งไปยังสำนักเลขาฯ ที่เป็นหน่วยงานของรัฐ ว่าขอให้แจ้งประธานสภาฯ ส่วนสภาจะดำเนินอย่างไร ก็เป็นเรื่องของสภา หากเกิดอะไรขึ้นสภาฯจะต้องรับผิดชอบ สำหรับการที่เลขาสภาฯระบุว่า หนังสือขอให้ชะลอการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลผูกพันรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 216 ประกอบมาตรา 213 นั้น ก็เป็นความเห็นทางกฎหมาย ที่นักกฎหมายตีความกันไป ดังนั้นจะเห็นอย่างไรก็ตามใจเขา
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าศาลรัฐธรรมนูญ ทำเกินอำนาจ จะทำให้เกิดการรวมตัวของมวลชนกดดัน ถอดถอน และกลายเป็นปัจจัยให้นำไปสู่ความรุนแรง ทางการเมืองเร็วขึ้น นายวสันต์ กล่าวอย่างติดตลกว่า "จินตนาการมากไปหน่อย กรุณาอย่าทานของเสาะท้องก่อนนอนเพราะจะทำให้ฝัน จริงๆ แล้ว จะใช้สิทธิ์อะไร จะถอดถอนก็ทำไป แต่ที่ว่าจะมีอะไรทำนองนั้นคงไม่ใช่"
ย้ำ 9 ตลก.รธน.ไม่ใช่มนุษย์ทองคำ ปูดอำมาตย์ตัวจริงคือ "นายกฯ" ที่มีอำนาจสูงสดของปท.
"ยืนยันไม่มีใครมาสั่ง ชี้นำเราได้และเราระวังมากกับการเข้าไปแตะต้องก้าวล่วงอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการทั้ง 9 คน เราไม่ใช่มนุษย์ทองคำ เรารู้ตัวดี ว่าเราไม่มีอำนาจอื่นใด นอกจากรัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ เมื่อรัฐธรรมนูญให้อำนาจศาลในการตรวจสอบ ว่าการออกมีการตุกติกอะไรหรือป่าว เมื่อเราตรวจสอบแล้ว ไม่มีอะไรก็ผ่านให้ทุกครั้ง เช่นการออกพระราชกำหนด 4 ฉบับที่ผ่านมา แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เขากล่าวหามาว่า จะเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วจะให้ศาลรัฐธรรมนูญเพิกเฉย ซึ่งเท่ากับว่า จะเปลี่ยนก็เปลี่ยนไป อย่างนั้นได้หรือ มันก็ต้องไต่สวนทวนความกันก่อน ซึ่งหากสภาฯ จะให้ความร่วมมือเลื่อนพิจารณาไปซักเดือนเศษก็ไม่เห็นเป็นอะไร เพราะคณะตุลาการก็คาดการณ์แล้วว่า 1 สัปดาห์หลังการไต่สวนจะมีคำวินิจฉัยได้"นายวสันต์กล่าว***จบข่าว**
| จากคุณ |
:
ก้อนหินสีชมพู   
|
| เขียนเมื่อ |
:
23 มิ.ย. 55 16:49:12
A:110.77.201.238 X:
|
|
|
|
