ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีคะคุณพี่อุบลคนเราสำนึกต่างกัน บางคนชอบสำนึกเข้าข้างตัวเอง แล้วว่าให้คนอื่นไม่มีสำนึก บางคนสำนึกว่าอันใหนควรไม่ควรมึนก็ต่างจิต ต่างจิตต่างใจนะเจ้าคะ คำว่าสามัญสำนึกหนะมันขึ้นอยู่กับคนเอาไปใช้ เสียมากกว่าคะคุณพี่ จากคุณ : นพนครพิงค์ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 08:49:04 A:118.172.63.91 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ทำอะไรได้ดังใจคือไทยแท้...นั่นคือคำที่มักได้ยินเมื่อมีเรื่องนอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้น..ซึ่งเป็นที่งุนงงแปลกใจโอ้มายก๊อดของต่างชาติอยู่เสมอ... 24 มิถุนายน ครบรอบ 80 ปีของการกำเนิดประชาธิปไตยในประเทศไทย...ก็ยังคงเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆที่สร้างความงุนงงให้ทั่วโลก... ประชาธิปไตยเต็มใบคือไทยแท้...นี่ต่างหากที่อยากให้มีอยากให้เกิดและอยากให้กล่าว... ..................... จากคุณ : ย่าแจ๊คกี้ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 08:56:35 A:118.174.99.140 X:

ความคิดเห็นที่ 3 จิตสำนึกคืออะไร คือ...วาทกรรมเชื่อมโยงของสมมุติฐานและเท็จจริงในสังคม   วิถีชีวิตของผู้คนในสังคมไทยเรา....อาจจะแบ่งออกเป็นสองเส้นทางสายใหญ่ สายทางแรก คือ .การปล่อยตัวให้เลื่อนไหลไปกับกระแสสังคมอันเชี่ยวกราก แบบตามน้ำ...ซึ่งมีฝูงชนเลือกเดินบนเส้นทางนี้กว่า...๑๕ ล้านคน รวมทั้ง จขกท. อีกสายทางหนึ่ง...คือเส้นทาง เ ส รี ช น  ที่มุ่งมั่นกับเส้นทางเดินเห็นว่า เส้นทางสีขาว...ที่ที่ไม่ได้ยึดปริมาณหรือกระแสเป็นแก่นสาร จิตสำนึก...C o n s c i o u s n e s s คือ...ระดับเหตุผลภายในใจ  ที่ส่งผลต่อการแสดงออกในพฤติกรรมต่างๆ โดยเลือกแล้วว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร... ซึ่งแบ่งออกแยกย่อยออกเป็น ๒ ระดับ จิตก่อนสำนึก....P r e c o n s c i o u s คือ...ส่วนหนึ่งของจิตใจที่นำเหตุผลหรือเหตุการณ์บางเหตุการณ์ในอดีตที่พบเห็น มาประมวลผลเพื่อตัดสินใจ  ทบทวนกับการตัดสินใจในปัจจุบัน จิตใต้สำนึก....S u b c o n s c i o u s n e s s คือ....จิตใจที่อยู่เหนือเหตุผล ซึ่งรับข้อมูลจากประสบการณ์ และจดจำทั้งเรื่องดีและไม่ดีไว้ในใจ จนติดเป็นนิสัยและลักษณะของแต่ละคน  ทำอะไรโดยอัตโนมัติไม่ต้องนึกคิด   จิตใต้สำนึกนี้เป็นพลังเหนือธรรมชาติด้วยนะ   เป็นพลัง ๙๐  เปอร์เซ็นต์ของมนุษย์ที่ไม่ได้นำไปใช้ ดังนั้น...จิตสำนึกคืออะไร.. ประเภทจิตก่อนสำนึก คือ ว า ท ก ร ร ม ที่เชื่อมโยงของสมมุติฐานและเท็จจริงในสังคม   แต่จิตสำนึกของผู้คนบางกลุ่มบางกลุ่มที่เลื่อนไหลไปกับกระแสสังคม ยังมี.ปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่ง...เข้ามาครอบงำ นั้น...อุ ป ท า น ห มู่ ป ริ ศ น า จิ ต สำ นึ ก คนเสื้อแดง เคยสงสัยกันไหม ???  ว่าทำไม ????   คนเสื้อแดงที่ดู ฉ ล า ด เ ก่ ง ก า จ จำนวนมาก กลับตกเป็นภายใต้ ต ร ร ก ะ...แบบ อุ ป ท าน ห มู่...ดัง จขกท. ป ริ ศ น า ใ ต้ สำ นึ ก คนเสื้อแดง   เคย ส ง สั ย กั น ไ ห ม ?  ว่าทำไม ??? ฝูงชน ห มู่ ม า ก เมื่อมารวมกันจึงถูกหล่อหลอมความเชื่อ ในเรื่องที่ไม่น่าเชื่อและไม่ควรเชื่อได้บ่อยๆ นักสื่อสาร นักจิตวิทยา   ต่างศึกษาต ร ร ก ะ และ ป ริ ศ น า ใ ต้ สำ นึ ก  ของผู้คนเหล่านี้ และกระแสของมวลชน จนสรุปว่า คือ...p r o p a g a n d a บ่มเพาะคนกลายเป็น...อุปทานหมู่ ต้นเหตุของ ค ว า ม ผิ ด เ พี้ ย น ทางความคิดทั้งปวง   ด้วย ว า ท ะ ก ร ร ม ที่ก่อให้เกิด อุ ป ท า น ห มู่ ของกลุ่มคนเสื้อแดง ว า ท ะ ก ร ร ม คนเสื่อแดง คือ ฝากของฝั่งประชาธิปไตย คือ ว า ท ะ ก ร ร ม ที่เป็นฐานทุนการต่อสู้ของคนเสื้อแดง สร้างอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล...ด้วยเงือนใข ค ว า ม ย า ก จน  ความไม่เป็นธรรม ทั้งจริงและปรุงแต่ง อ า ร ม ณ์   จึงอยู่เหนือ เ ห ตุ ผ ล !!!   คนเสื้อแดง .ทำอะไร ???   คนเสื้อแดงในกลุ่มจะเห็นดีเห็นงามไปหมด !!! ถ้า ผิ ด ..ก็คือ ถู ก ถ้า น่ า เ ก ลี ย ด ก็มันเป็นประชาธิปไตย .!!! ทำไม .????  คนเสื้อแดง ชอบ  ต า ม น้ำ เพราะ พ ฤ ติ ก ร ร ม ของคนเสื้อแดง . มักเป็นไปตามบรรทัดฐานของ แ ก น นำ ที่ยอมรับกันในกลุ่ม แม้แต่ในบอร์ดเรา อย่าง จขกท.  ก็ถือเป็นคนสำคัญคนหนึ่ง อันที่จริง คนเสื้อแดงแบบไม่ตามน้ำ  ก็มีอยู่บ้าง... แต่...อยู่อย่างเงียบๆ ยึดมั่นในอุดมการณ์ เป็นตัวของตัวเอง  มั่นคงทางอารมณ์ ซึ่งอาการ ต า ม น้ำ  ของเพื่อนๆเสื้อแดงนั้น ไม่ได้เกิดจากการมีความคิดเห็น ต ร ง กั น หรือจิตสึกอะไรมาก แต่ เป็น ก ล ไ ล การป้องกันตนเอง และเลี่ยงความขัดแย้งได้อย่างหนึ่ง  เข้ากลุ่มเข้าพวก เข้าแก็ง เพราะมนุษย์นั้น .เป็นสัตว์สังคม อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม การมีจิตสำนึก..ซึ่งเป็นสาธารณะ คือ...คุณค่าสูงสุดของการเป็น ส ม า ชิ ก ของสังคม เพราะ...จิ ต สำ นึ ก ส า ธา ร ณ ะ นั้น ดุจดัง...เมล็ดพันธุ์แห่ง ค ว า ม ดี ง า ม ย่อมเติมโต....เสมอ ไม่ว่า...จะโปรยหว่านลง  ณ ที่ใด   ย่อมหยั่งรากลึก แตกกิ่ง ผลิใบ อวดดอกและออกผล  อัน ง ด ง า ม ส ง่ า..... http://www.youtube.com/watch?v=rv6oWhG76pQ&list=FLEcw53lKU_jIN1LfjCramgQ&index=1&feature=plpp_video แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 10:07:12 จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:30:28 A:223.204.179.33 X:

ความคิดเห็นที่ 4 1+1 = 2 จากคุณ : bigjinbook เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 09:41:38 A:110.168.190.87 X:

ความคิดเห็นที่ 5 หลักวิชาการที่ท่านห่านป่ายกมานับว่าไม่เลวเลย แต่การ apply ผิดหลักการไปหน่อยครับ หากหลักการถูกต้อง หลักการเดียวกันนี้ควรนำไปพิจารณาตัวคุณห่านป่าได้ด้วยเช่นนะครับ ว่าอยู่ใน อุ ป ท า น ห มู่ ใด ๆ หรือไม่? ผมยอมรับอย่างหนึ่งว่า การวางยุทธศาสตร์ และการ propaganda ของ พธม. ก้าวล้ำกว่า นปช.มาก แต่ที่ไม่ค่อยได้ใจประชาชนเพราะตั้งโจทย์ว่า ปชช.โง่ กว่า พธม.ครับ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:00:01 A:1.46.180.253 X:

ความคิดเห็นที่ 6 จิตสำนึกของคนบางคนที่เชื่อว่า  และ/หรือ มีความหมายเหมือนกัน ..........ประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องเคารพเสียงข้างมาก............จบเห่ จากคุณ : Merati เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:06:18 A:58.11.199.139 X:

ความคิดเห็นที่ 7 การปฏิวัติที่ไม่สะเด็ดน้ำ  ทำให้ประชาธิปไตยไทยพิกลพิการมาถึงทุกวันนี้ จากคุณ : สาละวิน เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:19:01 A:61.90.165.110 X:

ความคิดเห็นที่ 8 จิตสำนึกของจขกท.กับ#3แสดงความคิดเห็นได้ใกล้เคียงกันมาก แต่เหมือนนักมวยคนละมุม ต่อยดีเท่าๆกันแต่ต้องการแต่ชนะอย่างเดียว พออารมณ์ปัญหาเกิด เป็นมวยอาชีพที่ต้องการชนะอย่างเดียว ไม่ใช่กีฬาเพราะกีฬาคือการรู้แพ้ รู้ชนะ และกีฬาของมนุษย์ที่รู้จักการดำรงชีวิตโดยจิตใต้สำนึกภายใต้จิตรู้สำนึกนั้นก็คือการรู้อภัยนั้นเอง จากคุณ : รู้สำนึก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:19:30 A:110.164.99.145 X:

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ...ศาลายา คคห.๕ หากจะเปรียบเทียบ...พธม. กับ นปช. คุณศาลายา...ต้องบอกด้วยว่า...พธม.พันธ์ทางหรือพันธ์แท้...คริ คริ http://www.youtube.com/watch?v=QohUdrgbD2k&feature=related จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:24:21 A:223.204.179.33 X:

ความคิดเห็นที่ 10 จิตสำนึกคืออะไร..????? จิตสำนึกน่าจะหมายถึง สำนึกถึงอะไร สำนึกว่าจะทำอะไร เช่น จิตสำนึกของหมอ กับจิตสำนึกของตำรวจก็คงต่างกัน จิตสำนึกของครูกับนักเรียนก็คงไม่ใช่อันเดียวกัน จากที่ จขกท. ให้ความเห็นมาผมมองว่าเป็นจิตสำนึกของการเป็นคนเสื้อแดงที่ดี ไม่ใช่จิตสำนึกของคนไทย เพราะที่ จขกท. บอกมาเป็นการมองจากด้านเดียว ไม่ได้มองเห็นความผิดของคนเสื้อแดงเลย จากคุณ : กุ๋ย กุ๋ย เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:45:37 A:171.98.188.139 X:

ความคิดเห็นที่ 11 คุณห่านป่า  คุณสวยงามมากเลยค่ะ  ประทับใจคุณมาตลอด ขออนุญาตบอกอะไรสักนิดนะคะ ไม่ว่าอะไรก็ตาม จะเกิดเหตุการณ์อะไรมากมายก็ตาม ก็เพียงแค่ ตีความหมาย   ป ร ะ ช า ธิ ป ไ ต ย  ให้ได้ถูกต้องเท่านั้นเอง หรือไม่ใช่คะ   แต่...ยังไม่ต้องตอบก็ได้ค่ะ  เกรงใจเจ้าของกระทู้ ขอโทษคุณคนอุบล เจ้าของกระทู้นะคะ จากคุณ : ลมสบาย เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:51:52 A:124.120.190.229 X:

ความคิดเห็นที่ 12 คคห.9 คุณห่านป่าครับ พธม.พันธุ์แท้นอกจากคุณห่านป่าแล้วมีใครบ้างครับ? แล้ว สนธิ ลิ้ม., จำลอง, สมศักดิ์, สมเกีรยติ, พิภพ, สุริยะใส, ปานเทพ เหล่านี้มีใครพันธุ์แท้พันธุ์ไม่แท้บ้างหล่ะครับ? คนเหล่านี้ไม่เก่ง propaganda หรือครับ? คุณห่านป่าครับ ภาพใน คคห.9 มองให้ดีมันก็คือภาพ อุ ป ท า น ห มู่ ชนิดหนึ่งไม่ใช่หรือครับ? ยินดีที่ได้เสวนาในวันอภิวัฒน์ประเทศไทยครับ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:54:30 A:1.46.180.253 X:

ความคิดเห็นที่ 13 เคยได้ยิน ทฤษฎีลำดับความต้องการ ของมาสโลว์ไหมล่ะครับ ถ้าเป็นหมอหรือพยาบาลก็คงจะเคยได้เรียนกันมาแทบทุกคนน่ะครับ แต่ว่าใครจะนำมาพิจารณาหรือไม่นั้นก็แล้วแต่คนน่ะครับ มนุษย์เรานั้นจะมีความต้องการเป็นลำดับขั้น ซึ่งมักจะพบว่าบุคคลมักดิ้นรนตอบสนองความต้องขั้นต่ำสุดก่อน เมื่อได้รับการตอบสนองแล้ว จึงแสวงหาความต้องการขั้นสูงขึ้นไปตามลำดับ ภาพปิรามิดแสดงลำดับขั้นความต้องการ ตามแนวคิดของมาสโลว์ 7 ลำดับขั้น ลำดับ 1-4 เป็นความต้องการระดับต้น หรือระดับขาดแคลน ลำดับที่ 5-7 เป็นความต้องการระดับสูงหรือระดับสร้างความสมบูรณ์แบบให้ชีวิต ความต้องการทั้ง 7 ลำดับขั้นตอนตามแนวคิดของมาสโลว์นั้น บุคคลจะกระทำการเพื่อสนองความต้องการลำดับแรกก่อน แล้วจึงดิ้นรนเพื่อสนองความต้องการถัดมาเป็นลำดับ ตัวอย่างพฤติกรรมของพนักงานในองค์การ เช่น ตราบใดที่ค่าแรงยังไม่พอกิน (ความต้องการขั้นที่ 1 ) หรือตนต้องเผชิญสถานการณ์เสี่ยงภัยในหน้าที่ (ความต้องการขั้นที่ 2) ในภาวะดังกล่าวนั้น พนักงานอาจยังไม่คำนึงถึงความรัก การยอมรับ การยกย่องและเกียรติยศชื่อเสียง (ความต้องการขั้นที่ 4) หรือจะยังไม่ดิ้นรนเพื่อใฝ่หาความรู้ ความดี ความงาม หรือความสมบูรณ์แบบส่วนตัว (ความต้องการขั้นที่ 5,6 และ 7) จึงเห็นได้ว่าคนบางคนกระทำในสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ เพื่อให้ความต้องการ ทางกาย ได้รับตอบสนอง เช่น เพื่อให้ท้องหายหิว เพื่อสนองความต้องการ ทางเพศ หรือเพื่อสะสมเงินทองเอาไว้ให้อบอุ่นใจว่าต่อไปภายหน้าจะได้มี กินมีใช้ไงล่ะครับ จากคุณ : เฒ่าเกเร เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:54:52 A:118.172.131.254 X:

ความคิดเห็นที่ 14 จขกท.ครับ จากข้อความที่ว่า "วันก่อนผมได้คุยกับหมอรุ่นน้องคนหนึ่ง"แสดงว่าจขกท.เป็นหมอใช่หรือไม่ เพราะถ้าไม่ใช่น่าจะใช้คำว่า"วันก่อนผมได้คุยกับรุ่นน้องที่เป็นหมอคนหนึ่ง" และเมื่อประมวลข้อความที่จขกท.อ้างอิงถึงหมอรุ่นน้องมันสื่อไปในทางลบ ประมาณว่ามีมุมมองคับแคบ ไม่สนใจความเปลี่ยนแปลงของโลก นอกจากนี้ยังได้พาดพิงไปยังบุคลากรในวงการสาธารณสุขจากข้อความ"แต่ที่น่าสนใจคือ..ในบุคลากรในวงการสาธารณสุขนั้น..ส่วนใหญ่ล้วนมีความคิดเช่นนี้..????" จขกท.อยู่ในวงการไหน ได้พบปะผู้คนมากน้อยเพียงใด เหตุใดจึงสามารถสรุปได้ว่าคนที่จขกท.พาดพิงเป็นคนเช่นนั้น ผมเคารพในข้อคิดเห็นและมุมมองของจขกท. แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนักเพราะมันเยอะจนเฝือแล้ว จากคุณ : mansantanon เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:18:17 A:171.97.149.73 X:

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ ลมสบาย คคห.๑๑๑ ผมตีความเป็น..คำชม...นะครับ ขอบคุณมาก...คริ คริ จากปี พ.ศ.๒๔๗๕  จวบจนวันนี้  นับเป็นเวลา ๘๐ ปี   ที่ประเทศไทยของเราเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย มาถึงวันนี้...ประชาธิปไตยของเรา แม้มากด้วยอายุ แต่เป็นดังผู้เฒ่าทารก...ที่พัฒนาถดถอยลงไปทุกๆวัน เราผ่านการปฏิวัติมา  ๑  ครั้ง ผ่านการรัฐประหารมา ๑๒  ครั้ง และเกิดกบฎ ๑๓ ครั้ง เรามีรัฐธรรมนูญมา ๑๘ ฉบับ เรามีนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ๒๘ คน และเคยเกิดวิกฤติการทางการเมืองครั้งใหญ่ๆ มากหลครั้ง ตุลา พฤษภาทมิฬ  เมษายน ปีสองปีที่ผ่านมา หลายครั้งหลายคราวเหมือนว่า... จะนำความรุ่งโรจน์ทางประชาธิปไตยมาสู่บ้านเมืองเรา แต่...สุดท้ายวังวนจนเป็นวงจรอุบาทว์ รัฐธรรมนูญฉบับถาวร -> การเลือกตั้ง -> การจัดตั้งรัฐบาล -> วิกฤติศรัทธา,วิกฤติในสภา -> รัฐประหาร,ปฎิรูป -> รัฐบาลคณะรัฐประหาร,รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว -> เรียกร้องรัฐธรรมนูญ -> รัฐธรรมนูญฉบับถาวร ... ซึ่งผมยังมองว่า ว ง จ ร อุ บ า ท ว์  ที่เกิดขึ้น เกิดจากทั้งอำนาจนอกระบบและวุฒิภาวะประชาธิปไตยของเราเอง ขออ้างอิงกระทุ็ที่เสวนากับคุณศาลายา http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12280507/P12280507.html วนเวียนอยู่อย่างนี้....มา ๘๐ ปี จนสร้างความแตกแยกทางสังคมมากขึ้นทุกวัน ไม่นาน...ก็คงกลายเป็นสงครามกลางเมือง ในทำนอง....เลือดไม่หลั่ง  เรื่องไม่จบ http://www.youtube.com/watch?v=S-UzaZjSNd8&feature=my_liked_videos&list=LLEcw53lKU_jIN1LfjCramgQ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 11:48:59 จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:46:03 A:223.204.179.33 X:

ความคิดเห็นที่ 16 80ปีของตำราประชาธิปไตยเล่มเดียวกัน เหมือนตำรา80หน้า ที่ทุกคนอ่านบทคำนำเหมือนกัน อาจอ่านหน้าที่1เหมือนกัน และอาจอ่านหน้าที่80เหมือนกัน แต่จะมีสักกี่คนที่อ่านตั้งแต่หน้าที่1จนถึงหน้าที่80เหมือนกัน เรากลับไปอ่านตำรานี้ โดยเริ่มจากหน้าที่1จนไปถึงหน้าที่80 พร้อมๆกันดีไหมครับ ปล.ผมก็อ่านตำราเล่มนี้เหมือนกันครับ แต่อ่านหน้าที่1 หน้าที่20(มีสิทธิ์เลือกตั้งเก่า) แล้วอ่านอีกหลายหน้า ที่พอจำได้ก็หน้า49 หน้าที่50 ล้าสุดก็หน้าที่54ครับ แต่ก็แอบลักไก่ไปอ่านหน้าที่80เสมอ ปล.อีกครั้งครับ มีท่านใดเคยอ่านครบ80หน้าบ้างครับ ยกมือหน่อยครับ จากคุณ : รู้สำนึก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 12:39:41 A:110.164.99.145 X:

ความคิดเห็นที่ 17 เช่นกันครับ...คุณศาลายา กับร่อนตระกอนความต่างในวันอภิวัฒน์ประเทศไทย คุณรู้สำนึก...ผมอ่านหน้า ๑ แล้วมาอ่านหน้า ๘๐ ส่วนหน้า ๒ ถึง หน้า ๗๙  ก็อ่านไปเรื่อยๆ แต่บางครั้งบางคราว... อ่านหน้า แล้วลืมหลัง  อ่านหลังหลังแล้วลืมหน้า...อิอิ แต่ทั้งหมดทั้งปวง... นัยยะสำคัญ...ของการตีความที่แตกต่าง ที่ผมมองว่า...ไม่หมายถึงแตกแยก นะครับ http://www.youtube.com/watch?v=YMtg4K_79Vg&feature=relmfu จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 13:12:11 A:223.204.179.33 X:

ความคิดเห็นที่ 18 555เหมือนกันครับท่านห่านป่า อ่านกลับไป กลับมาบ้างก็มี บางครั้งยังนึกขำตัวเองอยู่เลยว่าเฮ้ยตรูอ่านหน้าไหนอยุ่ แต่ขอเตือนท่านห่านป่าอย่างนะครับ ระวังนะครับ ได้หน้า แล้วลืมหลัง55 ปล.ด้วยความเลื่อมใส สุขสรรค์อาทิตย์หรรษาครับท่านห่านป่า จากคุณ : รู้สำนึก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 13:43:40 A:110.164.99.145 X:

ความคิดเห็นที่ 19 ขอดันกระทู้ตัวเองหน่อย http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12280418/P12280418.html เชิญคุณห่านป่าและเพื่อน ๆ ไปดูพัฒนาการประชาธิปไตย 80 ปี  บทสรุปของ อ.จ.ดร. อุกฤษณ์  กันหน่อย  อยากเชิญ นักปชต. แบบคุณห่านป่า  วิจารณ์นักกฎหมายแบบ อ.จ.ด้วย จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 14:22:18 A:58.8.227.28 X:

ความคิดเห็นที่ 20 5555...ไม่ยักกะรู้ว่า..คุณห่านป่า..เป็นนักวิชาการ..??? แต่การเป็นนักวิชาการเมืองไทยนี่..อัตตาช่างสูงส่งเหลือเกิน.. ในขณะที่บอกว่า..คนอื่นอยู่ใต้อุปทานหมู่..กลับไม่มองตนเองว่า..ตนเองอยู่ตรงไหน???? พูดถึงนักวิชาการทำให้ผมคิดถึงคำสอนหลวงพ่อชาตอนหนึ่งว่า... "คนที่จบ ดร.เค้าไม่รู้ว่า..กิเลสเค้าก็จบ ดร.เช่นกัน..." คุณห่านป่าไม่ต้องแยกแยะจิตสำนึกตามวิชาการหรอกครับ... สิ่งสำคัญคือ..จิตสำนึกคุณอยู่ฝ่ายไหน..????ธรรม หรือ อธรรม..???? ถ้าคุณเห็นชาวนายากจนแล้วดีใจที่ขายข้าวได้เกวียนละ 20000 บาทนั่นคือคุณอยู่ฝ่ายชาวนา.. ถ้าคุณเห็นคนถูกยิงตายที่ รปส.แล้วรู้สึกเสียใจจนเกลียดรับบาลนั่นคือคุณอยู่ฝ่าย ปชช. จิตสำนึกไม่ได้วิ่งตามคนหมู่มาก..แต่เกิดเพราะคุณมองเห็นและต้องการให้สังคมต้องมีความเป็นธรรมต่างหาก.. อย่าเอาคำพูดดูดีมาพูดอ้อมไปอ้อมมา..จนน่าวิงเวียน..เหมือนนายมาร์คเลย.. สุดท้ายก็แค่..คุณยืนอยู่ฝ่ายไหน..เท่านั้นเอง..???? ครับ..สำหรับคุณ mansantanon .. ผมต้องขออภัยหากที่ผมเขียนไปทำให้เข้าใจผิด...จริงๆผมควรเขียนว่า.. "รุ่นน้องที่เป็นหมอคนหนึ่ง....."ส่วนที่ผมบอกว่า"บุคลากรส่วนใหญ่ของวงการสาธารณสุขนั้น... เพราะผมรู้จักตนในวงการนี้เยอะมาก..เยอะจนคุณอาจจะไม่เชื่อ...และส่วนใหญ่เกลียดทักษิณ... มีเพืียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่เกลียดทักษิณ..ครับ... คิดว่าคงเคลียนะครับ... คุณลมสบาย..สวัสดีครับ...ไม่ต้องกังวลครับ..เพราะกระทู้นี้เป็นกระทู้เปิดครับ ถกกันตามสบายครับ... จากคุณ : คนอุบล เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 15:03:33 A:101.108.7.36 X: