ความคิดเห็นที่ 1 ยังไงก็ต้องเลือกตั้งสสร.เข้ามา สุดท้ายแล้วก็ต้องลงประชามติอยู่ดีนิครับ ยังไงก็ให้ทุกคนในประเทศตัดสินอยู่แล้วไม่ใช่ แต่ถ้าจะเอาตรรกะที่ว่าไม่ให้แก้ทั้งฉบับ งั้นแก้ทีละมาตราไปเลยดีมั้ยครับ แก้ในสภานี้แหละ เอาเสียงข้างมากโหวต ไม่ต้องถามประชาชนละ แบบที่ประชาธิปัตย์แก้คราวก่อน ง่ายดี ประหยัดงบด้วย แบบไหนดีกว่ากันเหรอครับ จากคุณ : From_CNX เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 03:25:54 A:49.49.16.120 X:

ความคิดเห็นที่ 2 "จุดร่วม"  กร๊ากกก เพ้อเจ้อจริงๆ จุดร่วมคืออะไร คือ ขวางทุกอย่างที่ฝ่ายอื่นเสนอ เพราะกลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะทำผลงานล้ำหน้าและกลัวว่าคนๆนึงที่พรรคตัวเองทั้งพรรครวมกับทะหานเกรียนๆและตุลาเกินอุบาทว์รวมกันก็สู้ไม่ได้ จะกลับมาจากดูไบ นี่เหรอพวกเสียงส่วนน้อยในประเทศสารขัน อ้างเสียงส่วนใหญ่ก็ไม่ได้หาว่าพวกมากลากไป. ไม่เห็นอกเห็นใจพวกเสียงน้อยแต่เส้นใหญ่คับบ้านคับเมืองแพ้แล้วล้มกระดาน ยึดอำนาจ เลียแข้งเลียขาอำมาตย์ ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร กร๊ากกก พวกอุดมการณ์สลิ่มดัดจริตชัดๆ จากคุณ : Jitara เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 03:28:25 A:41.132.66.135 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ก็เพราะรัฐธรรมนูญ 50 คนในสังคมไม่ยอมรับไงครับ เขาจึงมาแก้ทั้งฉบับ จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 03:34:55 A:49.48.84.121 X:

ความคิดเห็นที่ 4 รับไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง http://goo.gl/n8jkw http://www.youtube.com/watch?v=DqR9eU3Coeg . จากคุณ : ขนมสาคู เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 04:11:05 A:124.122.108.83 X:

ความคิดเห็นที่ 5 "ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องมีจุดร่วมที่ทุกคนในสังคมยอมรับไว้ให้ยึดถือร่วม กันได้ เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดต่างหากครับ" จขกท. คำว่า "ทุกคน" มันเป็นไปไม่ได้หรอก อย่ามาอินโนเซน ที่เป็นไปได้คือทำให้"ใกล้"กับคำว่า"ทุกคน" มากที่สุดนั่นคือ"ส่วนใหญ่"นี่แหละ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 04:46:02 จากคุณ : Badmantaro เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 04:44:57 A:1.4.140.33 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณครับ ถ้าถามว่าจะเอาแบบไหนดี ผมต้องแตกประเด็นไปเลยครับ เพราะหัวข้อนั้นถือหลัก ปกครองที่จะพูดคุยถึงปัญหา ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง ตามคห.ที่คุณ  From_CNX กล่าว นั่นก็เป็นเรื่องที่บ้านเมืองเรามีปัญหากันอยู่นี่ครับ แนวคิดที่คุณ From_CNX ให้เหตุผล ถึงจะปรับวิธีการตามข้อ 2 ที่เสนอในสภา มันก็เป้าหมายเดิมแค่เปลี่ยนวิธีการครับ ปัญหาสำคัญของเราตอนนี้ที่ใช้หลักเสียงส่วนใหญ่ของคุณFrom_CNX แล้วมีปัญหา เพราะเป้าหมายของผู้ที่จะแก้มุ่งไปที่บุคคล ไม่ใช่ส่วนรวม คุณFrom_CNX อาจ เห็นว่าเพราะที่ผ่านมาเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่มีฝ่ายต่อต้านเพราะเห็นว่าทำผิด กลุ่มใหญ่ๆของเราจึงมีปัญหาเริ่มต้นจากคน แล้วพัฒนาปัญหาไปสู่อีกคน และอีกคน คุณ From_CNX อาจจะมีจุดยืนด้านประชาธิปไตยจริง แต่กลุ่มแกนนำมีเป้าหมายนี้ จริงๆครับ แกนนำอีกฝ่ายก็มีเป้าหมายต่อต้านจริงๆ แต่เรากลับนำเรื่องหลักการปกครองมาผูกโยง ต่างอ้างว่ายึดตามหลักประชาธิปไตย มันเลยกลายเป็นเรื่องตลก เพราะต่างฝ่ายต่างบอกว่ายึดหลักนี้ แต่กลับเข้ากันไม่ได้ เลยสักเรื่อง หลักเดียวกันแท้ๆ ลองค้นหาประวัติดูครับ ผมไม่เคยค้น แต่มั่นใจว่าไม่มี ว่าประเทศที่เจริญทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่เรายึดถือกัน มีใครไหม 1.ที่ใช้ประชามติแก้รับธรรมนูญทั้งฉบับโดยไม่มีการประกาศสัตยาบัน และมีประชาชน ไม่เห็นด้วยมากกว่า 10 เปอเซ็น มีถึง 3 ปัจจัยนะครับ ทั้งฉบับ สัตยาบัน คนไม่เห็นด้วย 2.ประเทศไหนที่เมื่อเกิดปัญหาการเมืองรุนแรงแล้วไม่หาจุดร่วมก่อนที่จะเดินหน้าประ เทศตนเองอย่างปกติ แล้วจะเป็นปกติ หมายถึง เดินหน้าได้ครับ มีแต่รบกันเละ นั่นเพราะปัญหาจริงๆอยู่ที่คนไม่ใช่ระบบครับ เราแค่เอาระบบมาอ้างเพื่อสร้างความชอบ ธรรมให้ตนเอง ซึ่งปกติหากเกิดปัญหาผมจะยึดวิธีแก้เป็น 2 แนวทางครับ คือ 1.ปัญหาเกิดที่คน แก้ที่คน ปัญหาเกิดที่ระบบ แก้ที่ระบบ 2.คิดถึงปัญหาให้คิดย้อนกลับ จากผลมาหาเหตุ ในส่วนแรกเป็นวิธีที่ผมเสนอครับ ว่าให้นำตัวแทนกลุ่มคนมาหาจุดร่วมจริงๆนี้แล้ว ไม่ตอบโจทย์จริงหรอกครับ เพราะปฏิบัติเมื่อปฏิบัติแล้ว ก็จะสะดุดในปัญหาใหญ่ ที่ 2 ฝ่ายใหญ่มีปัญหาเรื่องบุคคลกันอยู่ ผมเพียงหวังว่าถ้าทำระบบนี้แล้ว มันจะค่อยๆ ทำให้สังคมได้พูดคุยกันมากขึ้น ถ้าเราเข้าใจกันมากขึ้น ฟังกันมากขึ้นอาจจะดัน บุคคลที่มีปัญหาออกไปเอง เพราะเราเข้ามาพูดคุยกันตามครรลองประชาธิปไตย เช่นเดียวกัน ความเห็นคุณ From_CNX ที่จะแก้ระบบ นั่นเป็นการเอาชนะ ไม่ใช่แก้ปัญหา ส่วนเรื่องที่ 2 เราใช้คิดได้ทั้งเรื่องประเด็นย่อย ประเด็นหลักครับ เช่นกรณีคห.1 ให้เหตุผลมาระยะสั้นคือ พอยื่นก็มีเรื่อง พอยื่นก็มีเรื่อง ถ้าตั้งโจทย์ว่าทำไม ไอ้นั่นไม่ยอม มันก็ไม่ตอบโจทย์ครับ ต้องเอาออกมาก่อน แล้วหาเหตุใหม่ ซึ่งเรารู้อยู้แล้วคือคนครับ และวิธีที่จะแก้ปัญหาเรื่องความขัดแย้งที่ดีที่ยั่งยืนที่สุด คือการ"เจรจา"ครับ โดยต้องมีคนกลางครับที่จะเป็นผู้ที่มีบารมี เป็นกลางอย่างแท้จริงเป็นตัวกลางการเจรจา ผมว่าบ้านเราตอนนี้หาไม่ได้ครับ เพราะทุกคนโดนผลักให้มีฝ่ายเรียบร้อยแล้ว แต่หากจำเป็น ต่างประเทศก็ต้องทำครับ ถ้าอยากแก้ปัญหาที่ขัดแย้งฝังลึกของเรา แล้วไม่ต้องรีบครับ ยิ่งรีบยิ่งแย่ บอกได้เลย ผมขอยกตัวอย่าง เช่น รัฐบาลอังกฤษกับกบฎira ใช้เวลาลาเจรจากันกว่า 13 ปี โดยคนที่เป็นตัวกลางได้รับการยืนยันภายหลังว่าเป็นนายบิล คลินตัน แห่ง สหรัฐเป็นประธาน อินโดนีเซียใช้เวลา 15 ปี ตัวกลางเป็นนายกฯสวีเดน สำเร็จที่นายกฯฟินแลนด์ - -" แล้วเราจะจบด้วยการแก้รัฐธรรมนูญได้หรือ? ไม่มีวันแก้ได้หรอกครับ ที่สำคัญเราต้องเปลี่ยนแนวความต้องการใหม่ครับ ต้องเลือกเอาครับระหว่างต้องการ ที่จะเอาชนะ หรือ ต้องการที่จะแก้ปัญหา ถ้าต้องการสิ่งแรกยิ่งสะสม ไม่รัฐประหาร รอบใหม่ ก็กบฏรอบใหม่ บุคคลที่เกี่ยวข้อง ต้องเลือกครับ สุดท้าย ผมว่าเราไม่มีทางได้ข้อสรุปแน่นอน เพราะปัญหาไม่ได้มาจากพวกเราเลย เราเป็นเพียงสิ่งที่สะท้อนออกมาจากความขัดแย้งของฝ่ายมีอำนาจ เมื่อเขายังไม่จบ พวกเราก็ไม่มีทางได้ข้อสรุป เพี้ยนไปจนปกครองหลักเดียวกัน แต่คิดต่างกันโดยสิ้นเชิง จากคุณ : MiNiJung เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 04:57:23 A:101.108.150.97 X:

ความคิดเห็นที่ 7 คห.2 ผมขอผ่านเลยนะครับ ผมหาประเด็นคุยด้วยไม่เจอ คห.3-4 รัฐธรรมนูญ 2550 คือปัญหาของสังคมไทยตอนนี้จริงหรือครับ? คห.5 ผมอาจพลาดที่พิมพ์ไม่เคลียร์ เป็น"สังคมโดยรวม"ครับ คุณอาจพยายามดึงให้เข้าไป เรื่องเสียงส่วนใหญ่อีก ไม่หรอกครับคุณเข้าใจผิดถนัด เจตนาของ"จุดร่วม" คือสิ่งที่เราจะยอมรับร่วมกันได้เพื่อไว้ยึดถือให้อยู่ในสังคมเดียวกันได้ ผลของ"จุดร่วม"จะออกมาเป็น"หลักการ"และถ้ามันมาจาก"จุดร่วม"เดียวกัน "หลักการ"ก็จะออกมาในทิศทางเดียวกัน ไม่สะเปะสะปะเหมือนเราตอนนี้ แต่คุณจะนำ"มติ"ของการออกเสียงมาเปลี่ยน"หลักการ"ไม่ได้ครับ มันคนละเรื่องกัน"มติ"มีไว้เพื่อ"ยอมรับ" ไม่ใช่สิ่งที่นำมา"ยึดถือ"เชิงอุดมการณ์ และมันจะมีการต่อต้านถ้านำ"มติ"การออกเสียงมาเปลี่ยน"หลักการ" สังเกตุไหมว่าตอนนี้เราไม่เชื่อถืออะไรเลย ศาล อัยการ ใครก็แล้วแต่ที่ความเห็นต่าง เพราะอะไรเคยวิเคราะห์ไหม? "ถ้าคุณไม่ทำความเข้าใจ คุณก็จะท่องซ้ำๆว่าเพราะไม่ ยอมรับเสียงส่วนใหญ่" ซึ่งมันคนละเรื่องครับ "เพราะ"หลักการ"เรามันพังไปนานแล้วครับ เราจึงไม่ยึดถืออะไรเลยที่ขัดแย้งกับเรา ผมถึงบอกว่าเราต้องมาทำ"จุดร่วม"กันใหม่ครับ" ผมเขียนบทความไว้อาจใช้เป็นวิธีคิดได้ ถ้ารู้อยู่แล้วก็ไม่เป็นไรนะครับ แค่อยากชวนคุยโดยพุ่งเป้าหา"เหตุผล"ของความคิดที่โต้แย้ง ไม่ใช่พุ่งเป้าหา"คำ"ที่โต้แย้ง เพราะมันจะไม่เป็นการแลกเปลี่ยนทางความคิด แต่จะกลายเป็นสมรภูมิน้ำลายครับ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12281804/P12281804.html แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 05:31:32 จากคุณ : MiNiJung เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 05:23:41 A:101.108.150.97 X:

ความคิดเห็นที่ 8 คงไม่ได้แก้แล้วล่ะ เพื่อไทยน่าจะถูกยุบพรรค รวมทั้งตัดสิทธิ์ ส.ส. ส.ว. ที่ลงมติทั้งหมด เป็นเวลา5ปี ส.ส.ในสภาหายไป300คน ปชป.กับภูมิใจไทยจะได้เป็นเสียงส่วนใหญ่ไง ถ้าตัดสินเค้าว่าผิด ทั้งที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้น การแก้รธน.จะทำผ่านสสร. ซึ่งประชาชนทั้งประเทศจะเลือกมา แล้วเค้าก็มีกติกาแล้วว่าจะไม่แตะหมวด1หมวด2 เหมือนกับ คน2คนไม่ถูกกัน คนแรกทำหน้าคิ้วขมวด ยังไม่ได้ถือมีด แต่อีกคนกลับไปฟ้องตำรวจว่า ไอ้หมอนี่มันทำคิ้วขมวดใส่ผม ในอนาคตมันต้องฆ่าผมแน่เลย ตำรวจกับกระบวนการยุติธรรมก็จับหมอนี่เข้าคุกซะเลย  ด้วยเหตุผลว่า ถ้าปล่อยไว้ หมอนี่อาจจะไปหาซื้อมีดหรือปืนมาฆ่าคนก็ได้ ถ้าระบบยุติธรรมเป็นแบบนี้ ก็คงต้องปล่อยให้พวกท่านบริหารประเทศแล้วล่ะ อยากให้ใครเป็นก็เชิญ นี่เราทำใจแล้วนะ เอิ้กๆ ตามสบาย แต่เราเชื่อว่ากฎแห่งกรรมมีจริง แล้วอีกอย่างคือในประวัติศาสตร์โลกที่ผ่านๆ มา สุดท้ายแล้วประชาชนชนะทุกที เป็นเหมือนกันหมดทุกประเทศซะด้วย ท่านหลีกเลี่ยงเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้หรอก เสียงส่วนน้อยก็ต้องฟังนะ แต่ก็ต้องมาตัดสินด้วยเสียงส่วนใหญ่ เหมือนโหวตเลือกหัวหน้าห้องน่ะแหละ จากคุณ : goopa เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 05:27:55 A:125.25.128.227 X:

ความคิดเห็นที่ 9 คือตอนนี้ หลักการ อะไรต่างๆ มันบิดเบี้ยวไปหมด กฎหมายมันไม่ผิดหรอก มันผิดที่คนใช้กฎหมายและการตีความ ในเมื่อตีความเป็นคุณแก่ข้างนึงตลอด ส่วนอีกข้างนึงตีความเป็นโทษตลอด อีกอย่างคือความเป็นกลางในการแสดงความเห็นและตัดสิน มีคนเคยบอกว่า ในเรื่องการเมือง วิธีตัดสินที่เป็นธรรมคือ ให้วิเคราะห์ว่า ในพฤติกรรมของจำเลย ถ้าจำเลยเป็นฝ่ายเดียวกับเรา ๆ จะตัดสินยังไง  และอีกกรณีคือ ถ้าจำเลยเป็นคนละฝ่ายกับเรา เราจะตัดสินยังไง >> ถ้าวิเคราะห์แล้วผลออกมาเป็นคนละโลก แสดงว่านั่นคือการตัิดสินที่ไม่เป็นธรรมล่ะครับ จากคุณ : goopa เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 05:40:59 A:125.25.128.227 X:

ความคิดเห็นที่ 10 เหตุผลที่รัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญ เพราะมีประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ คนที่ไม่ยอมให้แก้เพราะกลัวจะแก้ให้ทักษิณพ้นผิด ถึงรัฐจะประกาศว่าไม่เกียวสถาบัน และทักษิณ พวกนี้ก็ไม่ยอมเจรจา แกนนำบอกว่ารัฐบาลกำลังล้มล้างรัฐธรรมนูญเข้าข่ายล้มการปกครอง เรื่องนี้ลงประชามติอยู่ รัฐบาลไม่ทำอะไรสิ้นคิดหรอก รู้ๆอยู่ว่าฉีดรัฐธรรมนูญมันง่ายแค่ไหน เราของแค่ รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน อีกครั้ง จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 05:54:20 A:49.48.84.121 X:

ความคิดเห็นที่ 11 สสร. ปี 50 มาจากการสรรหาและเลือกกันเองภายในกลุ่ม ไม่ได้ให้ประชาชนทั้งประเทศเลือก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%8D_%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2550 แต่ สสร. ชุดใหม่นี่จะมาจากการเลือกตั้ง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นผู้เลือก ในมุมมองของอีกฝ่ายก็คงมองว่าเดี๋ยวนักการเมืองก็เอาคนของตัวเองเป็นนอมินีทั่วประเทศ แล้วก็ได้สสร.กลุ่มเดิมๆ การคิดแบบนี้เป็นการดูถูกประชาชน ผมมองว่า สสร.ชุดใหม่นี่เป็นประชาธิปไตยกว่าชุดเก่าอีกแฮะ ประชาชนตัดสินใจเองว่าจะเลือกใคร จากคุณ : goopa เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 05:55:15 A:125.25.128.227 X:

ความคิดเห็นที่ 12 คห.8 1.เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้นนี่ต้องถึงขั้นไหนครับ? 2.เค้ามีกติกาที่จะไม่แตะหมวด 1 หมวด2 ผมไม่ทราบรายละเอียด แต่สงสัยว่าเป็น เขาเสนอกติกาหรือเปล่าครับ? เพราะเข้าใจว่ายังไม่มีการยอมรับกันหรือเปล่าครับ? 3.ถ้ากฎหมายไม่ผิด แต่คนใช้ผิด ต้องแก้ที่คนครับ ไม่ใช่แก้ที่กฎหมาย แต่ผมก็เห็นว่า หลายครั้งการตัดสินให้คุณฝ่ายนั้นอยู่หลายครั้งนะครับ กรณีแบบนี้ไม่เอามานับหรือ และถ้าจะบอกว่าตัดสินไม่เป็นธรรม ห้องราชดำเนินแห่งนี้ก็เหมาะที่จะนำแต่ละประเด็น ที่แคลงใจมาหาข้อมูลถกเถียงโต้แย้งกันได้ ผมว่าเราน่าจะมาลองกันทีละประเด็นๆได้ครับ จากคุณ : MiNiJung เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 06:01:55 A:101.108.150.97 X:

ความคิดเห็นที่ 13 1.เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้นนี่ต้องถึงขั้นไหนครับ? >> สสร. จะเป็นผู้ร่างรธน. ซึ่งสสร.ชุดใหม่นี้ยังไม่เกิด ที่มาของสสร.ชุดใหม่ มาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศ นั่นหมายถึงมาจากเสียงของประชาชน ว่าเค้าต้องการอะไร คุณลองคิดดูว่าระหว่างประชาชนเลือก กับ คนกลุ่มนึงเลือกมาแล้วเลือกกันเองอีกที(อย่างสสร.ฉบับปี50) อย่างไหนจะดีกว่ากันครับ เราปกครองระบอบประชาธิปไตยนี่ครับ ประชาชนเป็นเสียงสวรรค์นี่ครับ หรือว่าคุณไม่อยากให้คนไทยทั้งประเทศมีส่วนร่วมในการสรรหาสสร. 2.เค้ามีกติกาที่จะไม่แตะหมวด 1 หมวด2 ผมไม่ทราบรายละเอียด แต่สงสัยว่าเป็น เขาเสนอกติกาหรือเปล่าครับ? เพราะเข้าใจว่ายังไม่มีการยอมรับกันหรือเปล่าครับ? >> เรื่องนี่ผมเองยังไม่ลงรายละเอียดเท่าไหร่ แต่อย่างที่บอกว่าจะเป็นหน้าที่ของสสร. ซึ่งมาจากประชาชนเลือกมา ถ้ามองด้วยใจเป็นกลาง ประชาชนส่วนใหญ่เลือกก็หมายความว่าประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับในสสร.ชุดนี้ ข้อ3. ง่วงเกินจะพิมพ์ต่อ ขอตัวไปพักผ่อนก่อนครับ จากคุณ : goopa เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 06:14:42 A:125.25.128.227 X:

ความคิดเห็นที่ 14 คห.10 ผมว่าเรื่องนี้ผมเห็นแย้งเต็มๆ เรื่องรัฐฯบอกว่าไม่เกี่ยวกับคุณทักษิณเพราะรัฐฯ ไม่ได้ใช้รัฐธรรมนูญแก้เรื่องคุณทักษิณครับ เขายื่นเป็น พรบ.เข้ามา เรื่องนี้อาจสับสนกันครับเพราะเวลาที่พยายามกระทำเป็นช่วงเดียวกัน ทำเป็น 3 ฉบับ อยากให้เห็นบรรยากาศวันนั้นครับ ผมว่าคุณ คห.10 จะไม่กล้าพูดว่าไม่เกี่ยวกับทักษิณแน่นอนเลย ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องหมวดอะไรไม่รู้ แต่แก้ 291 ก็อาจจะเป็นช่องทาง ล้มรัฐธรรมนูญได้ครับ ที่บอกว่าฉีกง่ายนั้น หากถืออำนาจที่มีอยู่ก็มีช่องทางนี้ช่องเดียว ซึ่งก็เป็นประเด็นอยู่ถึงตอนนี้ จากคุณ : MiNiJung เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 06:15:13 A:101.108.150.97 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ยังจะมาถกเรื่องนี้กันอีกหรือครับ ....ผมว่ารอเปลี่ยน ตลก คณะใหม่ก่อนดีกว่าไหม ถึงจะมาถกโดยเอาเหตุเอาผลเอาข้อกฎหมายมาประกอบ .... จากคุณ : Merati เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 06:26:17 A:124.122.29.237 X:

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นกระทู้ดีๆแต่มีคอมเม้นแย่ๆนี่เซ็ง(ว่ะ) จขกท.เค้าก็มีเหตุผลดี กลับไม่รับฟัง จะเอาให้ถูกใจคุณทั้งหมดเลยหรือไงครับ ประเทศชาติมันไม่ได้เป็นของพวกคุณหมดนะครับ ไอ้แก้น่ะแก้ไปเถอะ ไม่มีใครเค้าว่าหรอก แต่จะแก้มาตราไหน ก็ให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่นักการเมือง ส่วนตัวผมสนับสนุนให้แก้เรื่ององค์กรอิสระ เฉพาะส่วนของกกต. อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดน่ะดี แต่ดันกลายเป็นช่องโหว่ให้ทำเลวเสียอีก ซื้อเสียงแข่งกันเกือบทั้งประเทศ เกือบทุกพรรค ใบแดงมีกี่ใบ? ฉะนั้นควรแก้ให้อำนาจการชี้ขาดทุจริตเลือกตั้งให้เป็นของศาลแทน แต่ใครจะว่าศาลไม่ยุติธรรมอีก ก็แล้วแต่ครับ เพราะผมไม่ให้เครดิตอะไร กับคนที่กระทั่งศาลยังไม่เชื่อ แต่ดันเชื่อเฉพาะคำตัดสินที่ถูกใจตัว ผมว่าเป็นคนใช้ไม่ได้ (ตอนแรกพิมพ์คำว่าหนักแผ่นดิน แล้วคิดว่าไม่เหมาะสม เพราะ ใช้อารมณ์มากเกินไป เลยแก้เป็นคำว่า เป็นคนใช้ไม่ได้แทน) จากคุณ : TFEX เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 06:28:27 A:27.55.10.172 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ไปสู้กันตอนลงประชามติดีหว่าไหม เล่นข้อล้มการปกครองมันร้ายแรงเกินไป รัฐบาลทหารยังมีลงประชามติ เพื่อไทยก็ต้องมีสิ ไหนว่าประชาธิปไตยคือระบอบการปกครองของประชาชน เพื่อประชาชน ประชาชนเขาต้องการให้แก้ ผลออกมายังไงก็เสียงประชาชนคือผู้ตัดสิน ไม่ใช้รัฐประหารเสร็จแล้วแก้เพื่อลบความผิดให้กับตนเอง แล้วบอกว่า รับไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 06:39:42 A:49.48.84.121 X:

ความคิดเห็นที่ 18 อยากให้มีกระทู้เข่นนี้แล้วมีคนเข้าแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ไม่ต้องด่ากันไปมา ทำให้เกิดปัญญา ปัญหาต่างที่เกิดขึ้นมันเกิดจากคน เกิดจากความหลง ความอิจฉา  ความกลัว และประเพณีปฎิบัติบางอย่างที่ไม่ถูกต้องที่สะสมกันมาไม่ยอมแก้ไข จากคุณ : kunchai129 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 06:40:15 A:110.169.250.196 X:

ความคิดเห็นที่ 19 แค่ประโยคเดียว ก็หยุดอ่านทันที "อย่าอ้างเลย....." อ้าว เข้ามาอ่านความคิดเห็น แล้วผู้เขียนกลับห้ามคนอื่นออกความคิดเห็น อะไรกันเนี่ยะ แล้วจะลากเรื่องการแก้ไปหาใครจ๊ะ พูดอะไร โพสอะไร คิดๆหน่อย ว่ามันจริงหรือเปล่า ไม่ใช่สักแต่เขียนไปเรื่อย จากคุณ : เฒ่าวัย 56 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 06:46:26 A:110.168.84.246 X:

ความคิดเห็นที่ 20 จุดร่วม ... ก็ต้องกลับไปที่ รธน.40 ก่อนเลย... จากนั้น ใครบิดเบือนกฏหมาย ใส่ร้าย... ก็ตั้งกรรมการไต่สวนสาธารณะ ลงโทษคนผิด... ส่วนจะแก้ รธน. อย่างไรก็ว่ากันใน สภาซิ...นะครับ จากคุณ : สุทธิสาร เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 06:54:42 A:58.11.64.3 X:

ความคิดเห็นที่ 21 แค่ ประโยคเดียว ก็ควรแก้ ธรน.50 ทั้งฉบับ แล้ว "ธรน.50 เป็นผลพวงมาจากการรัฐประหาร 19 ก.ย. 49" การทำรัฐประหารยึดอำนาจ แล้วประกาศรัฐธรรมนูญ "ไม่ใช่ประชาธิปไตย" จบมั๊ย ? ไม่ต้องอ้าง "การปฏิวัติ 2475" ด้วยเพราะนั่นคือ "การปฏิวัติ" ไม่ใช่การ "รัฐประหาร" ถ้าสามารถยอมรับ "รัฐประหาร" ได้แปลว่าถ้าตอนนี้ถ้า "เพื่อไทย" ทำ "รัฐประหาร" ตัวเองแล้ว "บีบบังคับให้รับรัฐธรรมนูญ" ก็ควรทำได้ใช่ไหม ? พูดเยอะมีแต่น้ำ แต่ไม่มีหัวใจประชาธิปไตย มันจะมี "คุณค่า" อะไร ? จากคุณ : MaJinSKi เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 07:06:21 A:58.8.107.73 X:

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่าแนวคิดของ จขกท.เป็นแนวความคิดที่ไม่มีวันสำเร็จ เพราะอะไรหรือ...เพราะจะไม่มีใครมาเจรจาด้วย เพราะว่าผู้มีส่วนได้เสียกลัวครับ  กลัวอำนาจที่เคยมีจะหายไป(องค์กรอิสระต่างๆเช่นตลก) ผู้ที่กระทำความผิดและถูกคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญฉบับ 50 กลัวจะต้องรับโทษ ผู้มีอำนาจตัวจริงกลัวผลประโยชน์ที่เคยได้รับต้องสูญเสีย กลัวสารพัด... สังเกตุได้จากการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภา ฝ่ายค้านหลังจากโหวตแพ้ไปแล้วก็เริ่มใช้วิธียื้อ โดยขอสงวนคำแปรยัตติไว้ ไม่เคยมีกฎหมายไหนในประเทศไทยที่มีผู้สงวนคำแปรยัตติมากมายหลายร้อยคน เหตุผลเพียงต้องการยื้อไม่ให้การโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านในสมัยประชุมนี้ เพราะอภิปรายจนปิดสมัยประชุมก็ไม่จบ พอสภารู้ทันยืดเวลาปิดสมัยออกไปไม่มีกำหนด ให้อภิปรายจนพอใจ และโหวตร่างกฏหมายผ่านวาระ 2 ไปจนได้ เราก็เห็นอิทธิฤทธิ์ของตลกที่สั่งห้ามลงมติวาระ 3 ทำไมตลกกล้าแสดงอิทธิฤทธิ์แบบหน้าด้านๆ กลับกับมติหรือแนวคิดเดิมที่เคยให้ไว้ ในกรณีมาตรา 68 (มาตรา 63 เดิม) เราคิดว่าตลกพวกนี้หน้าด้านจริงหรือ  โดยส่วนตัวผมว่าไม่จริง เหตุผลการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของตลกมีเพียง 2 ประเด็นคือ ประเด็นที่ 1 ตลกกลัวสูญเสียอำนาจ  ตลกกลัวสวรรค์ ประเด็นที่ 2 มีการวางแผนมาเป็นอย่างดีเป็นขั้นเป็นตอนว่า สถานการณ์การแก้รัฐธรรมนูญถึงไหนจะต้องใช้แผนอะไรออกมาต่อต้าน หากจำเป็นก็ล้มรัฐบาลยุบพรรคเพื่อไทยอีกรอบ ผมค่อนข้างเชื่อว่าน่าจะเป็นกรณีที่ 2 มากกว่ากรณีที่ 1 เพราะผู้ที่อยู่เบื้องหลังตลก สั่งให้ตลกแสดงอะไรๆออกมาชนิดที่รับไม่ได้นั้น ต้องมีอำนาจแฝงเร้นสูงมากมาย   เพียงแค่สั่งตลกให้เป็นผู้หยุดการแก้รัฐธรรมนูญ ตลกก็วิ่งหาวิธีการจนได้แม้จะดูเหลวไหลก็ต้องทำเพราะนี่คือคำสั่ง ปัญหาก็คือหากต้องเจรจา ฝ่ายเพื่อไทยจะเจรจากับใคร มีตัวตนกล้าแสดงให้ประชาชนเห็นหรือไม่ มันไม่เหมือน ira ที่ จขกท.พูดถึง เพราะอำนาจที่ว่ามีคำนิยามอยู่ว่าเป็น"มือที่มองไม่เห็น" ผมจึงคิดตรงข้ามกับ จขกท.  ว่าไม่มีวันสำเร็จครับ ปล.  แก้ไขคำผิดครับ  พิมพ์ผิดมากมาย แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 08:57:25 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 08:55:11 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 08:54:06 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 07:28:05 จากคุณ : เฒ่าเฝ้าเรือน เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 07:26:28 A:183.89.76.25 X:

ความคิดเห็นที่ 23 เลือกสสร.ใหม่ กลัวแพ้ ลงประชามติ กลัวแพ้ เพราะแพ้มาตลอด รัฐธรรมนูญเวลาร่างใหม่คงไม่มีใครไปแก้ใหม่เอี่ยมอ่องหรอก รัฐธรรมนูญที่ผ่านมาก็หยิบเอามาตราโน่นนี้มาเขียนให้ชัดเจนเช่นมาตรา68นี่ก็มาจากปี40แก้คำนิดหน่อย ส่วนที่ไม่อยากแก้ใหม่กลัวช่วยทักษิณ ทำให้นึกดูว่ารธน.50นั้นทำเพื่อกำจัดใคร ถ้าแก้ใหม่คนนั้นได้ประโยชน์ ถ้าคิดแบบนี้แก้ไปเลยยังไงงคนส่วนใหญ่ก็คิดว่าทักษิณทำให้เกิดประโยชน์แก่ชาติมากกว่าอยู่แล้ว จากคุณ : โจดงยาง17 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 08:08:42 A:125.26.49.202 X:

ความคิดเห็นที่ 24 จขกท. ควรไปศึกษาประวัติทางการเมืองไทย ช่วงหลัง 2475 โดยเฉพาะ วิทยานิพนธ์ ปริญญาเอกของจุฬา จะได้มีแนวคิดหลายๆอย่างเพิ่มขึ้น มากกว่า ทางที่ทำไม่ได้ตามที่เสนอมา จากคุณ : คนแดนไท เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 10:29:48 A:183.89.89.96 X:

ความคิดเห็นที่ 25 Quote of the day   “ประชาธิปไตยยึดเสียงข้างมากจริงครับ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องมีจุดร่วมที่ทุกคนในสังคมยอมรับไว้ให้ยึดถือร่วมกันได้ เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดต่างหากครับ" "ดังนั้นเมื่อใดที่เสียงข้างมาก ข้างน้อย ข้างไหนก็แล้วแต่ มาทำให้จุดร่วมของ สังคมนั้นหายไป เราจะไม่มีอะไรยึดครับ มันจะเละ แล้วเละจริงๆครับ ถ้าฝ่ายคุณจะเอาเสียงมากลากไป ก็จะถูกต่อต้านครับ ถ้าต้านอยู่ก็เละ แล้วต้องมาเริ่มใหม่อีก หากไม่อยู่ ถ้าไม่ฝั่งนี้กบฎก็ฝั่งโน้นเผด็จการครับ" ย้ำอีกครั้งครับ สิ่งที่บ้านเมืองเราต้องการที่สุดในตอนนี้คืด"จุดร่วม"ครับ ไปหาเรื่องนี้ก่อน ค่อยมาคุยเรื่องเสียงข้างมาก ลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาให้ถูก ผมแนะนำอีกนิดคือ ฝ่ายท่านถือว่าเป็นผู้ใหญ่ครับตอนนี้ เป็นฝ่ายบริหาร ควรจะเป็นผู้ริเริ่มครับ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมประชาธิปไตยเช่นกัน”   จาก คุณ MiNiJung   ”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””’     เป็นกระทู้ที่สุดยอด ขอชื่นชม จขกท. คุณ MiNiJung ค่ะ                 จากคุณ : โพ้นฟ้า เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 11:04:26 A:124.120.130.66 X:

ความคิดเห็นที่ 26 อะไรก็ตามที่ให้ประชาชนเลือก ก็จะได้ตัวแทนตามสัดส่วน ฝ่ายสีแดงก็ได้ตัวแทนตามจำนวนประชากรของพวกเรา ฝ่ายสีอื่นก็ได้ตัวแทนตามจำนวนประชากรของพวกเขา -------------------- ดูผลพวงจาก การยึดอำนาจซิครับ องค์กรกลางทั้งหมด มาจากคนกลุ่มเดียวกัน ถึงได้ทำอะไรไปแนวทางเดียวกันที่โอนเอียงสุดๆ ไม่ตรงกับความต้องการของคนส่วนใหญ่ และนี่เป็นปัญหาที่หนักกว่า เจตนารมณ์ของ รธน 50 ที่ลดบทบาท รัฐบาล เอาไปไว้ให้กับองค์กรเอียงทั้งหลายเริ่มเป็นพิษ เพราะองค์กรเหล่านี้ ไม่เคยคิดจะทำ หรือมี"จุดร่วม" แบบที่ จขกท ว่าเลยครับ จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 11:06:24 A:175.136.248.42 X:

ความคิดเห็นที่ 27 ให้ฟังความเห็นของกลุ่มต่างๆ นั่นเป็นหน้าที่ของผู้ที่จะมาเป็น สสร.มิใช่หรือ ก็ให้ไอ้ผู้สมัคร สสร. ไปแสดงความเห็นซิ ประชาชนเขาจะได้เลือก คนที่จะมาเป็น สสร.ในแบบที่เขาต้องการ ที่รัฐบาลเขาทำก็ถูกแล้วนี่ แล้วก็บอกไว้แล้วไม่แตะต้องหมวด1-2 แถมร่างออกมาแล้วก็ต้องลงมติกันอีก ไอ้ที่กลัวๆกันก็เห็นเหมือนกัน คห.อื่นๆ คือกลัวเสียอำนาจ ทั้ง สว.และองค์กรอิสระทั้งหลายแหล่ จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 11:07:28 A:124.120.189.180 X:

ความคิดเห็นที่ 28 เราชอบแนวคิดของคุณMiNiJung กับแนวคิดเรื่องนี้ แต่มีหลายความคิดเห็นบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เราสงสัยว่าทำไมมันถึเป็นไปไม่ได้ ช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยได้ใหมคะ คนที่ไม่ค่อยรู้จะได้มองตามได้ หากแนวคิดนี้ทำไม่ได้จริงๆเราว่าอย่างหนึ่งที่คนในห้องนี้ทำได้คือ เอาประเด็นที่มองว่าเป็นปัญหาใน รัฐธรรมนูญ ปี 50,ปี40 มาเปรียบเทียบและชี้ว่ามันเป็นปันหาเพราะอะไร แล้วมาถกกันว่าถ้าแก้จะแก้แบบใหน น่าจะดีนะคะ ถึงมันอาจจะไม่ไดุ้ถูกนำไปใช้ แต่ก็ถือว่าช่วยกันพัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายสูงสุดของประเทศให้บุคคลทั่วไปเข้าใจ และมีส่วนร่วนการแสดงความคิดเห็น เราคิดอย่างนี้เพราะเราเชื่อว่าคนในห้องนี้น่าจะเป็นคนที่สนใจและมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องรัฐธรรมนูญ มากกว่าคนทั่วไป เพราะในการจะแก้หรือปรับอะไรก็แล้วแต่ เราควรต้องรู้ก่อนว่าปํญหาคือประเด็นใหนพูดทีละประเด็นที่แต่ละท่านมีความสนใจ ดีกว่าพูดรวมๆว่าเป็นปัญหาเพราะเขียนโดยคนที่ไม่เหมาะสม จากคุณ : MT7KK เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 13:03:28 A:131.181.251.12 X:

ความคิดเห็นที่ 29 ความเชื่อ ของคุณ MiNiJung (จขกท)  มาแนวเดียวกับ ปชป คือเชื่อว่า เขาทำเพื่อบุคคล คนเดียว (ก็หมายถึงทักษิณน่ะแหละ ไม่ต้องอ้อมค้อม) ก็เลยรู้สึกว่า "ไม่เห็นด้วย" คือ ไม่เคยมองว่า รธน 50 มีปัญหา  และคนส่วนส่วนใหญ่ต้องการแก้ เพราะมันมีปัญหา ก็เลยกลายเป็น ต่อต้านคนส่วนใหญ่ไปซะ เมื่อความเชื่อฝังใจเป็นอย่างนั้นแล้ว จะมาหาจุดร่วมอย่างไร เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ก็มองว่าทำเพื่อทักษิณซะแล้ว   ตกลงก็ไม่ต้องทำอะไรเลย หรือ จขกท มีแนวทางในการหาจุดร่วม ที่จะออกจากปัญหาความเชื่อ "ทำเพื่อทักษิณ" ได้ ก็ลองเสนอมา คร่าวๆก็ได้ เราจึงจะไปต่อได้ จากคุณ : Mudady เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 13:30:00 A:49.0.104.180 X:

ความคิดเห็นที่ 30 "จุดร่วม" ที่ยุติธรรมที่สุดเท่าที่จะมีได้จริงในความเป็นจริง ไม่ใช่ในอุดมคติ คือ "กฏกติกาของสังคม" แต่... http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12313281/P12313281.html จากคุณ : วษณ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 13:51:21 A:27.55.14.164 X:

ความคิดเห็นที่ 31 ถามคุณ จขกท. ว่า แก้ทั้งฉบับไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างไร ? เมื่อรัฐสภา มาจากการเลือกตั้ง (ถึงจะมีลากตั้งตามรฐน. โจรบ้างก็ตาม) ตามหลักแบ่งแยกอำนาจ 3 ฝ่าย มี นิติบัญญัติ ตุลาการ บริหาร รัฐสภา คือฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจ เพิ่ม/แก้ไข รฐน. ตามรฐน. และมีอำนาจสถาปนารฐน. ด้วย ถ้ารัฐสภา ไม่มีสามารถมีอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้ แล้วใครควรมี ตุลาการ ? คณะรัฐประหาร ? ขอถามกลับคุณบ้างว่า รฐน. 50 ที่ว่าผ่านมติเสียงส่วนใหญ่เนี่ยะ มีที่มาอย่างไร ประชาธิปไตย มากไหม ? ประชาชน ส่วนใหญ่ของประเทศนี้มีส่วนร่วมตรงไหนบ้าง นอกจากถูกทั้งขู่ ทั้งปลอบจากคณะรัฐประหาร สส. ในพรรคปชป. นักวิชาการขายวิญญาณ ฯลฯ ให้รับร่างไม่งั้นจะเจอ บลา ๆ ๆ ๆ ๆ... และ รฐน. 50 ผ่านมติเสียงส่วนใหญ่มาแล้ว แปลว่าเสียงส่วนใหญ่ที่เลือกตั้งรัฐบาล และรัฐสภาขึ้นมา ไม่สามารถแก้ไขทั้งฉบับได้อีกอย่างนั้นเหรอ หรือประชาธิปไตยแบบ MiNiJung ต้องรอ ทหาร คนดี ทำการยึดอำนาจ ตั้งตนเป็นรัฐาธิปัตย์ แล้วตั้งสสร. ขึ้นมาร่างอย่างเดียว แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 14:13:41 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 14:11:12 จากคุณ : Caesar. เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 14:08:32 A:124.120.100.178 X:

ความคิดเห็นที่ 32 แล้วจะไปหา "จุดร่วม" ระหว่างคนที่ได้อำนาจ และผลประโยชน์ทุกอย่างจาก รฐน. โจร 50 กับผู้ที่สูญเสียอำนาจ และผลประโยชน์จากมันเนี่ยะ ขอบอกว่า ขอร้องอย่าโลกสวย จากคุณ : Caesar. เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 14:20:18 A:124.120.100.178 X:

ความคิดเห็นที่ 33 อีกเรื่องนึง เรื่องการฟังเสียงส่วนน้อยนั้น ไม่ได้แปลว่าเสียงส่วนน้อยถูกเสมอไปนะครับ อย่าเข้าใจอะไรกันผิด และเสียงส่วนน้อยมีอยู่สองแบบ คือเสียงส่วนน้อยแบบถาวร และไม่ถาวร เสียงส่วนน้อยแบบถาวร เช่นชาติพันธ์ คุณเป็นชนกลุ่มน้อย ตามดอย ตามเขา คุณไม่สามารถเปลี่ยนชาติพันธ์ของคุณ เป็นอย่างอื่นได้ คุณต้องเป็นชนกลุ่มน้อยไปตลอด แต่ในระบอบประชาธิปไตย เสียงส่วนน้อย เป็นเสียงเสียงน้อยแบบไม่ถาวร คือคุณก็สามารถกลับมาเป็นเสียงส่วนใหญ่ได้ เมื่อคุณรู้ตัวว่าเป็นเสียงส่วนน้อย คุณต้องพยายามโน้นน้าว ให้คนอื่นหันมาเห็นแบบคุณและโหวตให้คุณ จนเป็นเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่ ดิ้น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วบอกว่าทำไมไม่ฟังเสียงส่วนน้อย ทำไมไม่ทำตามที่เสียงส่วนน้อยต้องการ เข้าใจอะไรกันผิด ก็เข้าใจกันซะใหม่นะครับ จากคุณ : Caesar. เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 14:35:02 A:124.120.100.178 X:

ความคิดเห็นที่ 34   เห็นด้วยกับคุณ From_CNX  ครับ มาตราไหนไม่ดี ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ สส. สว. ก็แก้ ตรงที่ไม่ชอบ ไม่สะดวก ไม่เป็นประชาธิปไตย    โดยการถามความเห็นจากประชาชนเป็นประเด็น  ๆ    หรือ เป็นมาตรา ๆ ไป                  รัฐสภา ประมวลความเห็นของประชาชน นำไปกลั่นกรอง อีกชั้น   แล้ว พิจารณาลงมติดำเนินการแก้ไข              เรื่องก็จบลงได้โดยรวดเร็ว ตามความต้องการของ ประชาชนและนักการเมือง          ไปชวนกันตั้ง สสร. ให้มา Wยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่"        ก้อเหมือนกับการฉีกฉบับเก่าทิ้งไป   ( ที่บทบัญญัติส่วนใหญ่  คัด ลอกมาจาก รัฐธรรมนูญ 40 )  เสียเวลา และ สร้างความร้าวฉาน วุ่นวาย ขึ้นในบ้านเมือง โดยไม่จำเป็น                          ทั้งๆ ที่ปากว่า เคารพ เสียงส่วนใหญ่  แต่กลับตะแบง ว่า เสียงประชาชนที่ลงมติรับรัฐธรรมนูญ 50 นั้น ไม่ดี ไม่ใช่     ถามกันตรง ๆว่า ..........เสียงประชาชนที่เลือก สส. กันมานั้นดี และ ใช่    จริงแท้ล่ะหรือ                          คุณ Jackchan  กล่าวว่า ......รัฐธรรมนูญ 50 คนในสังคมไม่ยอมรับไงครับ............ หมายความว่า” ประชามติ” ในครั้งนั้น  ( ทั้ง ๆ ที่ มีกลุ่มประชาชน ออกไปหาเสียง แสดงการคัดค้าน ไม่ให้ประชาชน  ลงมติรับ  โดยที่รัฐ ไม่ห้ามปรามเลย )                 เสียงประชาชนที่ลงมติรับ รธน. 50 แล้วนั้น      ไม่มีความหมายใด ๆ เลยหรือครับ       เสียงเหล่านั้น    ไม่ใช่เสียงของประชาชนเช่นเดียวกันที่ไป ลงบัตรเลือก สส. งั้นหรือ       ปล. รัฐบาล ให้สัญญาประชาคมไว้ว่า จะเข้ามาแก้ รัฐธรรมนูญ    ไม่ได้บอกประชาชนว่า จะมา ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเก่าทิ้ง แล้ว ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขี้นมาใหม่ ..............  ท่านนายกฯ ปู  ทำผิดสัญญาที่ให้ไว้ับประชาชน .....น้ะขอรับ   แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 17:24:26 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 17:22:49 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 17:22:01 จากคุณ : วอน (วอน) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 17:20:31 A:125.27.251.178 X:

ความคิดเห็นที่ 35 #34 ทำไมวอน ไม่บอกแบบนี้กับคณะรัฐประหารบ้าง อยู่ ๆ มาฉีก 40 ทิ้งทำไม ทำไมไม่แก้ทีละมาตรา เสียงที่ผ่าน รฐน. 50 คือเสียงส่วนใหญ่ แล้วรัฐสภา ไม่ได้เกิดจากเสียงส่วนใหญ่เหรอ ทำไม 50 ผ่านเสียงส่วนใหญ่ แล้วเสียงส่วนใหญ่ จะแก้ไขอีกไม่ได้ เสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาตอนนี้ ไม่มีความหมายเหรอ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 21:37:34 จากคุณ : Caesar. เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:35:52 A:124.120.194.217 X:

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าเริ่มต้นก็คิดว่า แล้วจะไปหาจุดร่วมกับโจร คนไม่ดี คนเลวได้อย่างไรนั้น ถ้ามัวคิดกันแบบนี้ ปัญหาก็ไม่แก้ไงครับ มุมมองฝ่ายตรงข้ามพวกท่าน ก็ไม่ต่างกันครับ แปลกใจตรงที่ ทั้งฝ่ายท่านฝ่ายผม กลับมองคนดีหรือคนเลวกลับหัวกลับท้ายกันหมดเลย แปลกใจไหมครับ เพราะพวกเรากำลังมีปัญหาความขัดแย้งกัน และลงลึกแล้วครับ ต้องคุยครับ ต้องเจรจากัน ผมมั่นใจว่าสุดท้ายก็ต้องจบด้วยการเจรจาหาจุดร่วมกันแน่นอน สงครามรบกันแบบแพ้ชนะเบ็ดเสร็จ ยังต้องจบด้วยการเจรจา ขึ้นอยู่ที่เราจะเลือกที่จะเจรจาก่อนเสียหาย หรือเสียหายก่อนเจรจา จากคุณ : MiNiJung เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 17:30:00 A:183.89.58.42 X:

ความคิดเห็นที่ 37 #36 การไม่ยอมรับความจริง มันก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรนะครับ มันก็เหมือนกวาดทุกอย่างเข้าใต้พรหม ตอนฉีก 40 ไม่เห็นต้องมีการหาจุดร่วม ไม่เห็นเคยถามเสียงส่วนใหญ่ที่เลือก ทรท. 19 ล้านเสียง ว่าอยากไล่ทักษิณไปไหม อยากให้ทหารยึดอำนาจไหม อยากให้ทหารฉีก 40 ไหม อยากให้ทหารตั้งสสร. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไหม ? หรือว่าผมตกข่าวไหนไป ชี้แนะกันได้นะครับ ถ้าฝ่ายนึงเอาแต่ได้ ต้องให้อีกฝ่ายนึงถอยอยู่ตลอดเวลา อย่างนี้มันเรียกว่าหาจุดร่วมตรงไหน ? มันกดขี่ กันเห็น ๆ ครับ จากคุณ : Caesar. เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 21:30:42 A:124.120.184.51 X:

ความคิดเห็นที่ 38 #36 Rep II แล้วเรื่องเจรจา หรือเสียหายก่อนนั้น คุณคงจะลืมอะไรบางอย่าง ว่ามันได้เสียหายไปมากแล้ว เมษา-พฤษภา 52-53 เลือด หรืออาจเป็นเพราะคุณไม่ได้รู้สึกสูญเสียอะไรกับ ชีวิตเพื่อนร่วมชาติเกือบร้อยชีวิต และบาดเจ็บ บ้างเจ็บเล็กน้อย บ้างถึงกับสูญเสียอวัยวะ พิกล พิการไปก็มาก อีกกว่า 2,000 ราย และงบประมาณที่ใช้ไปในการนั้นอีกกว่า 6,000 ล้านบาท ในการเคลื่อนกำลัง และยุทโธปกรณ์ อาวุธสงครามเต็มอัตราศึก ทำเหมือนจะไปรบกับอริราชศัตรูนอกประเทศ ก็ไม่ปาน มันแสดงให้เห็นว่าอะไร ??? มันแสดงให้เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายนึงไม่เคยยอมถอย แม้ต้องแลกกับอะไร ที่ยอมยุบสภาก็ไม่ใช่ เพราะโดนกดดันจากการชุมนุมจึงยอมถอยให้ เปล่าเลย หากแต่ยุบสภาเพราะ บริหารงานไม่ไหว แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ แถมยิ่งอยู่ คะแนนความนิยมยิ่งดำดิ่ง จึงจำต้องยุบสภาฯ แม้จะหวงแหนเก้าอี้กันมากขนาดไหนก็ตาม เป็นแบบนี้แล้ว คุณลองหาจุดร่วม ของทั้งสองฝ่าย เป็นตัวอย่างให้ดูสัก 1-2 ตัวอย่าง ได้ไหม ? จากคุณ : Caesar. เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 21:53:06 A:124.122.132.164 X:

ความคิดเห็นที่ 39 #36 Rep III เรื่องคนดี คนเลว ผมไม่รู้หรอกว่า ใครดี ใครเลว ผมไม่อยากตัดสิน ปล่อยเป็นหน้าที่ยมบาลดีกว่า และไม่อยากถกเถียงด้วย เพราะมาตรฐานคนดีของแต่ละคนไม่เท่ากัน การเป็นคนดี ทำอะไรกับคนเลวก็ได้ โดยไม่ผิด จึงไม่ควรเป็นกฎเกณฑ์ เป็นกติกาของสังคมที่เจริญแล้ว เพราะมาตรฐานคนดีของแต่ละคนไม่เท่ากันเนี่ยะแหละ และคุณไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมจึง ไม่เหมือนกัน มันเป็นธรรมดาโลก สังคมที่เจริญแล้ว เค้ายึดตัวบทกฎหมาย ที่มีอยู่เป็นตัวตั้ง แล้วจึงตัดสิน ไม่ใช่ บางศาล ตีความเกินเลยจนขัดกับกฎหมายที่มีอยู่ ใช้จินตนการ ทึกทักเอา หนักเข้า เขียนกฎหมายเอาเองซะงั้น ตั้งธงคำตัดสิน แล้วก็ไป แถ หากฎหมายมารองรับ อย่างเช่นในปัจจุบันนี้ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 55 22:11:00 จากคุณ : Caesar. เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 21:56:32 A:124.122.132.164 X: