http://news.voicetv.co.th/thailand/43692.html
พันเอกพศกรตอบว่า ทหาร 1กองร้อย จะได้รับปืนประจำกาย ซึ่งเป็นปืนลูกซอง 30กระบอก พร้อมกระสุนยางรวม 300นัดเท่านั้น ซึ่งหากถูกยิงจะไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต และกระสุนยางนี้ไม่สามารถยิงทะลุแผ่นเหล็ก หรือแผ่นไม้ได้
.
.
.
ขณะที่พันโททรงสิทธิ์ ไชยยงค์ อายุ 38ปี อดีตนายทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นนายทหารที่ควบคุมกำลังพลอีกหนึ่งกองร้อยในที่เกิดเหตุ เบิกความต่อศาลว่า
ส่วนที่เหลือมีอาวุธปืนลูกซองประจำกาย จำนวน 30กระบอก โดยใช้คู่กับกระสุนยาง ปืนเอ็ม 16 จำนวน 20กระบอก โดยใช้กับกระสุนซ้อมรบ หรือลูกแบรงค์ จำนวน 400นัด ซึ่งจะส่งเสียงดังเท่านั้น ไม่ทำอันตรายถึงชีวิต โดยยืนยันว่าไม่มีการใช้กระสุนในปฎิบัติการ
ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่ ผมเชื่อว่าที่นี่น่าจะมีเพื่อนสมาชิกแถวนี้หลายคนปักใจเชื่อที่ทหารให้การว่า ทหารใช้แต่กระสุนยางกับกระสุนซ้อมรบ เพราะเท่าที่เคยแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันมา มีเพื่อนสมาชิกบางท่านชอบออกตัวล้อฟรีแก้ต่างให้ทหารว่า การสลายการชุมนุมที่ผ่านมาทหารใช้แต่กระสุนยางและกระสุนซ้อมรบ
ดังนั้นรูกระสุนที่เกิดขึ้นตามจุดต่างๆ เป็นแค่เอฟเฟค ผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตเป็นแค่นักแสดงสแตนอิน ทหารติดป้ายพื้นที่การใช้กระสุนจริงเป็นแค่การจัดฉากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแค่ดราม่าละครบทหนึ่ง ดูละครจบก็ให้ Forgive and Forget ทหารไทยรักคนเสื้อแดงทุกคน โดยเฉพาะผบทบ. ถ้ามีคนทักว่ากระสุนจริงแสนนัดที่ถูกเบิกและหายไป ให้อ้างว่ากระสุนจริงเหล่านั้นถูกคนเสื้อแดงปล้นไป
ใครเชื่อคำให้การของทหารต่อศาล มาลงชื่อกันหน่อยเร็ว
[รักคนเสื้อแดง] ทหารยืนยันไม่ใช้กระสุนจริงกับผู้ชุมนุมปี 53 ต่อศาล ที่ผ่านมาใช้แต่กระสุนยางกับกระสุนแบลงก์
