ความคิดเห็นที่ 1 ก็แก้มาตรา 165 ก่อนสิครับ ให้มันเหมาะสมกับความเป็นจริง จากคุณ : My membery เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:04:21 A:58.9.32.83 X:

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วไอ้รัฐธรรมนูญ 50 ที่ผ่านประชามติมา มีเสียงรับถึง 21 ล้านเสียงไหม??? จากคุณ : usdollar เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:05:28 A:110.49.159.229 X:

ความคิดเห็นที่ 3 คนไม่มาใช้สิทธิ์ ถืิอว่าไม่สนใจในการเมือง ไม่มีสิทธิ์ใดๆ ดังนั้นไม่ควรนับเป็นเสียงคัดค้าน ควรนับเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ์เป็นหลัก จากคุณ : My membery เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:05:50 A:58.9.32.83 X:

ความคิดเห็นที่ 4 กฎหมายสูงสุดที่ใช้ปกครองประเทศ...คือปกครองทุกคน 21 ล้าน ถือว่าเหมาะสม อย่าไปเปรียบกับการเลือก สส เพราะนั่นเป็นเพียงรูปแบบของตัวแทน แต่รัฐธรรมนูญกระทบตัวคนทุกคน จากคุณ : tapuda เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:09:44 A:202.122.130.31 X:

ความคิดเห็นที่ 5 #4 รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ผ่านประชามติรับมาแค่เกือบ 15 ล้านเสียงเท่านั้น แถอย่างไรต่อดี??? จากคุณ : usdollar เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:26:14 A:110.49.159.229 X:

ความคิดเห็นที่ 6 tapuda เหมือนมีเหตุผล แล้วตอน รณ50 ใช้หลักเกณฑ์นี้หรือเปล่าครับ และถ้าเอาตามหลักสถิติแล้ว ที่คุณว่ามาใช้ไม่ได้ครับ เพราะผู้ไม่มาใช้สิทธิ์ ไม่ได้หมายความว่าไม่เห็นด้วย และควรเอาแค่คนมาใช้สิทธิ์มาเป็นตัวแทนข้อมูล จากคุณ : กู๋เอง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:28:47 A:101.108.122.54 X:

ความคิดเห็นที่ 7 คนมหาเฮีย....จิงๆ   เฮียซะไม่มี.... จากคุณ : ห้ามเข้า-ก่อนได้รับอนุญาต เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:30:33 A:101.108.177.157 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าให้ลงประชามติ ยุบเลิกศาลรัฐธรรมนูญ 21 ล้านเสียง...เกินแน่นอน ฟันธง!! จากคุณ : พีทีดี เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:32:21 A:171.97.0.7 X:

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องนี้ผมว่า คุณยุทธพงศ์น่าจะอ่านกฎหมายให้ครบถ้วนนะครับ เพราะประเทศไทยมีกฎหมายประชามติแล้ว ตามวรรคสุดท้ายของมาตรา 165 ของรัฐธรรมนูญ "หลักเกณฑ์และวิธีการออกเสียงประชามติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่งอย่างน้อยต้องกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการออกเสียงประชามติ ระยะเวลาในการดำเนินการ และจำนวนเสียงประชามติ เพื่อมีข้อยุติ" ดังนั้นเรื่องนี้ก็ต้องไปดูตามพรบ.ประชามติปี 2552 ครับ ในนั้นเขียนชัดเจนในการออกเสียงประชามติอยู่แล้ว ซึ่งถ้าหากคุณยุทธพงศ์คิดว่า มันขัดหรือแย้งกับ รธน. ก็น่าจะยื่นให้ศาลรธน.ตีความว่า บังคับใช้ได้หรือไม่ เพราะประเทศไทยก็ยังไม่เคยลงประชามติตามกฎหมายนี้เหมือนกัน แต่จริง ๆ เอาแค่ตามพรบ.ประชามติ มันก็ผ่านยากอยู่แล้วแหละครับ ไม่ต้องเอาครึ่งนึงของผู้มีสิทธิหรอกครับ จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:06:47 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านกฎหมายก็อ่านไม่แตก ใน รธน. ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ เพียงแต่วางหลักการณ์ไว้เท่านั้น แต่หลักเกณฑ์การออกเสียงประชามติจะอยู่ใน พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2552 มาตรา 9 ที่ว่า การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่่จัดทำประชามติ ต้องมีผู้มาออกเสียงเป็นจำนวนเสียงข้างมาของผู้มีสิทธิออกเสียง และ มีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามติ สรุป 1. ต้องมีคนมาออกเสียงเกินกว่าจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียง ในที่นี้ถ้าผู้มีสิทธิออกเสียงมี 42 ล้านคน ถ้ามีผู้มาออกเสียงเพียง 22 ล้านคน ก็ว่าผ่านกฎเกณฑ์ข้อนี้ 2. ต้องมีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียง  ในที่นี้ถ้ามีผู้มาออกเสียง 22 ล้านคน ถ้ามีคนเห็นชอบเกิน 11 ล้านเสียง ก็ถือว่าผ่านกฎเกณฑ์ข้อที่สอง แค่นั้นเองไม่ใช่ต้องมีผู้เห็นชอบเกิน 22 ล้านเสียงอย่างที่ให้ข่าว จากคุณ : +MoNo+ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:24:59 A:203.185.150.4 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้ามั่นใจว่าคนนิยมทั้งประเทศ 21ล้านเสียง เรื่องจิ๊บๆ จากคุณ : บรรลุ (บรรลุ) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:33:53 A:124.122.139.21 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าจะตีความคำว่า "และ" สไตล์ ตลก มันทำได้ทั้งสองทางไม่ใช่หรือครับ   อิอิ คราวนี้ละท่าจะโดนย้อนเกล็ด แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 09:46:40 จากคุณ : ไม่เข้าพวก เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:40:00 A:110.49.232.74 X:

ความคิดเห็นที่ 13 มาตรา 9 ของ พรบ.ประชามติ ปี 52 บัญญัติว่า "การออกเสียงที่จะถือว่า มีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติต้องมีผู้มาออกเสียงเป็นจำนวนเสียงข้างมากของ ผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงในเรื่องที่จัด ทำประชามตินั้น" ตามความเข้าใจผมนะ มาเกิน 22 ล้าน และในนั้นเกินกึ่ง หนึ่งก็พอแล้ว จากคุณ : ใจเป็นธรรม เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:54:46 A:171.96.48.80 X:

ความคิดเห็นที่ 14 คคห.ที่10 เขียนมาผมอ่านแล้วก็เข้าใจดีครับ แต่ถ้าจะให้ดีให้ ตลก บอกมาเลยดีไหมว่าต้องเท่าไหร่ ยังไงกันแน่จะได้รณรงค์กันถูก กลัวว่าพอผลมันออกมาผ่านตามเงื่อนไขที่ คุณคคห.ที่ 10 ว่ามา จะโดน ตลก ใช้การตีความขั้นเทพแปลไปเป็นอีกแบบนะสิครับ - -. จากคุณ : balance14 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:58:20 A:58.8.50.202 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ก็ทำประชามติว่า จะให้ รธน.50 บังคับใช้ต่อไปหรือไม่? ถ้าเสียงไม่ถึง 21 ล้านเสียง ก็หมายความว่าคนไม่เอา รธน.50 แล้ว ร่างใหม่ได้เลย อย่างนี้แฟร์ดี นะ จากคุณ : ธุดงค์ผ่านมา เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:01:30 A:124.120.184.72 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าเอาวิธีการตีความ "ตามมาตรฐานตลก.ในรธน. มาตรา 68" ที่ผ่านมา มาใช้  พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ๒๕๕๒ มาตรา๙ ที่ว่า "การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติต้องมีผู้มาออกเสียงเป็นจำนวนเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น" อาจถูกตีความว่า การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติต้อง 1มีผู้มาออกเสียงเป็นจำนวนเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียง "หรือ" 2มีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียง จากนั้นใช้รธน.มาตรา165 ที่ว่า "ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งย่อมมีสิทธิออกเสียงประชามติ การจัดให้มีการออกเสียงประชามติให้กระทำได้ในเหตุ ดังต่อไปนี้ (๑) ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นว่ากิจการในเรื่องใดอาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียของประเทศชาติหรือประชาชน นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีอาจปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภาเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีการออกเสียงประชามติได้ (๒) ในกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้มีการออกเสียงประชามติ การออกเสียงประชามติตาม (๑) หรือ (๒) อาจจัดให้เป็นการออกเสียงเพื่อมีข้อยุติโดยเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติในปัญหาที่จัดให้มีการออกเสียงประชา" โดยตัดเอาส่วนที่ว่า "การออกเสียงประชามติตาม (๑) หรือ (๒) อาจจัดให้เป็นการออกเสียงเพื่อมีข้อยุติโดยเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ"  มาใช้   และเสริมไปว่านี้คือ เจตนารมณ์ของรธน. เป็นเรื่องรธน. อันเป็นกฎหมายสูงสุด จึงต้องใช่ "เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ" ด้วยการตีความทำนองนี้ ถ้าไม่ได้เสียง 20กว่าล้านเสียงขึ้นไป ก็ไม่ผ่านครับ คุณจะหวังให้ตลก.ตีความตามหลักเกณฑ์ปกติที่มนุษย์เขาใช้กัน  คงยากครับ  เพราะเขาใช้หลักเกณฑ์ของเทพ ของคนดีที่คุณธรรม จริยธรรม  มาตีความ ครับ จากคุณ : เติ้ง1234 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:22:51 A:124.122.71.91 X:

ความคิดเห็นที่ 17 1. ต้องออกมาออกเสียงเกิน 21 ล้านเสียง 2. ต้องเห็นด้วยมากกว่า 50 % ของ ผู้มาออกเสียง ถ้า ..สลิ่มเหลือง กะ  แมงสาป ...นอนหลับทับสิทธิ์ไม่ออกมาออกเสียงละ ...??? จากคุณ : Merati เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:26:55 A:124.121.136.226 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้านับแบบนี้ ก็ยกเลิก รธน. 50 ได้เลยครับ เพราะตอนทำประชามติก็ไม่ถึง 21ล้านเหมือนกัน อย่ามาศรีธนญชัยกันเลย บ้านเมืองจะเสียหาย จากคุณ : เพียงกระซิบ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:37:14 A:115.67.128.60 X:

ความคิดเห็นที่ 19 การรณรงค์ให้ไม่มาออกเสียง ผิด กม. ครับ ปชป. คงไม่กล้าทำหรอก จากคุณ : เพียงกระซิบ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:39:26 A:115.67.128.60 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ตอนทำ รธน.50 ยังไม่ได้ใช้ อ้างไม่ได้หรอก ว่าไม่ถึง21 ล้าน ตอนนี้ใช้แล้วก็ต้องให้ถึง21ล้าน นี่แหล่ะ เป็นการใช้ คำว่า คนส่วนใหญ่ของประเทศจริงๆ ปชป.พธม. ก็แค่11 ล้าน เขาจะมาไม่มาออก คุณก็ไม่มีสิทธิไปว่าเขา ถ้าที่เหลือ 30 ล้าน เขาเอากะคุณจริง จะกลัวอะไรถูกไหม จขกท. จะได้รู้ว่า ไอ้คำว่าเป็นไปไม่ได้ และคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่แค่ 19 ล้านมันเป็นยังไง คนที่เขาไม่เลือกพท. ปชป. มีอีกเยอะ อย่าบ้ากับเสียงที่ได้นักเลย จากคุณ : จั๊กกะแร้หอม เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:49:33 A:122.154.24.254 X:

ความคิดเห็นที่ 21 ถึงคห.16 ผมถึงบอกว่า ถ้าเห็นว่า กฎหมายประชามติขัดรธน. ก็ยื่นตีความเลยครับ จะได้ชัดเจนว่า การทำประชามติ ต้องได้เสียงขนาดนั้นใช่หรือไม่ หรือว่าตามที่กฎหมายประชามติบอกไว้ก็พอ จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:03:15 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าคนไม่รับมีไม่ถึง 21 ล้าน ก็แปลว่า รธน ฉบับที่แก้ไขนี้แล้ว  "ผ่าน" ใช่ไหมครับ จากคุณ : penn's เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:23:42 A:110.49.224.116 X:

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่มาใช้สิทธิ์ ไม่ใช่ว่าไม่สนใจการเมืองนะ แต่... ไม่เข้าใจง่ะ แถมไม่รู้ว่าจะได้ประโยชน์อะไรด้วย จะให้ใช้สิทธิ์อะไรไปล่ะ ? ถามหน่อย เวลาอ่านกฏหมายเข้าใจจริงกันเหรอ ? ลองอ่านกฏหมายแต่ละมาตรา แล้วลองใช้มันตัดสินกับเคสจริง หลังจากนั้นก็เอามันมาเทียบกับคำพิพากษาที่ตัดสินดู จะพบว่า มันต่างกับที่เราเข้าใจกันคนละโยชน์เลยด้วยซ้ำ และแม้แต่กรณีที่คิดว่าน่าจะลงโทษเหมือนกัน กลับไม่โดนลงโทษเหมือนกันด้วยซ้ำ (แต่มันไม่ได้สองมาตรฐานนะ) ซึ่งเราว่าที่จริง ไม่ต้องใช้"เสียงส่วนมาก" มาตัดสินก็ได้ เพราะเสียงส่วนมากไม่ได้มีความรู้ว่ามันจะให้ผลกระทบอะไรกับเรากันแน่ ดังนั้นคนไม่รู้ร่วมตัดสินไป ก็ตีความผิดไปเปล่า ? ...เหมือนกับเด็กอนุบาลไปตรวจข้อสอบแอดมิดชั่นให้เด็กเข้ามหาลัยโดยไม่มีเฉลยมาให้ แล้วจะรู้ไหมว่ามันถูกจริง ? ไหนจะเรื่องเฉลยที่อยู่กับมือเราอีก มันจะเป็นเฉลยที่ถูกต้องจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทว่าหากจะทำเช่นนี้ ผู้รู้จริงที่เชื่อถือได้และไม่มีอคติ ทั้งยังยอมรับได้ทุกฝ่าย จะเอามาจากไหน ? บางที ผู้รู้จริงที่เชื่อถือได้และไม่มีอคติ มันมีอยู่แล้ว แต่ยอมรับได้ทุกฝ่ายไม่มีอยู่จริง เพราะทุกฝ่ายจะให้รธน.เข้าข้างตนเองทั้งนั้น จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:01:52 A:124.121.142.196 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 21 ตลก.จะอ้างว่ายังไม่มีเหตุให้รับพิจารณาครับ  เขาใช้แบบนี้แน่นอน  และถ้าตีความชัด  เกิดคนลงประชามติมากจริง  เขาจะดิ้นไม่ออก  ดังนั้นจึงใช้วิธีเดิม คือ ให้คลุมเครือเข้าไว้ก่อน  เพื่อจะได้ดิ้นได้  เขาใช้แบบนี้มาตลอดครับ จากคุณ : เติ้ง1234 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:04:11 A:124.122.71.91 X:

ความคิดเห็นที่ 25 เอาข้อมูลมาให้วิเคราะห์ครับ มาตรา ๑๖๕ (เฉพาะส่วนที่น่าจะเกี่ยวข้องนะครับ) (๒) ในกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้มีการออกเสียงประชามติ การออกเสียงประชามติตาม (๑) หรือ (๒) อาจจัดให้เป็นการออกเสียงเพื่อมีข้อยุติโดยเสียง ข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติในปัญหาที่จัดให้มีการออกเสียงประชามติ หรือเป็นการออกเสียง เพื่อให้คำปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรีก็ได้ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ การออกเสียงประชามติต้องเป็นการให้ออกเสียงเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในกิจการตามที่จัด ให้มีการออกเสียงประชามติ และการจัดการออกเสียงประชามติในเรื่องที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือเกี่ยวกับตัวบุคคลหรือคณะบุคคล จะกระทำมิได้ ก่อนการออกเสียงประชามติ รัฐต้องดำเนินการให้ข้อมูลอย่างเพียงพอ และให้บุคคล ฝ่ายที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบกับกิจการนั้น มีโอกาสแสดงความคิดเห็นของตนได้อย่างเท่าเทียมกัน หลักเกณฑ์และวิธีการออกเสียงประชามติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่งอย่างน้อยต้องกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการออกเสียงประชามติ ระยะเวลาในการดำเนินการ และจำนวนเสียงประชามติ เพื่อมีข้อยุติ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ๒๕๕๒                         มาตรา ๙ การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติต้องมีผู้มาออกเสียงเป็นจำนวนเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น อภิปรายตามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ โดยแยก "ผู้มีสิทธิออกเสียง" กับ "ผู้มาออกเสียง" นะครับ การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติต้องมี 1. "ผู้มาออกเสียง" เป็นจำนวนเสียงข้างมากของ "ผู้มีสิทธิออกเสียง"     ในประเด็นนี้น่าจะหมายถึง "ผู้มาออกเสียง" ต้องมีจำนวนมากกว่ากึ่งหนึ่งของ "ผู้มีสิทธิออกเสียง" 2. และมีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียง     ในประเด็นนี้น่าจะหมายถึง ให้เลือกผลคะแนนข้างมากของ "ผู้มาออกเสียง" และต้องมีจำนวนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของ "ผู้มาออกเสียง" 3. ต้องมีทั้งข้อ 1 และ ข้อ 2 ถึงจะนับว่าเป็นข้อยุติ สมมติเอาตัวเลขกลมๆ มาคิดนะครับ "ผู้มีสิทธิออกเสียง" มีจำนวน 42 ล้านเสียง กึ่งหนึ่งของ  "ผู้มีสิทธิออกเสียง" คือ 21 ล้านเสียง ถ้า "ผู้มาออกเสียง" มีจำนวนเกิน 21 ล้านเสียง ถือว่าเข้าเกณฑ์ ข้อ 1 ข้างบน ถ้า "ผู้มาออกเสียงเห็นด้วย" มีจำนวนเกิน 10.5 ล้านเสียง (เกินกึ่งหนึ่งของ "ผู้มาออกเสียง") ถือว่าเข้าเกณฑ์ ข้อ 2 ข้างบน ถ้าเข้าเงื่อนไขทั้งสองกรณี ถือว่าเข้าเกณฑ์ ข้อ 3 ข้างบน และสรุปให้ถือว่าได้ข้อยุติว่า "เห็นด้วย" จะเห็นว่าจำนวนเสียงขั้นต่ำคือ มากกว่า 10.5 ล้านเสียงตั้งแต่ 1 คะแนนเสียงขึ้นไป ไม่ใช่ 21 ล้านเสียง ดังนั้นที่คุณยุทธพงศ์กล่าวว่า ... รัฐธรรมนูญมาตรา 165 เกี่ยวกับการทำประชามติแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้ในข้อเท็จจริง เพราะมีการกำหนดว่าการออกเสียงประชามติเพื่อให้ได้ข้อยุติจะต้องได้เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียง ไม่ใช่เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ ..... เป็นข้อความที่ไม่ถูกต้องครับ จากคุณ : POE เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:59:19 A:58.9.199.130 X:

ความคิดเห็นที่ 26 ขยายความเพิ่มครับ มาตรา ๑๖๕ การจัดให้มีการออกเสียงประชามติให้กระทำได้ในเหตุ ดังต่อไปนี้ (๑) ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นว่ากิจการในเรื่องใดอาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียของ ประเทศชาติหรือประชาชน นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีอาจปรึกษา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภาเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีการออกเสียง ประชามติได้ (๒) ในกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้มีการออกเสียงประชามติ การออกเสียงประชามติตาม (๑) หรือ (๒) อาจจัดให้เป็นการออกเสียงเพื่อมีข้อยุติโดยเสียง ข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติในปัญหาที่จัดให้มีการออกเสียงประชามติ หรือเป็นการออกเสียง เพื่อให้คำปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรีก็ได้ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ ประเด็นนี้ดูที่ (๒)  ในกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้มีการออกเสียงประชามติ ซึ่งในที่นี้มีแล้วคือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ๒๕๕๒ และช่วงท้าย  "เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ" ซึ่งก็มีพรบ.ที่ว่านี้กำกับไว้อยู่แล้วเช่นกัน ดังนั้นผลบังคับใช้น่าจะอยู่ที่มาตรา ๙ ของพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ๒๕๕๒ อย่างเดียวครับ ตามที่อภิปรายไว้ใน ความคิดเห็นที่ 25 จากคุณ : POE เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 14:08:32 A:58.9.199.130 X:

ความคิดเห็นที่ 27 ตอนทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 จำนวนผู้มาใช้สิทธิ     25,978,954 คน จำนวนผู้ไม่มาใช้สิทธิ  19,114,001 คน                       รวม 45,092,955 คน เห็นชอบ     14,727,306 คน ไม่เห็นชอบ 10,747,441 คน บัตรเสีย          504,207 คน จะเห็นว่าเห็นชอบเท่ากับ 32.66% ก็ไม่ถึง 50% ของผู้มีสิทธิ จากคุณ : pptwsy เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 14:11:55 A:58.137.154.129 X:

ความคิดเห็นที่ 28 ... ขนาดการส่งเรื่องฟ้องร้อง มาตรา ๖๘ ระบุว่า ให้ยื่นเรื่องผ่านอัยการสูงสุดก่อน  ศาลฯ ยังตีความว่า "การยื่นเรื่องต่อศาลโดยตรง สามารถกระทำได้" ขอให้ดูภาษาอังกฤษสิ วะสันสีทนได้ฮ่า ... ... อย่าเถียงกันเลย อ่านแล้ว เง็ง เปล่า ๆ ศาลเขาจะตีความไปตามความเข้าใจของเขาเอง เอาแบบคลุมเครือไว้ก่อน อันนี้แหละ คือ ปัญหา !!!   ... เอาแบบชัวร์ ๆ เลยดีกว่า ไม่ต้องมีการลงประชามติ เพราะศาลไม่มีอำนาจใด ๆ ... ๕๕๕ ... ... ลุงหมักบอกว่า "ความกลัว ทำให้เสื่อม" .... จากคุณ : อิงเว เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 14:33:24 A:61.19.99.205 X:

ความคิดเห็นที่ 29 งั้นก็โหวตว่าให้คงรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้ ไม่ได้ 21 ล้านเสียงถือว่าแก้รัฐธรรมนูญได้ จากคุณ : I love Alpha เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 17:49:39 A:223.204.4.101 X:

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าไม่มาใช้สิทธิ์ย่อมจัดอยู่ในกลุ่มผู้ไม่ตื่นตัวทางการเมือง ไม่มีสิทธิหรอกครับ กฏหมายก็กำหนดโทษตัดสิทธิ์ทางการเมืองไว้ชัดเจน การมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นหน้าที่นะครับ ถ้าไ่ม่ออกมาใช้สิทธิ คุณย่อมไม่มีสิทธิเีรียกร้องใดๆ ทางการเมือง ถ้าไม่เข้าใจ หรืออะไรก็ต้องมาใช้สิทธิ แต่จะงดออกเสียงหรืออะไรก็อีกเรื่องครับ จากคุณ : My membery เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 22:09:53 A:101.108.82.47 X:

ความคิดเห็นที่ 31 คนที่ไม่มาใช้สิทธิ... เจ้าตัวยังไม่ใส่ใจในเสียงของตัวเองเลย แล้วจะให้คนอื่นเห็นค่าเสียงเหล่านั้นได้ไง จากคุณ : sumaee เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 22:29:06 A:118.172.121.86 X: