คนดี เรื่องดี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ′เกณฑ์ทหาร′
กรณีการเข้ารับราชการทหารเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย
จปร. ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นเรื่องยาวอย่างแน่นอน
เป็นเรื่องยาวตั้งแต่เมื่อปี 2529
เป็นเรื่องยาวตั้งแต่ นายกมล บันไดเพ็ชร ยื่นเรื่องราวให้รัฐบาล
นายชวน หลีกภัย ตรวจสอบในปี 2542
ขณะ นายกมล บันไดเพ็ชร เป็นสมาชิกพรรคความหวังใหม่
พรรคความหวังใหม่อันมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นหัวหน้าพรรค
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เคยดำรงตำแหน่ง
เป็น ผบ.ทบ. (สิงหาคม 2529) และเคยดำรงตำแหน่ง ผบ.
ทหารสูงสุดควบกับ ผบ.ทบ. (ตุลาคม 2530)
ทั้งยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (มีนาคม 2533)
นายกมล บันไดเพ็ชร จึงจับประเด็นกรณีการเข้ารับราชการทหาร
ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยการร้องเรียนตั้งแต่เมื่อปี 2542
ในรัฐบาล นายชวน หลีกภัย กระทำอย่างต่อเนื่องกระทั่งมาถึง
รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ยาวนานก่อนยุค พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
26 ปี
หากประเมินจากถ้อยแถลงไม่ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่า
นายศิริโชค โสภา คล้ายกับคู่กรณีคือ นายจตุพร พรหมพันธุ์
ไม่ใช่
และหากประเมินจากที่ นายกมล บันไดเพ็ชร ยื่นเรื่องนี้มาตั้งแต่
ปี 2542 ยาวนานกว่า 14 ปี จึงต้องอยู่ในฐานะเป็นคู่ความขัดแย้ง
อาจใช่
แต่เนื่องจากคำร้องเรียนของ นายกมล บันไดเพ็ชร ล่าสุดเป็นการ
ร้องเรียนกล่าวโทษ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ในฐานะ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวล
กฎหมายอาญามาตรา 157
กล่าวโทษต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน
ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงไล่จี้ไปทางกระทรวงกลาโหมให้ส่งรายละเอียด
การเข้ารับราชการ และการหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารของ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ภายในกำหนดวันที่ 10 กรกฎาคม
จึงเป็นเรื่อง
คู่ความขัดแย้งจึงแปรเปลี่ยนจากที่เคยมีกับ นายกมล บันไดเพ็ชร
หรือ นายจตุพร พรหมพันธ์ เป็นกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต
ไม่สนุก
การปะทะในเรื่องการเข้ารับราชการและการหลีกเลี่ยงการเกณฑ์
ทหารของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงกลายเป็นการปะทะระหว่าง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ กระทรวงกลาโหม
เพราะว่าในคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.อ.อ.ไมตรี โอสถหงส์
รองปลัดกระทรวงกลาโหม ดำเนินการคือ ประธาน
คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ได้ใช้เอกสารอันเป็นเท็จในการเข้ารับราชการทหาร ร.ร.นายร้อย
จปร.และการหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร
แม้ว่าผลการสอบข้อเท็จจริง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต จะกล่าวว่า
"เอกสารค่อนข้างชัดเจนว่าเรื่องนี้มีการหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร"
แต่ล่าสุดได้มอบหมายให้ พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม
ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการ
จึงมิใช่ความขัดแย้งระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ นายกมล บันไดเพ็ชร
จึงมิใช่ความขัดแย้งระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ
นายจตุพร พรหมพันธ์ ซึ่งมีคดีฟ้องร้องต่อกัน
หากเป็นเรื่องระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ กระทรวงกลาโหม
หากเป็นเรื่องที่กระทรวงกลาโหมจำเป็นต้องชี้แจงรายละเอียดตาม
เอกสารและความเป็นจริงต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน
เกณฑ์ทหาร
กล่าวในแง่กฎหมายกรณีทั้งหมดนี้ได้หมดอายุความไปแล้ว
เป็นเรื่องของอดีตเมื่อ 20 กว่าปีก่อน
แต่ในแง่ของจริยธรรม ในแง่ของบุคคลที่เคยดำรงตำแหน่ง
เป็นนายกรัฐมนตรี มีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งในแง่
ของคนที่เชื่อมั่นในความดียิ่งเป็นเรื่องประณีต อ่อนไหว
คนดี เรื่องดี
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1343016591&grpid=01&catid=&subcatid=
ที่สำคัญ ..ก็เพราะใครๆ ก็บอกว่าคุณอภิสิทธิ์ เป็นคนดี
เป็นผ้าขาวค่ะ เพราะฉะนั้นจะแปดเปื้อนไม่ได้
งานนี้ จึงเหมือนเป็นการป้ายสี ค่ะ ...เชื่อมั่นค่ะ
นี่คือการป้ายสี สุดท้าย ...... คนดีก็ต้องเป็นคนดีอยู่วันยังค่ำ
เพราะมันอยู่ที่ความเชื่อ ในเมื่อคดีมันหมดอายุความไปแล้ว