วันนี้ขอแก้ข้อกล่าวหา พร้อมกับชี้แจงครับ
|
 |
สืบเนื่องจากมีคนชอบบ่นและกล่าวหาผม เป็นคนสุดโต่ง รักใครก็เชียร์แบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่เคยเห็นข้อบกพร่องของฝ่ายเดียวกัน และไม่เคยตำหนิหรือแสดงความไม่เห็นด้วยกับการกระทำของฝ่ายเดียวกัน แม้จะเป็นความผิดพลาดก็ตาม ซึ่งผมคิดว่าเป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ อาจเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออาจเป็นเพราะอคติส่วนตัว และที่สำคัญอาจเป็นเพราะไม่เคยอ่านข้อเขียนผมจนหมดทุกตัวอักษรก็ได้ ดังนั้นวันนี้ผมพอมีเวลา ก็ขอทำความเข้าใจ แก้ข้อกล่าวหา พร้อมทั้งชี้แจงไปพร้อมๆกันเลยนะครับ
ก่อนอื่น คงต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า ฝ่ายที่ผมเชียร์อยู่นั้น เป็นฝ่ายที่ทำตามกติกาที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับ เป็นฝ่ายที่ประชาชนให้ฉันทามติเป็นเอกฉันท์แล้วว่า เป็นฝ่ายที่จะเข้ามาบริหารบ้านเมือง ซึ่งความหมายก็คือ ประชาชนส่วนใหญ่ได้มอบอำนาจให้กับฝ่ายนี้มากระทำใดๆก็ตามแทนประชาชน โดยผ่านทางรัฐสภา
นั่นหมายความว่า คนส่วนใหญ่ของประเทศนี้เห็นด้วยกับนโยบายต่างๆที่รัฐบาลชุดนี้นำเสนอ ดังนั้นนโยบายต่างๆที่รัฐบาลกระทำอยู่นี้ จึงเป็นเรื่องที่กระทำตามเจตนารมณ์ของผมที่เลือกพวกเขาเข้ามาทำหน้าที่ แล้วจะให้ผมตำหนิได้อย่างไรกัน จริงไหมครับ
แต่ก็ไม่ใช่ว่า เมื่อมอบอำนาจไปแล้ว เราก็จะทำตัวไม่รู้ร้อน ไม่สนใจปล่อยให้รัฐบาลทำตามอำเภอใจก็คงไม่ได้ แต่ผมก็คอยจับตาดูทุกฝีก้าวเหมือนกัน เพราะความสำเร็จหรือล้มเหลวของรัฐบาล ย่อมส่งผลกระทบกับผมด้วยเช่นกันครับ แต่ผมก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลเหมือนกัน เพราะนโยบายต่างๆที่นำเสนอมานั้น บางอย่างก็ยังใหม่อยู่ บางอย่างก็ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันนี้พรุ่งนี้เสียเมื่อไหร่ ดังนั้นคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง แต่อย่างน้อยก็ได้เริ่มต้นแล้วในหลายๆนโยบาย จะสำเร็จหรือล้มเหลว เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์
พออธิบายถึงตรงนี้ ผมก็อยากชี้แจงเพิ่มเติมว่า วิธีการจับตาจ้องมองดูการทำงานของรัฐบาล ผมคงไม่ตำหนินายกฯที่แต่งตัวสวยๆหรอกครับ ออกจะเห็นด้วยๆซ้ำไป เพราะเป็นที่ชื่นชมของผู้พบเห็น ผมคงไม่มัวจับผิดกับนายกฯที่พูดผิดพูดถูก เพราะความประหม่าหรอกครับ ผมคงไม่หลงเชื่อกับข้อกล่าวหาที่ไร้สาระต่างๆ ที่ฝ่ายจ้องดิสเครดิตพยายามทำกันหรอกครับ ผมคงไม่คอยทำลายความตั้งใจทำงานของรัฐบาลอย่างไม่มีเหตุผล ผมก็ไม่ได้ใส่ใจหรอกครับว่า จะมีใครไปอวยพรคุณทักษิณกี่มากน้อย เพราะก่อนเลือกตั้งผมก็รู้อยู่เต็มอก “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ไม่เห็นเป็นความลับอะไรหรือน่าตำหนิตรงไหน และผมคงไม่ระรี้ระริกดีใจ ยามเมื่อรัฐบาลหรือนายกฯเพลี่ยงพล้ำ เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่เป็นผลดีกับประเทศและตัวเองทั้งสิ้น
แต่ที่ผมจับตามองคือนโยบายแต่ละนโยบายมีการทุจริตหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งเลยครับ ที่ผมจะจับตามองคือความเสียหายที่เกิดจากการบริหารจริงๆ ไม่ใช่การกล่าวหา เพื่อบั่นทอนกำลังใจ ที่ผมจะจับตามองคือมีการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องอย่างน่าเกลียดหรือไม่ ผมไม่สองมาตรฐานแน่ และที่ผมจะจับตามองอย่างเข้มแข็งก็คือมีการลุแก่อำนาจจนทำผิดกฎหมายหรือไม่ แต่เรื่องเหล่านี้จะต้องตั้งอยู่บนเงื่อนไขของความเป็นธรรมและข้อเท็จจริงเท่านั้นครับ ไม่ใช่ใครพูดอะไรก็หลงเชื่อไปหมด หรือด่ากันเป็นวรรคเป็นเวร พอความจริงกระจ่างก็ปล่อยให้มันเงียบไป แล้วสร้างประเด็นขึ้นมาใหม่ อย่างนี้จะให้ผมเห็นดีเห็นงามด้วยคงไม่ได้ครับ เพราะถึงจะเรียนรู้น้อย แต่ก็พอจะมีสมองและวิจารณญาณอยู่บ้าง ข้อสำคัญผมไม่ยอมตกเป็นเหยื่อของกลุ่มที่ต้องการแย่งชิงอำนาจจากตัวแทนของประชาชนด้วยวิธีการพิเศษอย่างเด็ดขาด
แต่การกระทำต่างๆก็ใช่ว่าผมจะเห็นด้วยไปเสียทุกอย่างหรอกครับ อย่างการปรองดอง ถึงผมจะเห็นด้วย แต่ไม่มีทางที่จะยอมให้มีการนิรโทษกรรมอย่างแน่นอนครับ เพราะไม่มีทางยอมให้มีการละเว้นโทษจากคดีซื้อที่ของเมียมาแลกกับนิรโทษกรรมของฆาตกร 98 ศพ มันต่างกันมากเกินไป เพียงแต่ผมเห็นด้วยกับการปรองดองที่ผู้ต้องหาควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติ ผิดก็ว่ากันตามผิด ถูกก็ปล่อยไปอย่างผู้บริสุทธิ์ นี่เป็นจุดยืนของผมมาตลอดครับ
แต่ที่ผมยังไม่แย้งในเรื่อง พรบ.ปรองดอง เพราะผมยังไม่เห็นรายละเอียดเลยสักนิดว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับคุณทักษิณหรือไม่ เป็นความพยายามจะนิรโทษกรรมโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของพี่น้องเสื้อแดงหรือไม่ แล้วจะให้ผมคัดค้านเพียงเพราะเด็กที่ล้มละลายไปแล้วทางคำพูดอย่างนั้นหรือครับ ผมไม่โง่ขนาดนั้นหรอกครับ
ผมไม่เคยเห็นด้วย และก็แสดงอย่างชัดแจ้งมาตลอด ถ้าต้องให้พี่น้องคนเสื้อแดงต้องเสียสละ ยอมให้มีการนิรโทษกรรมล่ะก้อ ผมคนหนึ่งครับจะไม่มีวันยอมอย่างเด็ดขาด เพราะพี่น้องคนเสื้อแดงเสียสละมามากพอแล้ว ทั้งเวลา ทั้งทรัพย์สิน ทั้งชีวิต แล้วยังจะให้เสียสละอะไรอีกเล่า
แต่ที่จะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก็คือ ถ้ามีการเกี้ยเซี้ยระหว่างกัน โดยลืมพี่น้องที่ได้เสียสละเหล่านั้น ผมคงต้องถีบตัวเองออกมาอยู่นอกวง แต่ไม่ใช่จะละทิ้งอุดมการณ์ ดังนั้นถ้ามีอะไรผิดจากความตั้งใจ ผมก็แค่หาทางเลือกใหม่ (ขอกระซิบเบาๆไม่ให้ใครรู้ว่า ทางเลือกใหม่ของผมยังไง๊ยังไงก็ไม่มี ปชป.อยู่ในนั้นอย่างแน่นอน) แต่ผมจะไม่มีทางละทิ้งความเป็นคนเสื้อแดงอย่างเด็ดขาด เพราะมันกลายเป็นสัญลักษณ์ของอุดมการณ์ที่ต้องการประชาธิปไตยไปแล้วครับ
ส่วนเรื่องการตามขับไล่คุณอภิสิทธิ์นั้น ถ้าให้ผมพูดในฐานะของคนกลาง เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่งครับ ถ้าให้ผมพูดในฐานะของคนเสื้อแดง เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งครับ แต่ถ้าให้ผมพูดในฐานะของคนที่ต้องประสบกับการสูญเสียครอบครัวอันเป็นที่รัก นอกจากลอยนวลแล้ว ยังไม่ได้รับแม้แต่คำขอโทษ แถมยังโยนความผิดให้กับผู้เสียหาย ผมว่าการกระทำเหล่านี้ยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำไป ดังนั้นคงได้แต่พูดไปตามหลักศาสนา “กรรมใดใครก่อ” ได้แค่นั้นจริงๆครับ
ปล.ขอแค่นี้ก่อนนะครับ เพราะอธิบายมากไปก็ไม่มีใครอ่านจนจบอย่างแน่นอน คนไทยชอบอ่านแค่ไม่กี่บรรทัด แล้วก็ด่วนสรุปทันที ประเทศไทยถึงได้เป็นแบบที่เห็นไงครับ สวัสดี
จากคุณ |
:
ทวดเอง
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.ค. 55 10:33:30
A:58.9.141.125 X:
|
|
|
|