คุยกะคุณทวดเองวันอาสาฬหบูชาพอดีเลย
อ่านจนครบ
แล้วต้องแอบถอนใจ
คุณทวดเองช่างสรรคิดความต่าง แล้วยกมาเปรียบเทียบ
ประมาณๆว่า
คุณทวดเองคิดเหมารวม (ใช่ป่ะคะ)ว่า อีกฝ่ายเลือกอีกกลุ่มคำตอบ ฮี่ๆ
และเผอิ๊ญ เผอิญว่า กลุ่มคำตอบที่ถูกแยกประเภทจัดมาเนี่ยะ
ช่าง
ช่าง
ดูแล้วเหมือนคนไม่สมประกอบงัยมะรู้อ่ะคะ แฮ่ะ
ลองดูจิคะ
>> ฝ่ายหนึ่งต้องการรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
๐๐ อีกฝ่ายหนึ่งมุ่งปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ
จริงเหรอคะ ?
ตอนนี้มีแต่ความพยายาม(พรรคเพื่อไทย)ที่จะได้มาซึ่ง รธน.ใหม่
ซึ่งยังไม่ทราบว่า จะเป็น รธน.ฉบับประชาชนรึเปล่า?
เนื้อหาที่จะแก้ไข คืออะไร
ประชาชนต้องการจริงหรือไม่?
ก็ไม่ทราบแน่ชัด ...?
ประชามติก็ไม่ทำ
ที่จริงคือ ไม่ยอมทำ!
แล้วจะสรุปแบบนี้ได้หรือคะ
>> ฝ่ายหนึ่งต้องการความทัดเทียมในสังคม
๐๐ อีกฝ่ายพยายามอนุรักษ์ระบบอุปถัมภ์
ฟันธงว่าไม่จริงเลย ไม่มีความแตกต่างกันเลย ไม่มีใครเริ่มต้นด้วยซ้ำ
ระบบอุปถัมภ์ถูกอนุรักษ์ (ถ้าจะใช้วลีนี้) อย่างเข้มข้น
ทั้งสองฝ่ายค่ะ
คุณทวดเองน่าจะรู้แก่ใจดีนะคะ
เรื่องดวง เป็นแค่อีกเรื่องที่ยืนยันเท่านั้นเอง
คุณทวดเองไม่ดูคนขับแท็กซี่ที่เป็นแพะล่ะคะ
นี่เป็นผลจากกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น
ในรัฐบาลนี้
ที่คุมกรมตำรวจเบ็ดเสร็จค่ะ
ตัวอย่างคนรากหญ้าที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มถูกอุปถัมภ์...ของแท้
>> ฝ่ายหนึ่งต้องการประชาธิปไตยแบบสากล
๐๐ อีกฝ่ายกลับต้องการประชาธิปไตยแบบไทยๆ
ขอรายละเอียดเพิ่มเติมค่ะ
ประชาธิปไตยสากล
โครงสร้างเป็นอย่างไรคะ? ต่างกับประชาธิปไตยแบบไทย ตรงไหนบ้างคะ?
คุณทวดเอง ช่วยกรุณาชี้แนะด้วยคะ
>> ฝ่ายหนึ่งต้องการรัฐบาลจากประชาชน
๐๐ อีกฝ่ายต้องการรัฐบาลจากกองทัพ
คุณทวดเองได้ผลสำรวจจากสำนักไหนเหรอคะ
อยากรู้จัง
รบกวนขอข้อมูลด้วยค่ะ
>> ฝ่ายหนึ่งต้องการการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นต์
๐๐ อีกฝ่ายต้องการการเลือกตั้งแบบ 30 ต่อ 70
เอ๋..คุณทวดเองขา
เข้าใจว่ากลุ่ม พธม.นำเสนอความคิดระบบเลือกตั้งแบบ 30:70 ต่อประชาชน
แต่ก็เงียบไป เพราะแม้ผู้นำเสนอเองก็รู้ว่าไม่เป็นที่ต้องการของประชาชนส่วนใหญ่
จนพรรคการเมืองของกลุ่มผู้นำเสนอถอนตัวไม่ลงเลือกตั้งครั้งทีผ่านมา
ดังนั้นถือว่าข้อนี้ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงคะ
>> ฝ่ายหนึ่งต้องการวุฒิสมาชิกจากการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นต์
๐๐ อีกฝ่ายต้องการวุฒิสมาชิกทั้งเลือกตั้งและลากตั้ง
อันนี้ก็ยังไม่ชัดเจนจนสรุปแบบนี้ได้ค่ะ เพราะยังต้องรอความชัดเจนในการแก้ไข รธน.ก่อนคะ
>> ฝ่ายหนึ่งต้องการให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิมีเสียงเท่ากัน
๐๐ อีกฝ่ายต้องการให้คนมีความรู้ควรมีสิทธิมากกว่าคนอื่น
แหม..คุณทวดด่วยสรุปว่า ความแตกต่างของความคิดในสังคมซึ่งมากหลาย
กลุ่มคนผู้เสนอให้คนมีความรู้มีสิทธิ์มากกว่าคนอื่น มีเท่าไหร่ก็ไม่ทราบ
คุณทวดเองจะยกระดับพวกเค้าเหล่านั้นเป็น อีกฝ่าย เพื่อเปรียบเทียบเชียวหรือคะ
ขอยกมาวิจารณ์เพียงแค่นี้นะคะ
เพราะส่วนที่เหลือ จะออกมาในโทนเดียวกันหมด
คำวิจารณ์ก็คงประมาณเดียวกันค่ะ
แค่ติงคุณทวดเองว่า
คุณทวดเองไม่ชอบ บุคคลที่เอาดีใส่ตัวคนเดียว อิอิ
ฝากคุณทวดเองพิณาการแยกประเภทข้อมูล เพื่อแยกประเภทกลุ่มประชาชนด้วยค่ะ
ไม่ซีเรียสนะคะ เพียงแค่ขอคุยด้วยอ่ะคะ
ขอยกข้อเปรัยบเทียบข้อท้ายสุดที่คุณทวดเองสร้างสรรค์มา อิอิ
>> และสุดท้าย ฝ่ายหนึ่งเพียงต้องการให้รัฐบาลทำตามนโยบายทุกนโยบายที่หาเสียงไว้
๐๐ แต่อีกฝ่ายเพียรพยายามต่อต้านทุกนโยบาย แม้จะเป็นประโยชน์กับตัวเองก็ตาม
อันนี้น่าคิดค่ะคุณทวดเอง
. โพ้นฟ้าว่า น่าจะนำข้อแตกต่างข้อนี้ตั้งเป็นกระทู้เพื่อแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง
ดีมั้ยคะ