#9
คุณPOE
ต้องอ่านให้ดีน่ะครับ..
" สามารถรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า การกระทำของโจทก์ต่างๆ ตามข่าวสารพอมีมูลให้ฝ่ายจำเลยเชื่อโดยสุจริตว่า โจทก์มีเจตนากระทำการอย่างที่คัดค้านหรือต่อต้านไว้ ตามแถลงการณ์ฉบับที่ ๔/๒๕๕๑ และฉบับที่ ๕/๒๕๕๑ นั้น ถูกต้องเป็นความจริง
ดังนั้น ประชาชนจึงมีสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รักษาผลประโยชน์ของชาติและปฏิบัติตามกฎหมาย
จึงสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมืองและสังคมตรวจสอบการใช้อำนาจของ รัฐ กลุ่มประชาชนย่อมรวมตัวในลักษณะเครือข่าย สามารถแสดงความคิดเห็นและเสนอความต้องการของชุมนุม เพื่อพัฒนาการเมืองและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุขได้ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๐
ย่อมสามารถแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๒๙(๓) ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๓๕ วรรคสอง
ถือเป็นข้อยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาท.."
***************
ต้องแยกให้ออกน่ะครับ ศาลไม่ได้บอกว่าไม่ใช่ทักษิณจะล้มใครหรือล้มสถาบันใด..
แต่ศาลฯเห็นว่า จำเลยมีสิทธิที่จะวิจารณ์โดยสุจริตใจ เนื่องจาก
- ใช้สิทธิ์ตามรธน.50 มาตรา 35 วรรคสอง และการกระทำของโจทก์พอมีมูลที่ให้จำเลยสงสัย และเชื่อโดยสุจริตใจว่าโจทก์มีเจตนากระทำตามนั้น
****
แต่ศาลฯมิได้หมายความว่าโจทก์ทำเช่นนั้นน่ะครับ..
ต้องแยกประเด็นให้ออกน่ะครับ..