เมื่อมีการสมัครเข้ารับราชการเป็นทหารแล้ว เหตุใดนายอภิสิทธิ์ต้องไปตรวจเลือกในวันที่ 7 เมษายน 2530 ด้วยล่ะ
ซึ่งตรงนี้กฎหมายทหารตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 8 บัญญัติไว้ว่า
"การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการ ให้กระทำด้วยวิธีเรียกมาตรวจเลือกหรือจะรับเข้าเป็นทหารกองประจำการ โดยวิธีอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงก็ได้"
ซึ่งตามมาตรานี้ต้องนำไปใช้ร่วมกับกฎกระทรวงฉบับที่ 35 (พ.ศ.2516) ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ข้อ 3(3)ที่ระบุไว้ว่า
"การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยผู้ซึ่งยังไม่ถูกเรียกเข้าเป็นทหารกองประจำการหรือผู้ซึ่งเคยถูกเรียกเข้าเป็นทหารกองประจำการแล้ว แต่ไม่ถูกเข้ากองประจำการ ให้บุคคลดังกล่าวร้องขอต่อเจ้าหน้าที่กรมกองฝ่ายทหาร หรือฝ่ายตำรวจ ที่บุคคลนั้นประสงค์จะเข้ารับราชการกองประจำการ เมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าวพิจารณารับบุคคลใด ให้นำบุคคลนั้นขึ้นทะเบียนกองประจำการ ที่กรมกองฝ่ายทหารหรือฝ่ายตำรวจจะรับผู้ร้องขอเข้าในสังกัดหรือเหล่าใดให้เป็นไปตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด"
ข้อเท็จจริงคืออภิสิทธิ์ทำเรื่องสมัครรับราชการทหารก่อนวันเกณฑ์ทหารแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปเกณฑ์ทหารในวันที่ 7 เมษายน 2530 เมื่อนายอภิสิทธิ์ส่งใบสมัครเมื่อ 9 เมษายน 2530 ต่อมาวันที่ 7 สิงหาคม 2530 นายอภิสิทธิ์เข้ารับราชการเป็น ข้าราชการพลเรือนสังกัดกระทรวงกลาโหม ตามคำสั่งที่ 720/30
เพื่อคลายความสงสัย มาดูข้อกฎหมายกันอีกนิดว่า เป็นข้าราชการพลเรือน แล้วได้ยกเว้นการไม่ไปเกณฑ์ทหารหรือ เกี่ยวอะไรกับการเป็นข้าราชการทหาร ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ. 2521 มาตรา 4 วรรค 1 ได้ให้คำนิยามของคำว่า ข้าราชการทหารไว้ดังนี้
ข้าราชการทหาร หมายความว่า ทหารประจำการและข้าราชการกลาโหม พลเรือนที่บรรจุในตำแหน่งอัตราทหาร"
เรื่องนี้จบไปตั้งแต่ปี 2530 แล้วครับ แต่ยังอุตส่าห์ขุดคุ้ยกันขึ้นมาอีก คราวนี้เรามาดูประเด็นเอกสารที่ไม่อยู่ในระบบทางราชการ ตามที่สุกำพลแกอ้างบ้าง ทั้ง 2 ใบ เป็นใบ สด.9ใบนี้ปี 2529