อานิสงส์ภัยธรรมชาติฉุดผลผลิต-คาดราคาข้าวพุ่ง10%ใน3ด.
|
 |
นักวิเคราะห์ประเมินราคาข้าวเพิ่ม 30-40 ดอลลาร์ต่อตันหรือพุ่งขึ้น 10% ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า หลังทั่วโลกเผชิญพิบัติภัยธรรมชาติ ส่งผลอุปทานข้าวโลกส่อตึงตัว "อินโดนีเซีย" เดินเกมเร็วตกลงซื้อข้าวเวียดนาม 5 แสนตัน ด้าน “พาณิชย์” ลังเลออกเงื่อนไขประมูลสต็อกรัฐ รอทิศทางตลาดข้าวโลกหวังอินเดียแตะเบรกส่งออก ขณะที่ผู้ส่งออกชี้ชัดแผนกำหนดราคาขั้นต่ำ ส่งผลจำนำเสียหายแล้ว 1.7 แสนล้านบาท
สถานการณ์ผลผลิตและราคาข้าวโลก กำลังเป็นที่จับตามองจากทุกฝ่าย อันเนื่องมาจากพิบัติภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก ส่งผลให้ผลผลิตข้าวโลกส่อที่จะเกิดภาวะตึงตัวขึ้นได้และส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ไทยผู้ถือสต็อกรายใหญ่ของโลก กำลังรอดูท่าทีจากผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกอย่างอินเดีย ก่อนที่จะปล่อยสต็อกข้าวออกมา
รายงานข่าวในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล คาดการณ์ว่า ราคาข้าวในเอเชียจะสูงขึ้นถึง 10% ในช่วง 3 เดือนหน้า เมื่ออุปทานตึงตัว อันจะส่งผลต่อเนื่องให้งบประมาณด้านการจัดหาอาหารและต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น ในช่วงที่หลายประเทศในเอเชีย กำลังรับมือผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
บางประเทศอย่างอินโดนีเซีย เริ่มเตรียมซื้อข้าวมากขึ้น จากเกษตรกรในประเทศ พร้อมรักษาสินค้าสำรองคงคลังในรูปของการรับซื้อจากหน่วยงานจัดซื้อภาครัฐ ส่วนประเทศอื่นอย่างฟิลิปปินส์ ก็ส่งเสริมให้พ่อค้าเอกชนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายมากขึ้นในการนำเข้า
ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชีย มีกำลังพอนำเข้าข้าวมากขึ้น เพราะตัวเลขขาดดุลงบประมาณยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่สภาพการณ์อาจเปลี่ยนไปหากราคาข้าวพุ่งขึ้นอย่างกะทันหัน หรือเมื่อเกิดการแตกตื่นซื้อข้าว
การคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ว่า ราคาข้าวอาจขยับขึ้นสูงถึงตันละ 30-40 ดอลลาร์ สะท้อนความผันผวนในการเพาะปลูกตามฤดูกาล ฝนที่ตกน้อยในอินเดีย และการที่รัฐบาลไทยไม่สามารถส่งออกได้ หลังจากรับซื้อข้าวจากเกษตรกรในราคาสูงกว่าตลาด
ชี้ฟิลิปปินส์-อินโดฯ ผู้นำเข้ารายใหญ่
นายฟิลิป แมคนิโคลัส ผู้อำนวยการฝ่ายอันดับความน่าเชื่อถือเอเชียของบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่าราคาข้าวที่พุ่งขึ้นอาจบั่นทอนศักยภาพของฝ่ายการเงินการคลัง ในการผ่อนคลายด้านนโยบาย ทั้งที่เศรษฐกิจโลกกำลังอ่อนตัว
ทั้งนี้ สภาธัญพืชระหว่างประเทศทำนายเมื่อเดือนที่แล้วว่า ฟิลิปปินส์จะต้องซื้อข้าว 1.3 ล้านตันปีหน้า ซึ่งจะคิดเป็นราคาประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ ส่วนอินโดนีเซียคาดว่าจะต้องนำเข้าข้าว 1.5 ล้านตันปีหน้า คิดเป็นราคาเกือบ 700 ล้านดอลลาร์
สิ่งที่พ่อค้าวิตกคือทันทีที่ราคาเริ่มขยับสูงขึ้น ประเทศต่างๆ แม้แต่ประเทศที่มีสต็อกข้าวเพียงพอแล้ว จะเริ่มซื้อข้าวมากกว่าที่ตัวเองต้องการ
อินเดีย ซึ่งยกเลิกข้อห้ามส่งออกข้าวที่ใช้มา 3 ปีเมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว ผงาดขึ้นเป็นผู้จัดหาข้าวรายใหญ่ปีนี้ การจัดส่งข้าวของอินเดีย ฉุดราคาข้าวในโลกให้ลดลง ในช่วงที่การส่งออกข้าวของไทยลดลงกว่า 35% แต่ฝนที่ตกน้อยอาจทำให้สภาพการณ์เปลี่ยนไป โดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ คาดหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ผลผลิตข้าวของอินเดียในปีที่เริ่มต้นวันที่ 1 ต.ค. จะลดลง 5.6% เหลือ 98.5 ล้านตันเพราะฝนน้อย
รัฐมนตรีเกษตรอินเดียกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า ไม่มีแผนเสนอให้ห้ามส่งออกอีกครั้งหนึ่ง แต่พ่อค้าบางรายเกรงว่ารัฐบาลอาจถูกบีบให้ต้องห้ามส่งออกหากภัยแล้งรุนแรงมากขึ้น
ประเมินไทยปล่อยสต็อกลดราคา
รายงานข่าวระบุว่าไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก อาจเป็นกุญแจสำคัญ เพราะการจ่ายเงินในระดับสูงให้เกษตรกร ส่งผลให้มีข้าวในสต็อกเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 16 ล้านตัน ที่ผ่านมารัฐบาลได้ลดการส่งออกข้าวลงมาก เพื่อจะได้ไม่ขาดทุน กระนั้นโกดังข้าวหลายแห่งกำลังเริ่มเต็ม
นายราจิฟ บิสวัส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ในเอเชียแปซิฟิกของบริษัท ไอเอชเอสโกลบอลอินไซต์ มองว่าปริมาณข้าวสำรองจำนวนมาก มีแนวโน้มจะบีบให้ไทยต้องเริ่มนำข้าวในสต็อกออกขายเร็วๆ นี้ ซึ่งหากเป็นจริงก็จะช่วยจำกัดผลกระทบด้านราคาข้าว ที่เกิดจากผลกระทบภัยแล้งในอินเดียลงได้บ้าง
อินโดฯ ซื้อข้าวเวียดนาม 5 แสนตัน
หนังสือพิมพ์จาการ์ตา โกลบ รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ในสำนักงานบูล็อกของอินโดนีเซีย ว่า เวียดนามตกลงให้สิทธิอินโดนีเซียซื้อข้าวเพิ่มสูงสุด 500,000 ตัน หากมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าการซื้อขายดังกล่าวจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย.นี้
แหล่งข่าวรายดังกล่าว ระบุว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้ดำเนินมาตรการต่างๆ ไปจำนวนหนึ่ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความจำเป็นที่จะต้องนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น
"อินโดนีเซียอาจจำเป็นต้องนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น หลังสิ้นเดือน ก.ย.ไปแล้ว ซึ่งหากตัดสินใจนำเข้าจริง เวียดนามก็พร้อมที่จะขายให้ในจำนวน 500,000 ตัน"
การเคลื่อนไหวข้างต้น เกิดขึ้นหลังรัฐบาลอินโดนีเซีย มีความกังวลในเรื่องราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น จากราคาซื้อขายข้าวโพด และถั่วเหลืองในตลาดล่วงหน้าพุ่งสูงขึ้น เพราะสถานการณ์ภัยแล้งครั้งเลวร้ายสุดในรอบ 56 ปี ของสหรัฐ
ราคาข้าวเวียดนามไต่ระดับสูงขึ้น
ขณะที่หนังสือพิมพ์เวียดนาม อิโคโนมิค ไทม์ส ของเวียดนาม รายงานว่า การทำข้อตกลงแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ระหว่างเวียดนาม กับอินโดนีเซียนั้น รวมถึง ข้าว 15% โดยไม่ได้ให้รายละเอียดในเรื่องราคาซื้อขาย หรือกำหนดส่งมอบแต่อย่างใด
ทางด้านเทรดเดอร์ ในนครโฮจิมินห์ ซิตี ของเวียดนาม เผยว่า บริษัทต่างๆ ภายใต้การกำกับดูแลของไวนาฟูด2 ได้เริ่มซื้อข้าวมาเก็บสำรองไว้แล้ว ตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดการทำข้อตกลงขึ้นมา เพราะกังวลว่าถ้ารอต่อไป ราคาข้าวอาจทะยานสูงขึ้นมาได้ โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาข้าวในตลาดท้องถิ่นของเวียดนามปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไทยยังไม่เปิดประมูลรอท่าทีอินเดีย
แหล่งข่าวจากกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้การกำหนดเกณฑ์การระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลยังไม่แล้วเสร็จ โดยรัฐบาลยังรอทิศทางความชัดเจนทิศทางตลาดข้าวโลก โดยเฉพาะอินเดียว่าจะเดินหน้าส่งออกข้าวต่อไปหรือไม่ หลังจากที่อินเดียกำลังประสบปัญหาภัยแล้งในขณะนี้ ซึ่งยอมรับว่าหากอินเดียไม่ส่งออกข้าว ก็จะเป็นผลดีต่อการระบายข้าวของไทยที่กำลังจะเกิดขึ้น ให้สามารถระบายได้มากขึ้น ทั้งปริมาณและราคา แต่หากอินเดียยังคงเดินหน้าส่งออกต่อไป ก็อาจทำให้ต้องปรับแผนระบายข้าวบ้างเล็กน้อย
ในส่วนแนวความคิดการกำหนดราคาส่งออกข้าวขั้นต่ำ หรือ minimum price นั้น กรมฯ เคยมีแนวคิดเมื่อหลายปีก่อน แต่ไม่ได้ดำเนินการ เพราะขัดแย้งกับวิธีการทำการค้าแบบเสรีของไทย
วิชัยชี้จำนำทำเสียแล้ว 1.7 แสนล้าน
นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การกำหนดราคาส่งออกข้าวขั้นต่ำ เท่ากับไทยไม่ต้องการขายข้าวอีกต่อไป เพราะราคาที่กำหนดขึ้นเอง โดยไม่เป็นไปตามกลไกตลาด ทำให้ผู้ซื้อในต่างประเทศ ไม่ตอบรับราคาดังกล่าว ส่งผลให้ช่องทางการระบายข้าวมีเฉพาะรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เท่านั้น แต่จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีการขายและส่งมอบจีทูจีได้ตามที่กล่าวอ้าง จึงมีความวิตกว่าปริมาณข้าวจะล้นประเทศ เพราะไทยเป็นผู้ผลิตข้าวที่มีส่วนเกินจากการบริโภคทุกปีปีละ 10 ล้านตัน มีมูลค่าส่งออกเฉลี่ยปีละ 1.5 แสนล้านบาท
"หลังจากที่มีโครงการรับจำนำข้าวเมื่อ ต.ค. 2554 จนถึงปัจจุบันส่งออกข้าวลดลงเกือบ 50% หรือมูลค่าการขายข้าวหายไปแล้วมากกว่า 7 หมื่นล้านบาท ไม่รวมเม็ดเงินที่ใช้สำหรับการดูแลรักษาข้าวและอัตราดอกเบี้ยที่ใช้ในโครงการมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท ไม่รวมมูลค่าความเสื่อมของข้าวที่จะลดลงจากนี้ ทำให้รวมมูลค่าความสูญเสีย จากโครงการรับจำนำแล้ว 1.7 แสนล้านบาท" นายวิชัยกล่าว
เชื่อภัยแล้งดันราคาข้าวได้ไม่มาก
ส่วนแนวโน้มทิศทางราคาตลาดจากนี้ไป ไม่ควรฝากความหวังไว้ที่ผลกระทบภัยแล้งของทั้งอินเดียและจีน เพราะหากไม่เกิดขึ้น การขายข้าวของไทยจะประสบปัญหาทันที ขณะเดียวกัน แม้จะเกิดผลกระทบภัยแล้งรุนแรงแต่เทียบสถิติราคาข้าวที่ผ่านมาเมื่อปี 2551 ที่ราคาพุ่งสูงสุดก็จะพบว่ามีระยะเวลาสั้นมากจากนั้นราคาจะลดระดับต่ำลงมาอยู่ในเกณฑ์ที่ตลาดยอมรับได้เท่านั้น
“ตอนนี้ผลกระทบโครงการรับจำนำสะท้อนออกมาจากปริมาณส่งออกข้าวที่ลดลง ว่าตลาดไม่ตอบรับราคาข้าวไทย และยิ่งไปกำหนดราคาขายขั้นต่ำสุด ก็เท่ากับว่า ไทยประกาศจะไม่ขายข้าว ตอนนี้ ยังพอมีเวลาก็ควรกลับสู่กลไกตลาดแทนที่จะดื้อถือสต็อกและใช้เงินไปกับโครงการรับจำนำต่อไป” นายวิชัย กล่าว
อคส.พร้อมจำนำข้าวรอบใหม่
ด้าน พ.ต.ต.ศราวุฒิ สกุลมีฤทธิ์ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบโกดังกลางที่เก็บข้าวของรัฐบาลแล้วว่าข้าวในสต็อกของรัฐบาล โดยหน่วยที่เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ จะรายงานผลการตรวจไปยังต้นสังกัดและหากพบสิ่งผิดปกติหน่วยงานต่างๆ จะรายงานมายัง อคส.ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
ส่วนความพร้อมโครงการรับจำนำรอบใหม่ ที่จะมีขึ้น 1 ต.ค.นี้ หลังจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2555 สิ้นสุด 15 ก.ย.นี้ ก็จะมีเวลาให้โรงสีที่เคลียร์โครงการให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน ก่อนโครงการใหม่เริ่ม ซึ่งจะมีความพร้อมทั้งจำนวนโรงสีและสถานที่จัดเก็บข้าวที่จะเข้าร่วมโครงการฯที่ยังคงใช้หลักการเดิมคือรับจำนำทุกเม็ด
ในส่วนโรงสีที่เข้าร่วมโครงการคาดว่าจะมีประมาณ 600 แห่ง และรัฐบาลมีแผนเชิญชวนโรงสีทุกแห่งทั่วประเทศร่วมโครงการ แต่ยังคงไม่ให้โรงสีที่ติดแบล็คลิสต์ จำนวน 50 โรงร่วมโครงการ เพราะมีความผิด เช่น นำข้าวไปขายก่อนโดยไม่นำทั้งข้าวหรือเงินมาชดเชยให้รัฐบาล
http://www.suthichaiyoon.com/detail/36289
โชดดีจัง รัดบานนี้ ต้องรอให้ชาวบ้านวอดวายก่อนตัวเองถึงได้ประโยชน์ ว่าแต่พอมีข่าวนี้ พอมาอ่านเจอข่าวนี้เข้าให้เราจะทำไงดีล่ะทีนี้
ภัยแล้งลามหลายจว.อีสานอ่วมข้าวยืนต้นตายนับแสนไร่
http://www.suthichaiyoon.com/detail/36295
จากคุณ |
:
pigX4
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ส.ค. 55 08:24:02
A:171.99.73.217 X:
|
|
|
|