.มาตามสัญญาครับเมื่อตะกี๋ ดันไปลงผิดทู้ซะงั้น
.
.
เรียนตรงๆน่ะครับว่า ผมมิทราบว่า พี่สาวฯ กวักมือเรียกพ้ม มาว่าให้ผมพูด หรือวิจารณ์ในประเด็นไหน..
แต่คาดว่าถ้าผมเดาไม่ผิด พ้มว่าน่าจะเป็นประเด็นหลักๆดังนี้ ขอรับ
1 ) คุณทักษิณเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่าง กลุ่มอำนาจใหม่ ที่พวกชาวกรุง ชอบพูดชอบดูแคลนเสมอว่าไต่เต้ามาจากพวกคนบ้านนอกที่มีกะตังค์ ใช่หรือไม่..?
2 ) คุณทักษิณเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่าง กลุ่ม( ที่เกือบได้)อำนาจ แต่ไม่มีวาสนา เพื่อมาทวงแค้นคืนเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม ใช่หรือไม่..?
3 ) จากข้อ 1 บวกกับข้อ 2 ..เมื่อคนที่ไม่เคยมีเสียงดัง แต่มีตังค์ บวกกับ คนที่เคยคิดว่าจะเสียงดัง แต่ยังมีพลังภายใน แต่จะรวมกันได้อย่างไรถ้าไม่มีตัวเชื่อม..แบบคุณทักษิณ..?
4 ) แล้วคุณทักษิณเป็นใคร..ทำไมต้องเป็นคนๆนี้..?
5 ) สุดท้ายงานวิจัยฉบับนี้สรุปว่า จากข้อ 1 ถึง 3 เป็นผลมาจากข้อ4 จึงทำให้ประสบความสำเร็จในการสร้างเครือข่ายอำนาจใหม่ขึ้นมา ในนาม..เครือข่ายชินวัตร ..ด้วยการตลาด โดยนำการสื่อสารในโลกยุคใหม่มาใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุด..?
พ้มก็เป็นคนความรู้น้อยจึงมิบังอาจไปวิจารณ์การทำวิจัยของคุณอุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ นักวิจัยเชี่ยวชาญพิเศษ สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ ผู้นี้ได้..
เพราะอาจารย์ท่านนี้..เคยทำวิจัย ทำนองนี้อยู่บ่อยๆ จนเรียกคุณทักษิณว่าเป็นสายเหยี่ยว..
แต่พ้มตั้งขอตั้งข้อสังเกตดังนี้ก็แล้วกัน
1 ) พ้มก็ไม่ทราบว่าจะวิจัยไปทำแมวอะไร ก็ทั้งนักวิชาการ คอลัมนิสต์ต่างๆก็เขียน ก็วิจารณ์กันจนปรุไปแล้วว่านี่คือ การต่อสู้ระหว่างกลุ่มทุนอำนาจใหม่ กำลังกลุ่มทุนอำนาจเดิมๆ..เหมือนในละครเรื่อง..วนิดา..นั่นแหละครับ..
2 ) เมื่อโลกของเรามีวิวัฒนาการมากขึ้น แบบที่เขาเรียกว่าโลกาภิวัตน์..กลายเป็นโลกไร้พรมแดน และทุกคนมีสิทธิในการเข้าถึง จึงไม่ต้องพึ่งพาแต่ฝ่ายข้าราชการเหมือนแต่ก่อนแต่อย่างใด..มีแต่คนหัวไวอย่างคุณทักษิณ ( ไม่ได้ยอน่ะครับ ) ที่เล็งเห็น..และจับเอามาเป็นประโยชน์ได้ก่อน และนานมาแล้วด้วย..
ชาวกรุงพวกผู้มากลากดีถือแบล๊คเบอร์รี่..คนบ้านไกลก็ถือบลูเบอร์ลี่ MBK ..ได้เหมือนกัน
3 ) เมื่อคุณทักษิณ ก็มาจากคนธรรมดา ไม่มีเชื้อเจ้า เชื้อพระยาแต่อย่างใด..แต่เป็นคนที่ประสบความสำเร็จทั้งการศึกษา การทำงาน และทางธุรกิจ..นี่ย่อมเป็นไอดอลให้คนธรรมดาๆมีกำลังใจ ลุกขึ้นมาสู้ เพื่อทวงพื้นที่ให้มีที่ยืนอย่างมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน..
กรูไม่รวย แต่กรูก็ไม่จน แต่คนอย่างข้าอย่ามาหยาม..
นี่เท่ากับเป็นการสื่อสารที่ได้ความหมายที่ทรงพลัง..ว่าเราเป็นพวกเดียวกัน มาจากคนเดินดินกินข้าวแกงเหมือนกัน..ต่างกันที่เงิน แต่หัวใจไม่ต่างกัน..
สุดท้าย..ง่ายนิดเดียวแต่ได้ใจความ..
ใครครองใจมวลชนได้มากกว่า ผู้นั้นคือผู้ชนะ
ตรงนี้ซิครับ คุณอุกฤษฏ์ ปัทมานันท์..สมควรไปทำวิจัยว่าทำไมเพื่อไทย ถึงครองใจมวลชนได้มากกว่าพรรคการเมืองอื่น
โดยเฉพาะพรรคการเมืองเก่าแก่ ที่ชอบอ้างว่าเสียเปรียบเรื่องฐานทุน และไม่มีสื่ออยู่ในมือ
หยุมหยิม..จุ๊กจิ๊ก..พ้มว่าน่ารำคาญ..กับงานวิจัยชิ้นนี้..
มันมีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติหรือไม่อย่างไร พอที่จะเอามาประกอบกับการวิจัยเชิงลึกบ้างมั้ยครับ..
..ยุ่ย..
.
.