.
ความจริงเรื่องก็เกิดที่ศาลอาญา เมื่อวานนี้ วันเดียวกับที่ศาลฯเตรียมพิจารณาถอนประกันแกนนำ นปช.ในวันี้นั่นแหละครับ..แล้วก็ตามฟอร์ม จะขอเลื่อน แต่เที่ยวนี้ศาลฯไม่ให้เลื่อน..
ลองอ่านดูน่ะครับผมคัดมาจากประชาไท..
21 ส.ค.55 ที่ศาลอาญา รัชดา นายสนธิ ลิ้มทองกุล จำเลยในคดีความผิดตามมาตรา 112 คดีหมายเลขดำที่ อ.2066/2553 โดยนายสนธิได้ขึ้นเบิกความเป็นพยานตนเอง ส่วนการสืบพยานในวันที่ 22 ส.ค.ทนายจำเลยได้ขอเลื่อน แต่ศาลไม่อนุญาตจึงขอยกเลิกเนื่องจากเป็นนัดฟังเรื่องถอนประกันแกนนำเสื้อแดง มีมวลชนมาเป็นจำนวนมากเกรงว่าจะมีเหตุปะทะกัน
ส่วนการสืบพยานจำเลยนัดหน้าจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 ส.ค.นี้ โดยมีพยานได้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายปานเทพ พัวพงศ์พันธุ์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ( เป็นพยานจำเลย )
นายสนธิ เบิกความว่า ได้นำคำพูดของดารณีมากล่าวบนเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 20 ก.ค.51 โดยหยิบยกคำปราศรัยของดารณีที่มีการพาดพิงสถาบันในวันที่ 18-19 ก.ค.51 มาบอกกล่าวกับประชาชน นอกจากนี้ยังมีการปราศรัยของดารณีที่เข้าข่ายเดียวกันในช่วงเดือนมกราคมและเดือนมิถุนายนปีเดียวกันด้วย
แต่ตำรวจกลับส่งฟ้อง ( ตนเอง ) เฉพาะกรณีเดือนมกราคมและมิถุนายน โดยศาลพิพากษาจำคุกดารณีไปแล้ว แต่ตำรวจไม่ได้ส่งฟ้องกรณีเดือนกรกฎาคม เพราะหากศาลพิพากษาว่าดารณีมีความผิดจริง แม้การกล่าวของดารณีไม่ได้ระบุชื่อ ก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อคดีของตน ตำรวจที่รับผิดชอบจึงไม่ดำเนินการ
นายสนธิ อธิบายว่า ไม่ได้จะกล่าวหาว่าตำรวจกลั่นแกล้ง แต่สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเป็นเช่นนั้น เนื่องจากตำรวจที่ดำเนินการทั้งเจ้าของสำนวนคดีนี้ และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับบัญชาขณะนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความขัดแย้งกับตัวเขาเองโดยตรง เนื่องจากเป็นผู้ดำเนินคดีข้อหากบฏกับแกนนำพันธมิตรทั้ง 9 คน
และเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องระบุว่าการตั้งข้อหาไม่ถูกต้อง แกนนำพันธมิตรฯ จึงฟ้องกลับกับ ป.ป.ช. นอกจากนี้คนที่เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีนี้ก็ยังเป็นคนสนิทของนายเนวิน ชิดชอบอีกด้วย
อัยการถามว่าข้อความที่ดารณีปราศรัยนั้นไม่มีการระบุชื่อ แต่ข้อความที่จำเลยนำมาพูดนั้นมีความแตกต่างกันใช่หรือไม่ นายสนธิตอบว่า หากดูตามตัวอักษรก็ใช่ แต่ดารณีหมายความตามที่ตนได้ปราศรัย
ส่วนเหตุที่ไม่ได้นำซีดีหลักฐานไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ทันทีแต่กลับนำไปปราศรัยบนเวทีซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมด้วยนั้น นายสนธิให้เหตุผลว่า เป็นเพราะไม่เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการ จึงต้องการกดดัน กระทั่งวันรุ่งขึ้นกองทัพบกได้ส่งตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดีเอง ทางกลุ่มพันธมิตรฯ จึงดำเนินการเพียงส่งแผ่นซีดีเป็นหลักฐาน
ประกอบ
สนธิยังย้ำด้วยว่าเจตนาของเขากับของดารณีนั้นแตกต่างกัน สังคมเป็นที่รับรู้ทั่วไปว่าฝั่งเสื้อแดงนั้นต้องการล้มล้างสถาบัน ส่วนเขานั้นต้องการปกป้องสถาบัน ดังที่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับความจงรักภักดีมากมาย
.
http://www.prachatai.com/journal/2012/08/42219
*******************************************************
สรุปแว่..
1 ) ดา ตอปิโด.. ติดคุกไปร่วม 4 ปีกว่าแล้ว..แต่คนที่นำคำปราศรัย ดังกล่าวฯ ไปเผยแพร่ซ้ำ มันก็ยังลอยนวลหน้าตาเฉย..
2 ) ดา ตอปิโด.. ติดคุกไปร่วม 4 ปีกว่าแล้ว..ทั้งๆที่ไม่ระบุชื่อ แต่แป๊ะลิ้มไปตัดต่อคำพูดเติมเสริมแต่ง ซึ่งตัวแป๊ะลิ้มก็ยอมรับ แล้วมันก็ยังลอยนวลอยู่ได้หน้าตาเฉย..
3 ) ดา ตอปิโด..ปราศรัยวันที่ 18-19 กค.51 แต่ แป๊ะลิ้มเอามาเผยแพร่ ปราศรัย พร้อมแต่งเติมชื่อเมื่อวันถัดมา 20 ก.ค.51..ท่านว่ามันไม่มีเจตนาดอกหรือ..?
4 ) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112ไม่มีข้อยกเว้นความผิดน่ะครับ กล่าวคือ ผู้ที่แม้แสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์บุคคลโดยสุจริตใจ ก็ไม่สามารถอ้างเหตุใดๆ เพื่อไม่ต้องรับผิดได้
อีกทั้งไม่เปิดโอกาสให้ผู้กล่าววิพากษ์วิจารณ์พิสูจน์ว่าสิ่งที่ตนกล่าวนั้นเป็นความจริงและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเพื่อขอให้ยกเว้นโทษหรือไม่
5 ) ดังนั้นจึงไม่มีเหตุอันใดมาอ้างน่ะครับ..ว่านำมาเผยแพร่โดยสุจริต..หรือว่าจงรักภักดีต่อสถาบัน เพราะถ้ารักสถาบันจริง ต้องแจ้ง จพนง.ซิครับ..จะมาอ้างว่าไม่ไว้ใจ ต้องการกดดันจนท.นี่มันฟังขึ้นหรือไม่..?
โปรดดู..นักโทษคดีม. 112 อย่าง 'โจ กอร์ดอน' สัญชาติไทย-อเมริกัน..เป็นตัวอย่าง..อ้างว่าไม่มีเจตนาแต่..ก็โดนลงโทษด้วยความรวดเร็ว..ผลก็เป็นอย่างที่ทราบ..จำคุก..
ดังนั้นเมื่อไม่อยากให้แก้ไข ม.112..ก็ต้องใช้มาตรฐานเดียวกันครับ..
เส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่..ใส่ลูกชิ้นน้ำใส..ใหญ่มาจากไหนก็ราคาเดียวกันครับ..
จำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี..ไม่มีรอลงอาญา..ปราศรัยหลายที ออกทีวีซ้ำกี่หนก็ต้องเบิ้ลไปครับ..
อย่างนี้ถึงจะยุติธรรม..ถึงจะเรียกว่านิติรัฐเหมือนที่ชอบอ้างกันนัก..
ฟังเพลงครับ..
America Sandman
.